เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด กับสาเหตุหย่าอดีตสามี วันนั้นเกิดอะไรขึ้น

          เขื่อน ภัทรดนัย เล่าอดีตรักที่เจ็บปวดในการหย่าร้าง เผยสาเหตุที่เลิกรากับอดีตสามี วันนั้นที่ออกจากบ้านเอาอะไรมาบ้าง กับคำพูดของคุณแม่ ที่ทำให้ลุยต่อได้จนวันนี้ 
 

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

          รายการ Prime Cast  เปิดใจ เขื่อน ภัทรดนัย อดีตสมาชิกวง K-OTIC จากไอดอลสู่ผู้เยียวยาจิตใจ ที่กลายเป็นเสียงสำคัญเรื่องสุขภาพจิตและความเป็นตัวของตัวเอง ที่เผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิตรัก การหย่าร้าง และการเติบโตทางจิตใจ เขื่อนเลือกใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงกับตัวเอง ปัจจุบันเป็นนักจิตบำบัดเต็มเวลา พร้อมกับสร้างโปรเจกต์ "จุดพักใจ" ที่เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้คนได้พูดคุยและปรึกษาปัญหาชีวิต

          โดยในช่วงหนึ่ง เขื่อน ภัทรดนัย ได้ถูกถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีต เรื่องการแต่งงาน และการหย่าร้างกับอดีตสามี พร้อมเผยถึงความสัมพันธ์ที่ Healthy และยังให้คำแนะนำกับคนที่เจอรัก Toxic อีกด้วย
 

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

- ความสัมพันธ์ในอดีตการแต่งงาน

          เขื่อน ภัทรดนัย : อดีตสามี คนงงเยอะมาก สรุปแต่งงานแล้ว หย่าแล้วเหรอหรืออะไร เพราะว่าสุดท้ายแล้วมีแฟนกี่คน หน้าคล้ายกันหมด คนที่เคยแต่งงานด้วยคบกันประมาณ 3 ปี แล้วก็ตัดสินใจแบบแต่งงาน พอแต่งไปแล้วเราก็รู้สึกว่าดีอีกมุมหนึ่งอยากพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็นว่าเราดีพอ แต่พอแต่งแล้วเราเริ่มไม่รักตัวเอง เป็นตัวเองน้อยลง เราเอาความรู้สึกทุกอย่างมาก่อนยกเว้นตัวเอง แล้วให้ตัวเองเล็กลงเพื่อที่จะมีค่าพอที่จะอยู่ตรงนั้น จำได้ว่าวันที่บอกเลิกทุกอย่างมันฉุกละหุกมาก ไม่ใช่การทะเลาะกันแต่เหมือนเป็นไฟเย็น นิ่ง ๆ รู้สึกว่าคนนี้ที่เราแต่งงานด้วย ไม่ใช่คนที่เรา say yes ด้วยที่เราเข้าพิธีแต่งงานด้วย ก็เลยบอกเขาว่าเลิกกันเถอะนะ ตอนนั้นสมองมันคิดเร็ว ถ้าเลิกกับแฟนเราต้องเอาอะไรออกจากบ้าน เพราะเราอยู่บ้านเช่าด้วยกันด้วยความแบบจริตกะเทย เราบอกว่าไอเลิกกับยูนะ หันไปหยิบมอยเจอไรเซอร์ 1 กระปุก ไม่หยิบอย่างอื่นเลย แล้วก็เดินออกมา แล้วไม่เคยกลับไปบ้านอีกเลย กว่าจะเจอกันอีกก็ 4-6 เดือน ที่กว่าเขาจะมาคุย แผลมันสะสมมาเรื่อย ๆ คือเด็กทั้งคู่แล้วกว่าจะมาตกตะกอนได้ ทั้งคู่ว่าวันนั้นเราน่าจะคุยกันอีกแบบหนึ่งหรือว่าอะไรผิดไปก็ผ่านมา 1 ปีแล้ว เราไม่ได้อยู่บ้าน อยู่ที่อังกฤษ ไม่มีคนที่จะพักพิงได้ขนาดนั้น วันที่หย่าเพิ่งเริ่มเรียนปริญญาเอกแล้วก็เป็นนักจิตบำบัดฝึกหัดด้วยแล้วแผนกที่ต้องไปฝึกงานแผนกจากลา การสูญเสียคนรัก เพราะฉะนั้นคนไข้ที่เข้ามาคุยกับเราจะคุยเรื่องความรัก ตอนนั้นก็นั่งเกร็ง ชีวิตเราผ่านมาเยอะ แต่การหย่ากับสามี เพิ่งเคยเข้าใจว่าเราตื่นมาทุกวันแล้วมีคำถามตัวเองว่าฝันหรือเรื่องจริง ชีวิตที่มีความสุขขนาดนั้น ทำไมเราถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ โทร. ไปหาคุณแม่บอกว่าตัดสินใจแล้วว่าจะหย่า ปกติคุณแม่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น คุณแม่พูดคำเดียวว่ากลับบ้านลูก เหมือนเราสามารถกู้ทุกร่างที่แหลกของเราขึ้นมา รู้สึกว่าชีวิตเฮงซวย ชีวิตยากแต่มีคนที่รักเราอยู่ที่บ้าน ลุยต่อไปได้จนถึงวันนี้

- ทุกวันนี้ยังมีเรื่องอะไรที่คาใจอยู่ไหม กับเรื่องที่เลิกกันในอดีต ถ้าย้อนกลับไปได้อยากถามอะไรตัวเอง

          เขื่อน ภัทรดนัย : ไม่อยากถามเขา เพราะรู้สึกว่าในฐานะแฟน ในฐานะอดีตคนที่แต่งงานกัน เราทำหน้าที่สามีที่ดีที่สุดแล้ว แต่อยากกลับไปบอกตัวเองว่ารักคนอื่นรักได้ เป็นคนเชิดชูความรักมาก รักคนอื่นได้แต่ต้องไม่ลืมรักตัวเอง อยากกลับไปคุยกับตัวเองแล้วตบหลังว่าจะบ้าผู้ชายจะรักใครแต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย ถ้าคนอื่นเขาให้ความรักเราได้ เขาก็เอาคืนไปได้เช่นกัน วันที่เขาไม่ได้อยากได้สิ่งที่เขาอยากได้ คล้าย ๆ เอาความรักที่เขาให้เราคืนไป แล้วเราก็จะพยายามหาอะไรไปแลกเพื่อได้ความรักนั้นคืนมา เรียกทฤษฎีนี้ว่า Self-love 30-70 ถ้าเราเป็นคนที่รักตัวเองได้แค่ 30% เราต้องหาอย่างอื่นมาถมให้รู้สึกเป็น 100% ต้องมีแฟน ต้องปังในโซเชียล แล้วจะรู้สึกคอมพลีต ถ้าเกิดเรารักตัวเองได้แบบ 100% หรือ 90% อะไรดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตนะมันคือ กำไรล้วน ๆ

- เรื่องรักที่บางคนเจอความรักที่เป็นแพตเทิร์นคนเดิม ๆ จะก้าวผ่านยังไง

          เขื่อน ภัทรดนัย : เราชอบบอกว่าทำไมเราถึงดึงดูดแพตเทิร์นคนเดิม ๆ เราไม่ได้ดึงดูดเขา แต่วิ่งหาอะไรที่มาเติมเต็มเราที่รู้สึกว่ามาเป็นความรักให้เรารู้สึกคอมพลีตได้ ต้องมองมุมกลับ เราชอบโทษว่าแบบมีแต่คนแบบนี้เข้ามาหาเรา จริง ๆ คนเข้ามาหาหลายแบบแต่เราอาจจะเปิดประตูให้คนรูปแบบนี้
 

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

- ความสัมพันธ์ที่ Healthy ในนิยามของเขื่อนคืออะไร

          เขื่อน ภัทรดนัย : ณ วันนี้ ในวัยนี้คืออยากให้เขารักทุกพาร์ตของเขื่อน ไม่ใช่แค่ว่าชอบเราเพราะเห็นว่าทำงานเก่ง เขาต้องรักในมุมที่ไม่ดีของเรา รักทุกพาร์ตที่เป็นเรา

- ตอนนี้ความรักที่มีอยู่เป็นแบบนี้หรือเปล่า

          เขื่อน ภัทรดนัย : แฮปปี้มาก พอหย่า พอมีแฟนแล้วจะกลายเป็นออกซิเจนน่ะ Hopeless Romantic สุด ๆ เราเชิดชูมาก แต่กลายเป็นพอหย่ากับอดีตสามี เราทำงานกับตัวเองเยอะมาก กลายเป็นคนที่มีกำแพงสูงมาก ก่อนที่มาเจอแฟนคนปัจจุบัน ต่อให้มีคนที่ดีเข้ามาเราก็จะหาอะไรที่ไม่ดีจนเจอ เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าสุดท้ายความรักมันก็ต้องไม่รอดอยู่ดี กลายเป็น 4 ปี ที่แบบกำแพงเราสูงมากเราปกป้องตัวเองจนกลายเป็นเราป้องกันตัวเองจากสิ่งดี ๆ ด้วยเราไม่ให้สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต จนมาเจอลุงแมทหรือแฟนปัจจุบัน ก็คือเข้ามาแบบงง ๆ ไปเที่ยวกับเพื่อนที่ชื่อตั้มกับโดม คืนนั้นไม่อยากออกด้วย คิดในใจว่าอยากทำงานเหนื่อยอยากนอน ไหน ๆ ก็ออกมาแล้วเอนเตอร์เทนเพื่อนสาว เห็นเขายืนอยู่ เราไปชมเขาว่าตาสวย แล้วก็วิ่งหนีเขาไปอีกวันหนึ่งก็ไปงานที่เชียงรายแล้วก็ผ่านวัดสีน้ำเงิน มีคนบอกว่าวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์นะ ถ้าอยากขออะไรลองขอ เขื่อนเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ รู้สึกเฉย ๆ ก็พูดว่าถ้าเกิดแน่จริงก็ให้พี่เขามาจีบสิ พอหลังจากนั้นเขา DM มาไปกินข้าวกันไหม หลังจากวันนั้นที่ไปกินข้าวกัน ไม่เคยห่างกันอีกเลย ในอนาคตจะเป็นยังไงเราว่ากัน แต่ในวันนี้รู้สึกว่ามันดี รู้สึกว่าไม่ต้องพยายามมากกับความรัก
 

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

- การที่เรามีความรักที่ไม่ดี มันส่งผลกับชีวิตเรายังไงบ้าง

          เขื่อน ภัทรดนัย : สุด ๆ เรากินอะไรเราก็เป็นแบบนั้น อยู่กับใครก็เป็นคนแบบนั้น แล้วคนรักคืออยู่ใกล้กันเลย อยู่ข้างเรา ถ้าคนรักเราท็อกซิกแล้วเขาไม่ซัพพอร์ตเราก็จะรู้สึกตัวเล็ก เราก็จะกลายเป็นคนท็อกซิก แล้วก็จะเป็นคนที่เป็นแสงสว่างที่ค่อย ๆ มืดลงเรื่อย ๆ แต่ถ้าความรักมันดีแล้ว คนข้าง ๆ ซัพพอร์ต  จะตื่นมาแล้วอย่างน้อยก็มีคนนี้อยู่ข้าง ๆ เรา ชีวิตมันบวก มีความสุข

- คนที่รู้ว่ามีแฟน Toxic แต่ออกมาไม่ได้ แนะนำเขายังไง

          เขื่อน ภัทรดนัย : จะไม่บอกว่าให้เลิกเพราะถ้าเขาออกได้ ออกไปแล้ว คนที่มีแฟนท็อกซิก เขารู้ว่าแฟนเขาท็อกซิก แต่ตัวเขาออกไม่ได้ ก็จะอธิบายให้ฟังว่ากลไกของการมีแฟนท็อกซิกคืออะไร คนที่มีแฟนท็อกซิกเหมือนกับเราเสพติดอะไรบางอย่าง เพราะเวลาดีมันก็ดี มันดิ่งแบบติดลบ วันที่เขาดีกับเราเพราะเขาต้องการอะไรจากเรา เขาก็แค่พูดดีกับเราหน่อย ก็แค่ดูแลเราดีขึ้นมานิดหนึ่ง เราไปเสพติดเข้าใจว่าความรักที่ดีคือต้องขึ้นสุดลงสุดเลยออกไม่ได้ พอจะออกก็รู้สึกว่าแล้วถ้าออกไปจะมีคนให้เราได้แบบนี้อีกไหม คนที่เสพติดท็อกซิก พอไปนาน ๆ เราก็จะดึงดูดคนท็อกซิกเข้ามาเรื่อย ๆ พอเจอใครที่ Healthy จะรู้สึกว่าเขาไม่ได้รักเรา รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ทุกคนอยากถูกรัก อยากคู่ควรกับความรักดี ๆ แต่บางทีมันยังไม่โคจรมาให้เจอกัน เพราะฉะนั้นในวันที่เป็นคนที่ไม่ใช่ เราก็อย่าลืมรักตัวเอง
 

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

          สามารถติดตามการเปิดใจครั้งนี้ของ เขื่อน ภัทรดนัย แบบเต็ม ๆ ได้ทาง "PrimeCast" รับชมได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , YouTube : Alive Dot  วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.
 
เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจถึงอดีตรักที่เจ็บปวด กับสาเหตุหย่าอดีตสามี วันนั้นเกิดอะไรขึ้น อัปเดตล่าสุด 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 10:47:35 14,790 อ่าน
TOP
x close