เมย์ วาสนา เผย ดิว อริสรา ค้างหนี้ ยังไม่ได้ชำระสักงวด ลั่นยังไม่พร้อมเจอ แต่มูฟออนแล้ว ปล่อยให้ทนายดูแล โต้โขกค่าไลฟ์ 5 แสน
ภาพจาก Instagram maynie_minimay
จากกรณีที่นักธุรกิจไฮโซสาว เมย์ วาสนา หรือ มาดามเมนี่ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของนักแสดงสาว ดิว อริสรา ปมถูกยักยอกทรัพย์สิน 62 ล้านบาท และได้ให้โอกาสเวลา 1 ปี ในการหาเงินมาคืน
ล่าสุด (25 พฤศจิกายน 2568) เมย์ วาสนา ได้ออกมาอัปเดตว่า ดิว อริสรา ยังไม่ได้ชำระหนี้สักงวด ซึ่งตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่คุยกัน และสัญญาเรื่องผ่อนชำระ เท่าที่เช็กก็ยังไม่ได้ แต่ในสัญญาก็บอกว่า 1 ปี ก็จะมีการชำระและมีผ่อนหลายเดือน ก็ยังมีการติดตามกับทนาย น่าจะอยู่ในช่วงหาอยู่หรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ยังไม่ได้รับสักงวดเลย แต่ในตามสัญญาก็ไม่ได้ระบุว่าเดือนหนึ่งต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่บอกว่าต้องจ่ายให้ครบภายใน 1 ปี ทางฝั่งแบรนด์เนมมันนี่ก็ยังไม่ได้เหมือนกัน
ถามว่าใจแป้วไหม ก็มูฟไปทำเรื่องอื่น ให้เป็นหน้าที่ของทนายเป็นคนตามมากกว่า มูฟออนแล้ว ไปทำมาหากินอย่างอื่นแล้ว ยังตามแต่ไม่ได้โฟกัสว่าจ่ายหรือยัง ถ้าครบ 1 ปี ก็ค่อยให้ฝ่ายกฎหมายเขาดูแล เพราะกฎหมายในสัญญาค่อนข้างครอบคลุม ว่าเราสามารถเอามาดำเนินคดีใหม่ได้ถ้ายังไม่เรียบร้อย ก็คิดว่าน้องกำลังอยู่ในช่วงกำลังจัดการหรือเปล่า
ภาพจาก Instagram duearisara
ส่วนข่าวที่ให้ ดิว อริสรา มาไลฟ์สด และอีกฝ่ายคิด 5 แสน เมย์ วาสนา โต้ว่าไม่ใช่ตัวเอง และชี้แจงว่า อาจจะเป็นกับน้องท่านอื่น กับ เชน (ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์) หรือเปล่า ไม่แน่ใจ แต่ไม่ใช่ตัวเอง ถามว่าอยากให้มาไลฟ์ด้วยกันไหม จริง ๆ ก็ไม่ได้ติด แต่ต่างคนต่างไลฟ์ดีกว่า ยังไม่พร้อม ต่างคนต่างทำงานเถอะ เพราะหลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอกันเลย แต่มีคุยกัน คิดว่าดิวเขาก็คงมีหลายเรื่อง เรื่องนี้น้องคงมูฟอัปไปแล้ว เขาอาจจะมีปัญหาอีกหลายอย่างเท่าที่ฟังมาและเรื่องของเมย์กับเขามันก็จบไปแล้ว เขาก็อาจจะมีปัญหาอย่างอื่นที่จะต้องแก้อีกหลายอย่าง
เมย์ วาสนา ยังเผยถึงเรื่องที่โดนถามจากหลายฝ่ายว่าถูก ดารา น. ยืมเงินไปบ้างหรือไม่ว่า คนถามเยอะมากว่าโดนไหม เคสนี้ไม่โดน ไม่เกี่ยว พี่มดดำ มาก่อนเลยถามว่าแกโดนไหม ทุกคนเพ่งเป้ามาที่วาสนาก่อนเลย เอาจริง ๆ ก็รู้สึกให้กำลังใจทั้งคู่ ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้น ข้อเท็จจริงเราไม่รู้ ส่วนตัวคิดว่าเรื่องที่เกิดแบบนี้มันไม่มีผลดีกับใคร แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วต้องแก้ให้ถูกต้อง ปัญหาทุกอย่างเมื่อมันเกิดขึ้นมาก็ต้องแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อมันเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรต้องหันหน้ามาหากัน และหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ให้มันเจ็บน้อยที่สุด ตอนนี้มันมีคนเจ็บแล้ว แต่จะเจ็บน้อยที่สุดยังไงโดยไม่ให้มันบอบช้ำ ไม่ให้มันอักเสบเรื้อรังยังไง อันนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ร่วมกันดีกว่า
ภาพจาก Instagram maynie_minimay
จากประสบการณ์ตัวเองด้วย มันจะได้มีทางออกที่ดีลูกหนี้กับเจ้าหนี้ต้องคุยกัน ไม่อย่างนั้นมันไปยาก มันไม่จบ และมันจะเรื้อรัง ส่วนตัวคิดว่าทุกปัญหาแก้ได้ มันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนเราแก้ได้ทุกเรื่องแหละ เพียงแต่เราต้องหันหน้ามาแก้ด้วยความจริงและแก้ไขให้ถูกต้อง หาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ถ้าในฐานะตัวเองเงินก็เรื่องหนึ่ง แต่ที่เฮิร์ตกว่ามันคือเรื่องใจ เงินไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่เรื่องใจถ้ามันหักมันจะยากนิดหนึ่ง เรื่องเงินก็ไม่มีใครไม่อยากได้เงินคืน อย่างเมย์ในฐานะเจ้าหนี้ บางครั้งมันไม่ใช่เงินตัวเองอย่างเดียว สมมติเราทำธุรกิจ เรามีผู้ร่วมทุน มันเป็นเงินของคนอื่น มันเป็นเงินการบริหาร แล้วถ้าเกิดตัวเราในฐานะผู้บริหาร เราเป็นคนที่รับผิดชอบก้อนนี้ แต่มันกลายเป็นต้องรับผิดชอบของคนอื่นๆ ด้วย อันนี้มันหนักกว่านะ ถ้าเป็นเงินเย็น เงินฝากธนาคารนิ่ง ๆ ก็ไม่เป็นไร
มองว่าเงินก็สำคัญ แต่ใจสำคัญกว่า คือถ้าใจเราเฟล มันก็ไม่มีแรงหาเงิน เงินใหม่มันหาได้ แต่ถ้าใจเราดาวน์ เราไม่มีแรงลุกมันก็จะยาก เพราะฉะนั้นเอาใจขึ้นมาก่อน แล้วเดี๋ยวเงินมันจะมา สำหรับเมย์ทุกวันนี้เจออะไรแปลก ๆ เยอะ คนมายืมเงินเยอะ ล่าสุดไม่ได้ติดต่อกันมา 25 ปี แล้ววันหนึ่งเขาก็ทักมา เขาเป็นเจ้านายเก่า เขาบอกว่าเดือดร้อนมาก แล้วก็มายืมเงิน
ภาพจาก Instagram duearisara
ตอนนั้นตั้งปณิธานในชีวิตแล้วนะว่าจะไม่ให้ใครยืมเงินอีก เพราะมันจะทำให้เราเสียเพื่อน แต่เราก็รู้สึกว่าเขาเคยมีบุญคุณ เคยเป็นเจ้านาย นี่ก็ใจดีให้เขาไปหนึ่งแสน แต่มันไม่จบ เราก็คิดแล้วว่าอาจจะไม่ได้คืน เขายืมนะ แต่เมย์คิดว่าเขาคงลำบากก็เลยให้เขาไป เขาก็ทักมาจะเอาเพิ่มอีกหนึ่งแสน บอกว่าจะตายแล้วโน่นนี่นั่น เห็นไหม เพิ่มภาระชีวิต ก็คิดในใจว่าไม่เข็ด แต่เราก็มีเส้นของเรา ช่วยได้ในขนาดที่เราไหว ล่าสุดก็เลยบอกว่าไปหนูไม่สะดวกแล้วจริง ๆ ที่ให้ไปหนึ่งแสนเพราะเราอยากให้
เมย์ วาสนา ยังเผยอีกว่า ความใจดีเป็นข้อเสียในชีวิตเมย์ จิตใจไม่เข้มแข็งเรื่องนี้ ก็ตั้งปณิธานตัวเองไว้หลายตั้งแล้ว เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใคร เป็นคติเตือนใจตัวเองตลอดชีวิตเลยค่ะ ว่าสุดท้ายเรามักจะเสียความสัมพันธ์กับเพื่อนเพราะเรื่องเงินจริง ๆ ดังนั้นถ้าคิดจะให้ แล้วคิดว่าไม่ได้คืนก็ให้ไปเลย คิดว่าถ้าไม่ได้คืนก็ช่างมัน แต่ถ้าเขาจะสูญเสียความสัมพันธ์กับเราด้วยเงินที่เราไม่ให้ก็ถือว่านั่นไม่ใช่มิตรแท้ แต่ถ้าเราอยากช่วยเหลือ คิดว่าเงินตรงนี้ไม่เดือดร้อนกับเรา ก็ให้ไปเลย แต่ถ้าให้แล้วรู้สึกว่าเสียดาย รู้สึกจะเสียความสัมพันธ์ ก็อย่าให้ตั้งแต่ต้น แต่ถ้ามิตรแท้ก็ควรต้องคืนสิ มันบาปนะ ไปคืนกันชาติหน้ามันจะลำบาก กฎแห่งกรรมมีจริงเสมอ
ภาพจาก Instagram maynie_minimay
ภาพจาก Instagram duearisara
ขอบคุณข้อมูลจาก เจ๊มอย108 V1






