ปรากฏการณ์ เทศกาลเจนนี่ ถึงแม้จะสร้างแรงกระเพื่อมไปทุกภาคส่วน ทั้งวงการบันเทิง วงการอินฟลูฯ รวมไปถึงเจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ ที่ได้รับทรัพย์กันไปอย่างเต็มกระเป๋า แต่ก็ตามมาด้วยดราม่าต่อเนื่องนานหลายวัน อย่างไรก็ตาม เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ เลือกที่จะมองในมุมกลับ บอกตัวเองว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นดีเสมอ
พร้อมเคลียร์ประเด็นดราม่าที่หลายคนสงสัย ผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ ทางช่องวัน 31 แบบหมดเปลือกไม่มีกั๊ก ชนิดที่ว่า 14 วันที่ผ่านมา มีเรื่องราวมากมายจนสามารถจะนำไปทำซีรีส์ได้เลย
หนึ่งในเอเชีย รับรางวัล TOP PCU ยอดคนดูสูงสุด 1.2 ล้านคน ?
เจนนี่ : มันคือครั้งแรกในชีวิต เพราะว่าเวลาพักผ่อนน้อย ก็นอนไม่หลับ ซึ่งเราก็คิดว่ามันเกิดขึ้นจริงเหรอ แต่มันก็มาจากองค์ประกอบรวมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพี่ดารา ดันให้เอนเกจเมนต์เปิดการมองเห็น ก็ต้องขอบคุณ พี่อั้ม พัชราภา ที่ให้เกียรติ ยินดีที่มาร่วมงาน กับความสำเร็จที่มันเกิดขึ้น ก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คน กับคนดู 1.2 ล้าน น่าจะเป็นคนแรกของเอเชีย แล้วจากนั้นเราก็หยุดไป 2 วัน เพราะเราก็คิดเอาไว้แล้วว่าเราเริ่มล้า ก็น่าจะหยุดพักผ่อน และเป็นวันเกิดของลูกสาว แต่แพลนก็ล่มหมด เพราะต้องวางระบบหลังบ้านใหม่
ย้อนกลับไปวันนั้น ได้ร่วมไลฟ์กับพี่อั้มรู้สึกยังไงบ้าง ?
เจนนี่ : มันก็เหมือนว่าเราอยู่ในความฝัน ในหัวคิดว่าจริงเหรอ เราก็หันไปดูหน้าพี่อั้มตลอด พี่อั้มนั่งอยู่ตรงนี้จริง ๆ นั่งอยู่ที่บ้านเรา เราไม่เคยเจอพี่เขาเลย แต่ก็ติดตามผลงานเขามาตลอด มันเกินคำว่าฝัน ขอบคุณที่สานฝันให้หนู เราได้เห็นกับตาเนื้อของเรา สวยกว่าในทีวี สวยกว่าในรูปที่เราเห็นอีก
แต่มันก็มีดราม่า ที่เจนนี่พูดว่าพี่อั้มอายุเท่าแม่ ?
เจนนี่ : คือเราเป็นคนตลกขบขัน ที่เรารู้สึกว่าอยากให้ทุกคนเป็นตัวเอง เอนเตอร์เทนให้ทุกคนมีความสุข เจตนาของเรา ที่เราต้องดูที่เจตนา เจตนาของหนู จะหมายถึงว่า พี่อั้มอายุขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังสวยและหน้าเด็ก ซึ่งเราอาจจะใช้คำที่ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ ก็ต้องขอโทษ แต่ยืนยันว่าเจตนาหนูดีแน่นอน ไม่ได้คิดจะทำให้พี่อั้มไม่สบายใจ
ซึ่งวันนั้นพี่อั้มก็จอย พูดกับเราเบา ๆ พูดย้ำ ๆ พูดว่า "พี่งงมาก เขากดกันแล้วเหรอ"
ถ้าวันนี้พี่อั้มดูอยู่ เราอยากบอกอะไรกับพี่เขาไหม ?
เจนนี่ : ต้องขอบคุณพี่อั้ม (ยกมือไหว้) ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้เกียรติพวกเราขนาดนี้ ที่เสียสละเวลามาร่วมเทศกาลเจนนี่ ให้เป็นไวรัล จนได้รับรางวัล และหนูก็ยังยินดีที่จะร่วมงานกับพี่อั้มในทุก ๆ งาน พี่อั้มเรียกใช้หนูได้เลย
การที่พี่อั้มให้เกียรติมาขนาดนี้ หนูก็อยากซัพพอร์ตพี่อั้มในทุก ๆ ด้าน แม้หนูจะไม่ได้ระดับพี่อั้ม แต่หนูก็สามารถช่วยพี่ อย่างเรื่องตลาด ก็พร้อมที่จะยินดีช่วยพี่เขา อาจจะไปช่วยไลฟ์ ปักตะกร้าในแต่ละร้าน ในตลาดของพี่อั้ม
ณ วันนี้ เทศกาลเจนนี่ ตอนนี้ยอดรวมทั้งหมดไปกี่บาทแล้ว ?
เจนนี่ : ยอดการสั่งซื้อ 800 กว่าล้าน หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่จริงไหม ต้องแจ้งแบบนี้ว่าอันนี้เป็นตัวเลขจริง ไม่รวมการตีกลับ สุดท้ายการตีกลับมันก็ไม่เกิน 5-10% ซึ่งอัตราการสั่งซื้อมันมากกว่าการตีกลับ เพราะฉะนั้นรวม ๆ 800 กว่าล้าน จาก 14 วัน ซึ่งถามว่าเราตั้งเป้าหมาย ก็อยากได้หลักพันล้าน แต่ช่วงนี้มันอาจจะซบเซา เพราะ 14 วันที่ผ่านมา มัน 800 กว่าล้านแล้ว คือเงินคนเรามันก็ไม่ได้มีกันทุกวัน ก็ต้องรอสิ้นเดือน
อย่างตอนนี้เห็นว่ามีการจ้างเลขาเพิ่มขึ้น ?
เจนนี่ : เมื่อก่อนหนูเป็นคนชอบทำงานกับคนคนเดียว เราควบคุมได้ เราจะได้ไม่ปวดหัว แต่พอตอนนี้หันไปในบ้าน มีประมาณ 50 คน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ด้วยที่ลูกค้ามาเยอะ และดราม่ามันเกิดขึ้นทุกวัน เราต้องรับมือให้ไหว เราก็ต้องเพิ่มแอดมิน ตอนนี้มี 12 คน ระบบจัดเรียงสินค้า ระบบรันคิว เราซื้อมาในหลักแสน เพื่อต้อนรับลูกค้าใหม่ ๆ ส่งเลข อย. ส่งชื่อสินค้า และระบบก็จะตอบกลับไปว่าคุณจะได้ไลฟ์วันไหน แต่มันก็ต้องมีเอาคนมารองรับลูกค้าที่ฟิกซ์วันไว้ ก็ต้องใช้ระบบคนเนี่ยแหละ ดูแลไปถึงเรื่องร้องเรียน คืนเงิน เลื่อนคิว รวมไปถึงลูกค้าใหม่ ซึ่งใครมีปัญหาด้านไหนทักมาได้เลย ซึ่งระบบหลังบ้าน ยิวจะเป็นคนจัดการทั้งหมด เพราะเราต้องเอาสมองของเราไปอยู่หน้างาน
แล้วถ้าครบ 1 พันล้านตามเป้า เราจะไลฟ์ขายของไปถึงเมื่อไหร่ ?
เจนนี่ : คือหนูไลฟ์ขายของเป็นเรื่องปกติของเราอยู่แล้ว ก็คงไลฟ์ไปเรื่อย ๆ แต่มีลูกค้าหรือไม่มีลูกค้า เราก็ต้องกลับไปขายของของเราอยู่ดี ทำไปเรื่อย ๆ จนจะมีแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เกิดขึ้น หรือ ตต. มีการเปลี่ยนแปลง ในช่วงที่เรายังมีแรง เราก็ทำไปเรื่อย ๆ เพราะว่ามันสนุกมาก เวลาที่เราไม่ได้ไลฟ์ เขาก็ติดแท็กถามว่าไม่มีเจนนี่มันรู้สึกเหงามาก ซึ่งจริง ๆ มันก็สนุกดี
ตอนนี้เราจัดคิวกันยังไง ?
เจนนี่ : คือก่อนหน้านี้อาจจะมีความเกรงใจนิดหนึ่ง และเราค่อนข้างที่จะคลั่งพี่ดารา เขาก็รันกันมาเรื่อย ๆ จนมันเลยถึงเที่ยงคืน แล้วตอนนี้ระบบใหม่ ก็คือคิวสำหรับพี่ดารา วันละ 10 คิว ส่วนคิวทางบ้านก็ลดน้อยลง เราจับเวลาแต่ละแบรนด์ 5 นาที แต่ถ้ายอดมันไม่ถึงเป้า เราก็ต้องพยายามดันให้มันเกินเป้า ให้เขาใช้เวลาคุ้มค่าที่สุดสำหรับในการจ้างเรา
สถิติที่คนรอคิว กี่ชั่วโมง ?
เจนนี่ : อย่างพี่พุฒไปถึง 4 ทุ่มครึ่ง ได้เข้าตี 2 ซึ่งเราก็รู้สึกผิดมากที่ทำให้เขารอนาน แต่ถ้าความเป็นจริง เราให้เขาตามเวลาเป๊ะ 5 นาที แต่ถ้ายอดขายเขากำลังขึ้น เราก็กำลังอิ่มและแฮปปี้กับสิ่งที่มันเกิด เพราะเราพยายามดันขึ้น ยอดขายมันก็ขึ้น จนมันทำให้เวลาเขยิบขึ้น
แล้วกับพี่โดมในเวอร์ชั่นชุดขาวในตำนาน ?
เจนนี่ : หนูก็สติหลุดเหมือนกัน เราก็อยากตั้งใจขายของ ซึ่งมันก็เลี่ยงสายตาในการมองไม่ได้ เราคิดในใจว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยฉันด้วย
เจนนี่รู้สึกยังไง ที่คนเขาไปไลฟ์ในเทศกาลของเรา เขาประสบความสำเร็จ ?
เจนนี่ : หนูรู้สึกเลยว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้นจากหนูคนเดียว ทุกอย่างมันเหมือนเป็นบุญนำพา คือถ้าพี่ไม่ช่วยกันมา เอนเกจเมนต์มันก็จะไม่เปิดขนาดนี้ ทุกฝ่ายมีผล ทำให้ทุกสิ่งเกิดขึ้น รวมถึงลูกค้า ทุก ๆ วันถ้าเราไม่มีลูกค้าหรือแฟนคลับซัพพอร์ต รวมไปถึงดราม่าที่เกิดขึ้น มันทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้
เราต้องขอบคุณทุก ๆ คน เพราะบางคนก็รอคิวกันนานมาก อย่างดาราเบอร์ต้น ๆ ก็ต้องรอคิวนานมาก บางทีเราเพิ่งมาเห็นแชต ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ รอคิว ขออภัยในการจัดลำดับคิวในช่วงแรก เพราะว่าเราอาจจะบริหารไม่ทัน มันเกิดขึ้นเร็วมากในช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมา แต่หนูมั่นใจว่าทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วมันจะดีเสมอ การที่เกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ มันทำให้หนูเติบโตแบบก้าวกระโดด
เราก็แบ่งเงินที่เราได้มาเอาไปทำบุญ ?
เจนนี่ : หนูชอบทำบุญ ทำทีหนึ่งมันก็ไม่ได้เป็นล้าน แต่พอรายได้มันเข้ามา เรามีโอกาสที่จะได้ทำอะไรสักที หนูก็พยายามดูให้มันตรงจุดว่าหนูอยากทำอะไร สิ่งแรกที่หนูอยากได้ก็คือรถแอมบูแลนซ์ ตอนนี้ได้มาทั้งหมด 6 คัน ไปมอบให้ต้นเดือนพฤศจิกายน เราอยากมอบให้มันถึงจุดจริง ๆ แล้วเราก็เอาเงินไปช่วยออฟไลน์ วันละ 1 ล้าน เอาไปเหมาตลาด ส่งทีมลงพื้นที่
แล้วเราก็มอบให้พี่บุ๋มไป 1 ล้านบาท เพราะว่าเขาลงพื้นที่ตลอด ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ เพราะเราไม่ว่าง เรามาฝากเขาไปทำบุญ พี่บุ๋มเขาก็ขอบคุณเรา ตอนนี้ก็รวม ๆ แล้วเกือบ 20 ล้าน ก็ขอให้ผลบุญนี้ส่งผลให้ทุกคนที่ร่วมอยู่ในเทศกาลเจนนี่
ถ้าปีหน้า Live Market By ยิวเจน ตลาดของเจนนี่จะเป็นยังไง ?
เจนนี่ : มันเป็นเหมือนงานโอทอป งานสินค้า เหมือนกาชาดที่เขาจัดกัน แต่รอบนี้พิเศษหน่อย มีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ แล้วเป้าหมายที่เราตั้งไว้กันว่ามันต้องเกิดขึ้นจริง ใครที่กำลังตกงาน มีแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว คุณต้องมางานนี้ ทุก ๆ ร้านเขาจะมีค่าคอมมิชชั่น เขาจะมีสินค้าตัวทดลองให้คุณไปลองยืนไลฟ์ ให้เขามากดตะกร้าในช่องของคุณ คุณก็จะได้เงินจากตรงนั้นไปด้วย มันไม่ใช่ผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์ คนทั่วไปที่อยากลองไลฟ์แล้วขายสินค้าก็น่าจะมาลองที่งาน
แล้วก็มีคอนเสิร์ต 12 วัน 12 คิว มามอบความสุขกัน แล้วก็จ้างอินฟลูฯ มาช่วยนำเสนอสินค้า อยากให้ทุกคนคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งถ้าใครสนใจ 12 วัน ค่าบูธ 1 ล้านบาท แล้วก็จะมีการจัดแบบไลฟ์มาราธอน 12 วัน จ่ายยอดสูงสุด หนูให้รถ Porsche 1 คัน และบูธไหนที่ขายได้น้อยสุด หนูก็จะซัพพอร์ตให้ 1 ล้านบาท ซึ่งตอนแรกตั้งไว้ 1,000 บูธ แต่ก็ต้องดูสถานที่อีกที
และการที่ สคบ. และ อย. โทร. หา ?
เจนนี่ : การที่ อย. และ สคบ. โทร. มานั้น ซึ่งหนูไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องแย่ มันเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ มันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หลายคนมองว่า อย. โทร. มา แสดงว่ามันไม่มี อย. แต่มันไม่ใช่ คือเราไม่ได้เรียนจบทางด้านนี้มา แล้วมันเป็นเรื่องที่ดีมากที่เราได้เข้าไปเจอ ได้เข้าไปพูดคุย เราจะได้ก้าวกระโดด เพิ่มพูนความรู้ การที่สินค้ามี อย. แต่เราก็ไม่รู้ว่าคำไหนพูดได้ คำไหนพูดไม่ได้ ซึ่งวันที่ 27 นี้ ไปเจอ อย. 28 ไปเจอ สคบ.
แล้วหลังจากนี้เราก็ได้มีสัญญา ให้แต่ละแบรนด์ได้เซ็นในเอกสาร มีกฎข้อไหนบ้าง ?
เจนนี่ : หลัก ๆ เลย ต้องไม่มีสารสกัดที่เป็นอันตราย ถ้ามีสารที่เป็นอันตราย เราปรับ 100 ล้าน เพราะมันจะทำให้ถึงกับชีวิตได้ เรื่องที่สองของการโอเวอร์เคลม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ใช่แค่แบรนด์จะได้รับผลกระทบ เจนนี่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เรารู้ว่าไลฟ์มันควบคุมยาก แต่ถ้าเรามีสัญญา มันอาจจะทำให้ทุกคนระมัดระวัง ถ้าสินค้ามันขายดี เราแค่รู้ว่ามันคือไฟเบอร์ มันขึ้นอยู่กับคนซื้อว่าเขาพอใจในสารสกัดมากแค่ไหน กับราคาที่ให้ กับโปรโมชั่นที่นำเสนอ
รู้สึกยังไงที่แฟนคลับบอกว่าอย่าเอาชื่อศิลปินมาโปรโมต ?
เจนนี่ : คือจริง ๆ ส่วนตัวของเจนนี่ คือพี่ ๆ ที่ถูกพูดถึงเขาดังระดับโลก แต่ทุกหน้างานมันเป็นไลฟ์ อย่างเช่นเรานั่งอ่านคอมเมนต์ และมีชื่อที่เมนต์ขึ้นมา เราก็เลยอยากให้ให้ พี่เมย์ วาสนา ช่วยดีล แบมแบม ดีล แจ็คสัน แล้วพี่เมย์เขาเป็นนักซัพพอร์ตอยู่แล้ว พอมาในทิศทางซึ่งเขาผู้จัดว่าเขาจะลองปรึกษาดู ดีลกันดูว่าจะเป็นไปได้ไหม และทุกคนก็อยากเจอ
แต่สุดท้ายแล้วมันต้องฟังทั้งสองฝั่ง แต่พอเราเห็นฟีดแบ็กแล้ว เราก็มีการคุยกันหลังบ้าน ว่าเราจะปรับตัวกันยังไงในอนาคต มันจะเกิดขึ้นไปในทางไหนได้บ้าง เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย สิ่งที่เราปรับ ถ้าจะพูดถึงใคร เราต้องวางแผนกันก่อนล่วงหน้า ซึ่งคอมเมนต์ส่วนมากก็มาจากทางบ้าน จะท้ายที่สุดมันจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิด ทุกวันนี้หนูก็มีความสุขแล้ว ด้านพี่เมย์เขาก็ไม่ได้รับปาก เขาก็แค่บอกว่าขอลองดูก่อน
และอินฟลูฯ ที่ทำคลิปออกมา ยกเลิกกว่า 7,000 ออร์เดอร์ ?
เจนนี่ : คือได้เห็นแล้วค่ะ การที่เขาตั้งชื่อคลิปแบบนี้มันเป็นดึงดราม่ามาก เป็นการเอนเกจเมนต์ ซึ่งถ้าใครดูคลิปไม่จบ หรือดูแค่พาดหัว เราก็โดนด่าไปเต็ม ๆ แต่ถ้าดูรายละเอียดจริง ๆ เขาโดนยกเลิก 7,000 ซึ่งมันไม่ถึง 10% แต่อีก 90% ที่เขาขายได้
แล้วในออร์เดอร์ที่มันกำลังไหลจากวันนั้นอีก คือเขาบอกว่าเขาคุ้มค่ามาก แม้มันจะมีการยกเลิกก็ตาม แต่ที่มันเป็นดราม่า เพราะว่าทุกคนดูไม่จบ เขาก็มีการทักมาขอโทษหลังบ้าน กูเคยบอกแล้วว่าการต่อยอดในทุกฝ่าย ต้องไม่ทำร้ายใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นการต่อยอดแบบนี้ หนูได้รับผลกระทบ ซึ่งมันไม่ใช่เราได้รับผลกระทบ แบรนด์ที่เขารออยู่เป็นคิวถัดไป เขาก็ได้ผลกระทบเช่นกัน อยากให้ทุกคนช่วยเซฟนิดหนึ่ง เพราะว่าเราเต็มที่กับทุกท่านมาก ๆ






