Makeup Therapy หากใครเคยได้ยินวลีนี้ อาจสงสัยว่าการแต่งหน้าช่วยลดความเครียดได้จริงไหม มาดูกันว่าแต่งหน้าลดเครียดคืออะไร และต้องทำยังไง
เราทุกคนต่างมีความเครียดในชีวิตประจำวันกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเรา “แต่งหน้า” มันจะช่วยลดความเครียดได้จริงเหรอ ? กระปุกดอทคอมจึงอยากมาเล่าให้ฟังว่าแนวคิดอย่าง Makeup Therapy หรือการใช้การแต่งหน้าเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองนั้นมีที่มาอย่างไร ทำไมดูเหมือนจะช่วยได้ และถ้าอยากลองทำด้วยตัวเอง ควรทำยังไงให้ได้ผลมากที่สุด
Makeup Therapy คืออะไร
“Makeup Therapy” ว่าให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือการที่เราใช้การ “แต่งหน้า” หรือใช้ “เครื่องสำอาง - ความงาม” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อดูแลจิตใจและอารมณ์ของเราเอง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องแต่งให้เหมือนบิวตี้บล็อกเกอร์เสมอไป แต่อาจหมายถึงการใช้การแต่งหน้าเป็นช่วงเวลาที่เราหยุดความคิดสักพัก เพื่อเอาใจใส่ตัวเอง เชื่อมโยงกับความรู้สึกว่า “ฉันดูแลตัวเอง” หรือ “ฉันเลือกที่จะมีช่วงเวลาสำหรับตัวเอง”
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พูดถึงว่า การแต่งหน้าไม่ได้แค่ให้ผลลัพธ์ภายนอกแต่ยังมีผลทางจิตใจ เช่น งานหนึ่งพบว่า กลุ่มผู้หญิงที่เริ่มแต่งหน้าเป็นประจำมีอาการซึมเศร้าลดลงและมีระดับฮอร์โมนความเครียดลดลงด้วย และอีกงานก็พบสัดส่วนที่คนใช้เครื่องสำอางบ่อย ๆ มีอาการซึมเศร้าเบาลงเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยใช้ การแต่งหน้าจึงถือเป็นการดูแลใจไปในตัวนั่นเอง
ทำไมการแต่งหน้าช่วยลดความเครียดได้
ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์และจิตใจอยู่เบื้องหลังค่ะ
- สร้างช่วงเวลา “อยู่กับตัวเอง” - พอเรานั่งลง เลือกเครื่องสำอาง แต่งหน้า เลือกสี อาจจะใช้เวลา 10-15 นาที ทำให้เราได้ถอยออกจาก “ความวุ่นวาย” ซึ่งเป็นการพักใจได้จริง ๆ
- ให้ความรู้สึกว่าควบคุมได้ - เลือกได้ - เมื่อเราตัดสินใจเลือกเครื่องสำอางเอง เลือกรูปแบบการแต่งหน้าเอง มันให้ความรู้สึกว่าเราควบคุมบางสิ่งได้ ซึ่งช่วยลดความรู้สึก “ไร้ทางเลือก” หรือ “ถูกรุม” จากความเครียด
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความมั่นใจ - ตอนที่เรารู้สึกว่า “ดูดีขึ้น” หรือ “หน้าตาฉันดูสดใสขึ้น” เรามีโอกาสรู้สึกดีต่อตัวเองมากขึ้น และมีงานวิจัยพบว่า คนที่แต่งหน้าประจำมีอาการซึมเศร้าน้อยลง
- การใช้ประสาทสัมผัส (สัมผัส รูปลักษณ์ กลิ่น) - ขั้นตอนแต่งหน้ามีสัมผัสของแปรง สี ความรู้สึกเวลาเกลี่ย การได้สัมผัส - ซึ่งช่วยเบี่ยงเบนจากความคิดวุ่น ๆ และทำให้สมองได้พัก
- เป็นกิจวัตรที่มั่นคง - การมี “กิจวัตร” เช่น แต่งหน้าเป็นส่วนหนึ่งของตอนเช้า ให้ความรู้สึกว่า “วันนี้ฉันเริ่มได้” “ฉันมีความตั้งใจ” ซึ่งช่วยลดอาการกังวลได้
ถึงแม้จะมีผลดี แต่ไม่ได้หมายความว่าแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวจะแก้ความเครียดหรืออาการทางจิตใจใหญ่ ๆ ได้ทั้งหมด แต่เป็น “เครื่องมือหนึ่ง” ที่สามารถร่วมกับกิจกรรมดูแลตัวเองอื่น ๆ ได้
Makeup Therapy ที่ถูกต้องควรทำยังไง
ถ้าอยากลองใช้การแต่งหน้าเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลจิตใจ นี่คือขั้นตอนและข้อแนะนำค่ะ
- ตั้งใจว่าเป็นกิจกรรมเพื่อตัวเอง - อย่าแต่งหน้าเพราะ “ต้องออกงาน” หรือ “ต้องดูดีให้คนอื่นเห็น” แต่ให้แต่งเพราะ “ฉันอยากดูแลตัวเอง” ให้เป็นเวลาที่เราพักใจได้จริง ๆ
- เลือกเครื่องสำอาง สี สไตล์ที่ชอบจริง ๆ - อย่าใช้แรงกดดันว่า “ต้องตามกระแส” หากมันไม่ใช่สไตล์ของตัวเอง เลือกสีที่รู้สึกว่าสบายตา หรือบางครั้งลองสีใหม่สนุก ๆ ก็ได้ ความรู้สึก “ฉันอยาก” สำคัญกว่า “ใครจะว่าอะไร”
- ให้เวลาและใส่ใจขั้นตอน - ลองให้เวลาซัก 10 - 20 นาทีในการแต่งหน้า โดยตั้งสมาธิเล็กน้อย เช่น เกลี่ยรองพื้น เลือกอายแชโดว์แบบไม่รีบ ให้เป็นเหมือนช่วงเวลาพักใจ ซึ่งการทำแบบมีสติพบว่าช่วยลดความคิดวุ่น ๆ ได้
- สร้างกิจวัตรเล็ก ๆ - เช่น ทุกวันตอนเช้าให้เวลาแต่งหน้า 10 - 20 นาที หรือวันศุกร์เย็นเป็น “แต่งหน้าเพื่อความสนุก” ก็ได้ การมีรูปแบบซ้ำ ๆ จะช่วยให้สมองรู้สึก “ฉันมีที่พึ่ง” บ้าง
- อย่าใช้แต่งหน้าเป็นทางออกเดียว - ถ้าเครียดหนัก มีอาการวิตกกังวลรุนแรง หรือซึมเศร้า การแต่งหน้าอาจช่วยได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทางแก้หลัก ควรมีการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้วิธีดูแลตัวเองควบคู่กันไป
- ใส่ใจสุขภาพผิวและความสะอาด - ให้แน่ใจว่าใช้เครื่องสำอางที่เหมาะกับ ล้างหน้าให้สะอาดก่อน- หลัง และพักผิวบ้าง การดูแลจากภายใน เช่น พักผ่อนดี กินดี ก็ช่วยเสริมด้วยเช่นกัน
แม้ Makeup Therapy อาจช่วยลดความเครียด เสริมความมั่นใจ และเป็นช่วงเวลาที่เราสำหรับตัวเองได้จริง ๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าแต่งหน้าแล้วความเครียดจะหายไปในทันที หากเราใช้มันควบคู่กับการดูแลตัวเองด้านอื่น ๆ และมีทัศนคติที่ถูกต้อง เมื่อให้เวลาดูแลตัวเองโดยตั้งใจ การแต่งหน้าอาจกลายเป็น “ช่วงเวลาพักใจ” ที่พร้อมจะทำให้รู้สึกดีขึ้นในแบบเรียบง่ายแต่ทรงพลัง






