ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
เป็นอีกหนึ่งนางงามที่ออกมา Call out บอกความจริงจากประเทศไทย สำหรับ เดล นฤมล พิมพ์ภักดี มิสยูนิเวิร์สภูเก็ต 2025 สาวงามชาวบุรีรัมย์ ลูกครึ่งไทย-กัมพูชา ที่ล่าสุด (31 กรกฎาคม 2568) ก็ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่ารู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เพราะไม่มีประชาชนคนไหนอยากให้เกิดสงคราม มองว่าเป็นเครื่องผิดพลาดของผู้นำ ในฝั่งที่เริ่มยิงก่อน
- ค่อนข้างที่จะติดตามหนักมากพอสมควร ติดตามข่าวทุกวัน เพราะว่าแม่ก็เป็นหนึ่งในชาวกัมพูชาที่มาอยู่ไทยประมาณ 50 ปีแล้ว ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องห่างบ้าน ส่วนตอนนี้พ่อก็ต้องลาดตระเวนอยู่ที่บ้านคนเดียว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
- ได้ยินเสียงระเบิดทุกวัน เดลโทร. หา คุณพ่อทุกวัน เพราะปกติพ่อจะเป็นคนที่ชอบช่วยงานส่วนรวม พอมีเหตุการณ์ที่โจรขึ้นบ้านประชาชน พ่อก็เลยรู้สึกว่าทิ้งไปไม่ได้ ก็เลยอยู่เป็นเพื่อนกับพี่ ๆ ผู้ชายในหมู่บ้าน
- เชื่อมั่นว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน เพราะอิงตามหลักความเป็นจริง ว่าเป็นฝั่งกัมพูชาที่ก่อความรุนแรงแล้วทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ก็จะไม่เข้าข้าง และไม่บิดเบือนความจริง
- ทางครอบครัวก็ไม่ได้ลำบากใจกับความเป็นลูกครึ่ง เพราะคุณแม่ก็บอกเสมอว่า เดลคือคนไทยลูก ไม่ต้องคิดมาก หนูเลือกได้เลยว่าหนูคือคนไทย
- ไม่กังวลเรื่องทางฝั่งกัมพูชาจะออกมาโจมตีเพราะเราไม่เข้าข้างเขา ถ้ากังวลก็คงจะไม่ออกมา Call out เพื่อคนไทย ตอนนี้ตนโพสต์ทุกวัน มีแชร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
- เรื่องการอธิบายให้คนกัมพูชาเข้าใจ ก็พยายามแชร์ข่าวที่เป็นความจริง และพยายามติดแฮชแท็กต่าง ๆ ที่ทำให้เขาเห็นถึงความเป็นจริง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจากเขาก่อน แต่ด้วยความที่เป็นชาตินิยม และค่อนข้างจะยึดติดกับผู้นำของเขา ก็เลยเชื่อแบบนั้น
- ความรู้สึกเราคือกลัวต้องเสียคนในครอบครัว กลัวว่าแม่จะต้องเดินทางกลับกัมพูชา เพราะแม่รู้สึกผิดว่าตัวเองเป็นคนกัมพูชา แม่จะบอกกับเดลตลอดว่า "แม่ขอโทษที่แม่เป็นคนกัมพูชา" เดลพูดไม่ออกทุกครั้งที่แม่พูดคำนี้
- เดลเข้าใจความรู้สึกของแม่ ที่มองว่าเป็นต้นเหตุให้เดลโดนทัวร์ลง โดนด่าจากคนกัมพูชา แต่เดลบอกแม่แล้วว่าไม่ได้เกี่ยวกับแม่เลย มันอยู่ที่จิตสำนึกและความเป็นมนุษย์ ถ้าเขามองเห็นว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด เขาจะไม่เป็นแบบนี้
- ทางแม่เองก็มีคนกัมพูชามาด่าถึงบรรพบุรุษ ด่าเสีย ๆ หาย ๆ แต่ตอนนี้สภาพจิตใจแม่ดีขึ้น จากตอนแรกกังวลเรื่องตากับยาย เพราะติดต่อไม่ได้ แต่ตอนนี้ติดต่อได้แล้ว แต่ก็พยายามไม่ โทร. ไปหาบ่อย เพราะฝั่งนู้นจะจับพิกัด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
- ทางคุณตาคุณยายก็ปลอดภัย แต่เป็นห่วงเรื่องไม่มีเงินใช้จ่าย เพราะฝั่งแม่ต้องโอนให้ตากับยายประจำ ตอนนี้เราก็ช่วยไมได้ เพราะโอนไปไม่ได้ ปกติจะโอนผ่านคนกลาง เพราะตากับยายไม่มีบัญชีธนาคาร
- แรก ๆ แม่ก็ลำบากใจ เพราะแม่คิดเสมอว่าตัวเองเป็นคนที่ทำให้ลูกโดนด่า แต่พอหลัง ๆ แม่ก็เริ่มสบายใจขึ้น เพราะเดลบอกว่าแม่มาอยู่ไทย 50 ปีแล้ว แม่คือคนไทยคนนึงแล้ว แม่รักชาติไทยมากกว่ากัมพูชาเสียด้วยซ้ำ แม่เข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างสังคม ช่วยงานสังคมตลอด
- แม่ยังรักและเคารพความเป็นกัมพูชา แต่แม่เลือกความถูกต้อง เพราะแม่ก็ติดตามข่าว แล้วรู้ข่าวมาตลอด ต่อให้คนกัมพูชามาต่อว่าเรื่องนี้ เราก็สามารถอธิบายได้
- แม่เดลหนีสงครามตอนที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หนีขึ้นมาแล้วได้มาอยู่ไทยเกือบ 50 แล้ว แล้วไม่มีโอกาสได้กลับไปกัมพูชา ตอนนี้แม่ก็มีวีซ่าถูกต้อง เรื่องที่แม่กลัวจะต้องกลับกัมพูชา เพราะห่วงครอบครัว เพราะถ้ากลับไปก็ทำงานไม่ได้ ไม่มีงานจะทำ ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรที่จะช่วยพยุงชีวิตเขาได้ ตอนนี้บ้านตายายก็ผุพังแล้ว ก็เป็นห่วงมาก ๆ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
- ตอนนี้คุณแม่ก็เริ่มโอเค รู้สึกดีขึ้น หลังจากได้ไปอยู่ศูนย์อพยพแล้วได้เจอเพื่อน ๆ ก็คอยปลอบใจแม่ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดประชาชน หรือว่าจากคุณ มันเป็นความผิดของผู้นำ
- กังวลเรื่องคุณพ่อมาก เพราะท่านเป็นคนไม่รักตัวกลัวตาย พร้อมจะสละชีวิตตัวเองได้ตลอด ถ้าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าพ่อจะต้องเป็นคนที่เสียสละแน่นอน ตอน โทร. ไป พ่อก็จะบอกว่าได้ยินเสียงระเบิดตู้มต้ามตลอด มันข้ามหัวไปมา ก็พยายามบอกให้ดูแลตัวเอง รักษาชีวิตตัวเองไว้ ยังไม่ได้ดูลูกประกวดเลย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Naruemol Phimphakdee






