ภาพจาก Instagram peckpalit
จากกรณีที่นักร้องหนุ่ม เป๊ก ผลิตโชค ใช้สิทธิผู้ป่วยปฏิเสธการตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดประกอบสำนวนคดี ปมเมาแล้วก่อเหตุกระโดดเกาะหน้ารถผู้อื่น ก่อนไปทะเลาะวิวาทกับไรเดอร์จนถูกแทงได้รับบาดเจ็บและขณะนี้กำลังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อีกระลอกนั้น
ล่าสุด (8 สิงหาคม 2568) พ.ต.อ. นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า เป๊ก ผลิตโชค ไม่ยินยอมให้ตรวจ ซึ่งกฎหมายไม่สามารถบังคับได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในกรณีเมาแล้วขับ แต่เป็น "เมาแล้วเดิน" และความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษไม่เกิน 3 ปี จึงไม่เข้าเงื่อนไขให้สันนิษฐานผลตรวจเป็นบวก อีกทั้งตำรวจได้ทำหนังสือขอให้โรงพยาบาลตรวจหาสารเสพติดแล้ว แต่แพทย์ปฏิเสธตามสิทธิผู้ป่วย พร้อมทำหนังสือยืนยันการไม่ยินยอม
รวมถึงในทางคดีไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะบังคับตรวจหรือยืนยันว่ามีการเสพสารเสพติด จึงทำให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนักร้องดังเบื้องต้น คือ ทะเลาะวิวาท และก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ
ภาพจาก Instagram peckpalit
ขณะที่ สำนักข่าวเดลินิวส์ ได้ออกมาเปิดเผยความรู้จาก สำนักงาน ป.ป.ส. ที่ให้คำอธิบายถึงกรณีนี้ว่า เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการตรวจหรือทดสอบว่าบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายหรือไม่ ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11/2 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ. 2550 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 เนื่องจากมีการตั้งข้อสงสัยวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่าบุคคลสามารถปฏิเสธการตรวจสารเสพติดในเลือดได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะในกรณีที่ปรากฏพฤติกรรมความเคลื่อนไหวลักษณะผิดปกติจากอาการเมา
โดย สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ข้อมูลว่า การตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติด หมายความว่า เป็นการตรวจหรือทดสอบหาระดับหรือปริมาณของสารเสพติดอันเกิดจากการเสพยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งการตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติด ให้ตรวจหรือทดสอบจากปัสสาวะ หรือในกรณีจำเป็นเพื่อการตรวจสอบประวัติการเสพสารเสพติดย้อนหลัง ให้หรือทดสอบจากเส้นผม โดยให้ปฏิบัติตามวิธีการตรวจหรือทดสอบของชุดน้ำยาตรวจสอบ อุปกรณ์หรือเครื่องมือแต่ละชนิดสำหรับการตรวจ หรือทดสอบ แล้วแต่กรณี
ภาพจาก Instagram peckpalit
ซึ่งในบทบาทของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. (ไม่เกี่ยวกับกรณีของเป๊ก ผลิตโชค) ในกรณีที่จะต้องตรวจสอบประวัติเกี่ยวกับการเสพสารเสพติดย้อนหลังของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเสพยาเสพติด โดยเป็นกรณีจำเป็นและไม่อาจใช้กระบวนการตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะ เพื่อความเป็นธรรมและประโยชน์ของกระบวนการยุติธรรม กฎหมายได้ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. สั่งให้ตรวจหาสารเสพติดในเส้นผม โดยให้ดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หรือเจ้าหน้าที่จากสถานตรวจพิสูจน์ซึ่งผ่านการอบรมการดำเนินการตรวจหรือทดสอบหาสารเสพติดในเส้นผม
ป.ป.ส. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กองกฎหมาย ป.ป.ส. ระบุว่า หลักฐานที่จะใช้ในการพิสูจน์สารเสพติดในร่างกายที่ได้รับการรับรอง มี 2 อย่าง คือ การตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ และการตรวจสารเสพติดในเส้นผม ซึ่งเลือด น้ำลาย หรือสารคัดหลั่ง ไม่สามารถตรวจได้ จึงทำให้กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถบังคับขอตรวจได้ และเจ้าตัวก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธการตรวจได้ แต่ถ้าเจ้าพนักงานจะขอตรวจสารเสพติดในเส้นผมจึงจะทำได้ เนื่องด้วยสารเสพติดจะอยู่ในเส้นผมหรือรากผมนานเป็นเดือน ทั้งนี้ ก็ต้องตั้งคำถามกลับไปว่าเหตุใดพนักงานสอบสวนจึงไม่ประสานขอตรวจสารเสพติดในปัสสาวะหรือในเส้นผม ซึ่งถ้าจะไปตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ก็อาจจะไม่เจออะไรแล้ว เพราะมันผ่านเวลามาหลายวัน
และในกรณีของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หากมีการปฏิบัติหน้าที่ลงตรวจตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ เพื่อตรวจหาสารเสพติดของนักเที่ยวกลางคืน ส่วนใหญ่เมื่อเป็นเหตุซึ่งหน้า เจ้าพนักงานจะขอทำการตรวจปัสสาวะ เพราะมันจะรู้ผลทันที แต่ถ้าไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า แล้วเราต้องตรวจสอบประวัติเรื่องสารเสพติด ก็ต้องใช้การตรวจสารเสพติดในเส้นผมแทน ซึ่งเส้นผมก็จะต้องส่งตรวจพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็บ) ตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์






