ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เล่าความจริงชีวิตนักแสดง ชื่อเสียงมาเร็ว แต่ความกดดันเกือบทำพัง

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เล่าความจริงชีวิตนักแสดง ชื่อเสียงมาเร็ว แต่ความกดดันเกือบทำพัง พร้อมเผยเป้าหมายในชีวิตคืออยากแต่งงาน
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

          Prime Cast สัปดาห์นี้เปิดความจริงที่ไม่มีใครรู้ “ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส” เล่าชีวิตจากติวเตอร์สอนภาษาสู่นักแสดงชื่อดัง จากเด็ก Introvert ที่ไม่กล้าเผชิญหน้าคนสู่ชีวิตในวงการที่ต้องรับแรงคาดหวังแบบฉับพลัน ผ่านทั้งความเครียดเรื้อรัง นอนแย่ กินอาหารผิดวิธี กดดันหนักจนเกือบพัง พร้อมเล่าเป้าหมายในอนาคต

จุดเริ่มต้นเส้นทางการเข้าวงการบันเทิง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : หา Opportunity เฉย ๆ ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ธรรมศาสตร์แล้วก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเขาบอกว่า เห็นว่าทำงานนู่นนี่นั่น เป็นติวเตอร์ เป็นแบบว่าแปลเอกสาร ทำไมไม่ไปลองแคส

เป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ถนัดภาษาภาษาอังกฤษมากกว่าไทย แต่พูดไทยไม่ชัดเพราะว่าโรงเรียนอินเตอร์ของเรามันเป็นแบบ 90% ของคนที่อยู่ในโรงเรียนเป็นต่างชาติหมดเลย น้อยกว่า 10% เป็นคนไทย

แสดงว่าเพื่อนที่สนิทก็ไม่ใช่คนไทย ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ไม่ใช่คนไทย เพื่อน ม.ปลายไม่ใช่คนไทย แต่ว่าเพื่อนมหาวิทยาลัยก็คนไทยหมด

พูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กจนโตเลยไม่ค่อยพูดภาษาไทย ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ใช่ ที่บ้านก็พูดภาษาอังกฤษ

คือพ่อแม่พูดไทยใส่ แต่ไบเบิ้ลตอบภาษาอังกฤษ ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ใช่ เข้าใจกัน เราก็พูดตอบกันอย่างนี้ แต่ตอนนี้ภาษาไทยก็ดีขึ้นแล้วนะ

เจอกันครั้งแรกไปทริปเมืองนอกด้วยกัน ไบเบิ้ล Introvert มากช่วงนั้น ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ตอนนี้ก็ยัง Introvert อยู่ (หัวเราะ)

เป็นคนที่ค่อนข้างพูดน้อย ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : คือไม่ได้ชวนพูด สิ่งที่เรากล้าพูดมากกว่า คนคิดว่าเราเป็น Introvert ไม่ค่อยคุยมันไม่จริง มันเป็นแค่ Part ที่คนอาจจะเข้าใจผิด แต่ว่าสิ่งที่เราสนใจเราจะคุยได้ตลอด

ถ้ามีคนมาชวนคุยแต่ว่าเป็น Topic อะไรที่เราไม่ค่อยถนัดจะรู้สึกว่ามันฝืนไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : แล้วแต่ว่าเค้าเป็นใคร ถ้าไปเจอนักแสดงคนอื่น ตอนไปทำงานต่างประเทศเราจะชอบคุยมาก เพราะว่ามันน่าสนใจมาก เพราะว่าเรามาอยู่ที่เดียวกันแต่ว่าเส้นทาง มันเหมือนเรามาจากคนละโลกเลย
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

ก่อนหน้าที่จะทำงานวงการบันเทิงที่บอกว่าทำงานที่มหาวิทยาลัยทำอะไรบ้าง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : เป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ แล้วก็เป็นติวเตอร์สอนภาษาไทย แต่ว่าเป็นภาษาไทยสำหรับต่างชาติ

สอนภาษาอังกฤษให้คนไทย สอนภาษาไทยให้คนอังกฤษ ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : สอนภาษาไทยให้คนจีน สอนคณิตให้ ม.ต้น อะไรอย่างนี้ด้วย Basic มาก ประมาณ 2 ปี

เป็นลูกคนเดียวใช่ไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : มีพี่ชาย 1 คน

เคยมีฝาแฝด ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : เคยมีฝาแฝด ก็คือตอนคุณแม่เขาตั้งครรภ์ ตอนไป Ultrasound มีหัวใจเต้น 2 ดวง แล้วก็ไม่รู้ว่าอยู่ใน Trimester ไหนแต่ว่าจากที่เล่า แล้วก็จากที่จำได้ เขาแค่บอกว่าแฝดไม่รอด แล้วก็เหมือนเป็นเนื้องอกแล้วก็สลาย And I got absorbed back into my mom. Probably, I don't know how. อาจจะมีคนที่บอกว่าแบบเหมือนมีสองวิญญาณอยู่ในตัว

เคยมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ก็มีอยู่นะ อาจจะเป็นความรู้สึกว่ามีเป็นคนที่มีเซ้นต์ มีสัญชาตญาณที่ดี

พอมีคนชวนให้ไปแคสต์ งานแรกทำอะไร ?

          ไบเบิ้ล : อย่างแรกเลยคือเราต้องไปแคสต์เพื่อจะได้เข้า Modeling ก่อน พอเข้า Modeling เสร็จแล้วเราก็เอาชื่อ Modeling ขึ้นใน IG แล้วก็เอาเบอร์โทรของผู้จัดการ แล้วก็เราก็วิ่งแคสต์ทุกอย่างเลยหนัง ซีรีส์ โฆษณา เดินแบบ แต่ว่าเดินแบบไม่ได้เพราะเราตัวเตี้ยเกิน สมัยก่อนเขาคัดที่ 175 แต่ว่าตอนเราขึ้นมหาวิทยาลัยเนี่ยเค้าคัดที่ 180 แล้ว แต่ว่าได้เดินแบบนะ แต่ว่าเดินแบบรวมที่ไม่ใช่แค่นายแบบแต่ว่ามี Influencer กับศิลปินคนอื่นด้วย

แล้วก็มาเล่นซีรีส์หนัง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : เป็นเรื่องแรกที่แคสต์ผ่าน แล้วก็เป็นเรื่องแรกที่ได้เล่นเลย KinnPorsche
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

ตอนที่เล่น KinnPorsche รู้สึกไหมว่าชอบมาก แล้วอยากทำงานอยู่ในวงการบันเทิง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : กดดัน เครียดมากตอนนั้นสุขภาพแย่ ทั้งสุขภาพจิตทั้งกายเลย ก็คือช่วงนั้นเราต้องสอบด้วย ต้องเรียนด้วย เข้าปี 4 ธีสิสก็ต้องทำ สอบ Final ก็ต้องทำ ต้องจำบท เป็นการแสดงครั้งแรกด้วย แล้วทุกอย่างกดดันไปหมด เพิ่งปลดโควิดด้วย ทุกอย่างมันเทมาที่เราหมดเลยว่าเราต้องทำให้ได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ผ่านมันกลับมาถ่ายที่เดิมไม่ได้แล้ว เพราะว่า Location มันมีคิวจ่อเต็ม เรื่องภาษาเรื่อง Acting ต้องอ่านหนังสือที่กองเพื่อจะไปสอบวันต่อมาอะไรงี้ ตอนคอนฯของ KinnPorsche ด้วย จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ที่โรงแรมแล้วไม่มีเสื้อเชิ้ต ต้องไปยืมเสื้อเชิ้ตของทางโรงแรม เป็นเสื้อเชิ้ต Staff เพื่อมาใส่แล้วก็ไปยืมห้องประชุมของเขาเพื่อมาเซ็ตคอมฯ แล้วก็พรีเซนต์ให้อาจารย์เป็น Final thesis

ระยะเวลากี่เดือนที่ต้องแบบรู้สึกว่าพยายามมากตอนนั้น ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ทั้งหมดช่วงเวลาถ่ายทำก็ประมาณ 3 เดือน กดดันมาก แล้วยิ่งพอซีรีส์มันบูมแล้วเหมือนเรากลายเป็นคนที่ไม่ใช่คนธรรมดาแบบ over night เลย

เกิดอะไรขึ้นวันนั้นที่เรารู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนไป ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : มันยังไม่ได้ขนาดนั้น เพราะว่าเหมือนเราเก็บตัวทั้งแก๊งเลย แบบทั้งแก๊ง KinnPorsche เก็บตัว ไม่ได้ออกไปเจอโลก ช่วงนั้นยังไม่ได้รับงานพวก Event แต่ว่าเริ่มรู้สึกตอนไปเมืองนอกแล้วไปจัดแฟนคอนฯ แล้วประเทศแรกที่ไปสิงคโปร์ แล้วพอจัดแฟนคอนฯเสร็จแล้วไปเที่ยวที่ Universal มีคนรุมเหมือนเราเป็นดาราแบบเมืองนอกเลย เขาตามเราไปทุกที่

รู้สึกยังไง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ไม่ชอบเพราะเราเป็น Introvert งง แล้วก็ทำตัวไม่ถูกจริง ๆ เพราะเราไม่รู้ว่ามันไม่มี Training หรือไม่มีบอกว่า Instinct อะไรเกี่ยวกับการเป็นมนุษย์ที่เราจะต้องดีลกับสิ่งแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติแล้ว

ค่อนข้าง Introvert แต่พอมาเป็นดาราต้องปรับตัวเองเป็น Extrovert เพราะต้องเจอคนมากเราต้องใช้ Energy เจอคนทำให้หมดพลังไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ตอนแรก ๆ มันรู้สึกฝืนเพราะเราหาจุดพอดีไม่เจอ เหมือนพอเราเป็น Introvert อยู่แล้วมาเจอคนเยอะ ๆ เหมือนเราแบบ Retract เข้าไปในแบบเหมือนเต่า You know? Go back to my shell. เหมือนมันแบบว่ามันถูก Amplify ขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่พออยู่ไปเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกว่าจริง ๆ เราสามารถเป็น Ambivert ได้ เราแค่ต้องหาเส้นพอดี เราไม่ต้องฝืนอะไรแล้วตอนนี้

สมมุติถ้าเครียดมาก ๆ จะทำอะไรเพื่อจัดการความรู้สึก ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : เมื่อก่อนจัดการไม่ได้เลย เป็นคนเครียดแล้วก็คนซีเรียสตลอดเวลา คนที่ปิดสวิตช์ไม่ได้ ว่าช่วงเวลานี้คือโอเค ช่วงเวลานี้ทำงานเครียดได้ กดดันได้ แต่ว่าเวลามันเสร็จแล้วปลอดภัยแล้วก็แบบ I can't switch it off เป็นคนที่เหมือนมีแบบว่ามีเมฆดำลอยอยู่บนหัวตลอดเวลา

ถ้าว่างชอบอยู่บ้านคนเดียวหรือว่าชอบออกไปทำกิจกรรม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : จริง ๆ ผมเป็นคนสายกิจกรรมมาก ชอบกิจกรรมแต่ถ้าโดย default แล้วชอบบ้านมาก เป็นคนรักบ้าน เหมือนเราเอาทุกอย่างที่เราชอบเราเอามารวมอยู่ในบ้านหมดเลย เล่นเกม บางทีก็ดูซีรีส์ ดูหนัง ต่อกันดั้ม เลี้ยงแมว เลี้ยงหมา เลี้ยงงู
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

ปกติเป็นคนตื่นเช้าหรือว่าตื่นสาย ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ร่างกายเป็น Night Owl แต่ว่าจริง ๆ ตื่นเช้าก็ได้ แต่ว่าช่วงนี้นอนแบบนอนเละมาก 02:00 - 03:00 น.

รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีปัญหาเรื่องการนอนไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : มีมาก Sleep habit ของเรามันไม่ค่อย Consistent เท่าไหร่ เราสนใจเรื่องแบบว่าต้องทำยังไงเพื่อจะ Improve มัน เราก็เลยซื้อแบบตัววัด Tracker มา พอเห็นแล้วมันหนักกว่าเดิม ทำไมค่ามันแย่แบบนี้ แต่ว่ามันก็ช่วย บางทีเราก็กลับไปย้อนดูว่าพฤติกรรมที่เราทำก่อนนอนมันเป็นอะไร มันถึงแดงทำไมถึงได้ค่าเท่านี้ก็ช่วยบ้างนิดหน่อย

กินยานอนหลับไหม ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : เมื่อก่อนกิน Melatonin แต่ว่าเดี๋ยวนี้ไม่แล้ว สู้กับมัน

ค่อนข้างจะเป็นคน Adventure ไปเข้าป่าอาทิตย์หนึ่งเหรอ ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : แก๊งเพื่อนตอน ม.ปลาย เขาเป็นสาย Adventure เราก็เลยติดมาจากเขา เหมือน ๆ เป็นแบบว่าโชคดีที่เราชอบกันหมดเลย เราชอบธรรมชาติ เราก็เลยเหมือนเป็นเด็กขี้เบื่อ อยู่ที่บ้าน Hang out ที่บ้านใครสักคนหนึ่งไม่ได้ เราต้องแบบออกไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่งั้นเราเราจะรู้สึกว่าเวลามันเสียไป เวลามีค่ามาก เราก็เลยไปเข้าป่า ไป Camping ไปตั้งเปล หรือว่าแบบไปหาตึกร้าง คฤหาสน์ร้าง รีสอร์ตร้างที่เค้าสร้างไม่เสร็จ

จุดไหนที่เริ่มเปลี่ยนตัวเองเลิกกิน Fast food แล้วกินให้ดีขึ้น ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ไม่ได้มีจุดนั้นนะ ทุก ๆ วันก็กินอยู่ เราเริ่มเข้ามาอินกับ Fitness และ โภชนาการ ตอน ม.ปลาย ตอนนั้นเรายังแบบว่าไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่พอที่จะศึกษาให้มันเต็มที่กว่านั้น เราแค่อ่านผ่าน ๆ โอเคเก็ตแล้ว ๆ ไม่ยาก ๆ น่าจะเกือบครึ่งปีแล้ว แล้วก็มีเข้าใจอะไรผิดๆ กิน Carnivore กินเนื้อสัตว์ล้วน ๆ เกินครึ่งปี มันย่อยยากแล้วเราก็กินผิดเวลาด้วย กินมั่ว ๆ อาหารก็เลยไม่ย่อยในกระเพาะ ก็เลยมีปัญหาเรื่องกระเพาะ เลยเลิกกินช่วงนั้นอายุ 15-16

กินอาหารเสริมอะไรบ้าง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : คิดว่าฉันกินอะไรต่าง ๆ แบบทั่วไปมากเลย ก็มี Creatine, Omega 3, Omega 6, Magnesium, Zinc

เป้าหมายชีวิตของไบเบิ้ลอยากเห็นตัวเองไปถึงจุดไหน ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : ในอีก 3 ปีก็คงคิดว่าอยากจะทำงานเป็นนักแสดงต่อ แล้วก็อยากพัฒนาอยากที่จะมี project ที่น่าสนใจที่คนเขาจะดูแล้วสนุก แต่ถ้าแบบท็อป ๆ เลยก็อยากแต่งงาน มีครอบครัว อยากมีลูก ก่อนที่เราจะไปถึงจุดนั้นต้องเป็นคนที่จะเป็นพ่อที่ดีก่อนเป็น Partner ที่ดี ตอนนี้โฟกัสเป็นคนที่ดีก่อน คนเราต้องพัฒนา

มองตัวเองตอนอายุ 40-50 เป็นยังไงบ้าง ?

          ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส : อยากที่จะมีเงินพอที่จะแบบว่าปิดโลกของตัวเองเลย คือไม่ต้องฟังใคร ไม่ต้องทำอะไร อยากนั่งอยู่ที่บ้าน นั่งอยู่กับธรรมชาติ
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส

ภาพจากรายการ PrimeCast

          สามารถติดตาม "PrimeCast" ได้ที่ช่องทาง Facebook: Alive Dot , Youtube : Alive Dot วันพฤหัสบดี เวลา 18.00 น.
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไบเบิ้ล วิชญ์ภาส เล่าความจริงชีวิตนักแสดง ชื่อเสียงมาเร็ว แต่ความกดดันเกือบทำพัง โพสต์เมื่อ 15 ธันวาคม 2568 เวลา 15:45:06 1,498 อ่าน
TOP
x close