
What’s my signature style? (ผู้หญิงวันนี้)
ใครมีปัญหาเหล่านี้ยกมือขึ้น
- อยากเป็นสาวเก๋กับเขาบ้าง แต่แต่งตัวยังไงก็ดูไม่เข้าตาสักที
- เปิดตำรามาก็มาก พอลองทำตามก็ไม่เหมาะกับตัวเองสักอย่าง
- ซื้อเสื้อผ้าตามเพื่อนๆ ก็แล้ว แต่ไม่เห็นจะสวยเหมือนเพื่อนสักนิด
แค่ลองคิด ก็มึนหัวไปกับนานาปัญหาในการค้นหาสไตล์ที่เหมาะกับเรามากที่สุดแล้วล่ะ แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ยาก อย่างที่คิดค่ะ เพราะใครจะมารู้จักตัวเราดีกว่าตัวเอง (จริงมั้ย) เพราะฉะนั้น จงอย่ารอดีกว่า เรารีบมาค้นหาสไตล์ หรือที่ภาษาแฟชั่นเขาเรียกกันว่า \'ซิกเนเจอร์\' ของเรา ที่จะทำให้เราสวยที่สุดเด่นที่สุดและไม่เหมือนใครด้วยไอเดียที่เรานำมาฝากเหล่านี้
ลองนึกเล่นๆ ดูสิว่าเราอยากแต่งตัวเหมือนใครชื่นชมใคร และอยากให้ตัวเองดูดีแบบไหน แต่ขอวงเล็บไว้ก่อนค่ะว่า เราไม่ได้แนะนำให้คุณทำตัวตามนั้นเป๊ะๆ แต่แรงบันดาลใจดีๆ จะเป็นทางลัดที่ทำให้เรารู้จักตัวเองเร็วขึ้น ทีนี้ลองหาเสื้อผ้าสไตล์นั้นมาสวมหน้ากระจก มองอย่างไม่เข้าข้างตัวเองว่าเราดูดีขึ้นจริงหรือเปล่า จากนั้นให้ค้นหาสไตล์ที่เฉพาะตัวลงไปอีก
เชื่อได้ว่ากูรูทั้งหลายแหล่ ย่อมมีวันที่ผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น เผลอๆ อาจจะมากมายเสียจนไม่อยากบอกเล่าให้ขายหน้า คุณจึงควรกล้าที่จะลองโน่นนี่ จนพบว่าอะไรที่ใช่สำหรับเรามากที่สุด พลาดบ้างก็ไม่มีใครว่าหรอก หากการผิดพลาดครั้งนั้นจะให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าอะไรที่ใช่ และอะไรที่ไม่ควรเสียสตางค์กับสิ่งนั้นอีก
แม้เดรสตัวนั้นจะสวยหยดจนคุณยอมดิ้นตาย แต่ขอแนะนำให้วางทิ้งไป หากสวมแล้วคุณกลับไม่รู้สึกมั่นใจขึ้นมาสักนิด อย่าลืมค่ะว่าเสื้อผ้าที่ทำให้เราดูดีขึ้นมาได้นั้น อีกองค์ประกอบสำคัญคือความรู้สึกมั่นใจเวลาสวมใส่อีกด้วย อย่าพยายามที่จะสวยโดยไม่ตามใจความรู้สึกของตัวเอง หรือนึกเล่นๆ ดูสิว่า หากชุดสุดจะสวย แต่คุณต้องคอยระวังหน้าระวังหลังว่าโป๊หรือบางเกินไปหรือเปล่า อาการลุกลี้ลุกลนจะยิ่งทำให้บุคลิกดูแย่ลงขนาดไหน
แน่ละว่าหากคุณเป็นสาวหวานหยด แต่กลับอยากมีลุคสไตล์คาวบอยอะไรจะเกิดขึ้น? หนึ่งในกฎพื้นฐานจึงมีเรื่องของบุคลิก และคาแร็คเตอร์พ่วงเข้าไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าบุคลิกหนึ่งจะสวมได้เพียงสไตล์เดียวเท่านั้น แต่จะดีกว่าเยอะ หากคุณสามารถพลิกแพลงการแต่งตัวได้อย่างหลากหลาย แต่ก็มีกรอบเฉพาะตัวพร้อมกันไปด้วย ว่าอะไรที่เหมาะกับบุคลิกของเรา และอะไรที่ไม่ควรจับมาใส่เป็นอันขาด เริ่มเลยค่ะส่องกระจกและถามตัวเองมากๆ ว่า เราเป็นสาวหวาน สาวห้าว สาวโก้ และอีกสารพัดสาว ว่าเป็นแบบไหนกันแน่
ใครว่าทรงผม รองเท้า และเครื่องประดับไม่สำคัญ ข้อนี้เราขอเถียงสุดใจว่า เรื่องเหล่านี้นี่ล่ะที่สาวๆ ควรให้ความสำคัญมากถึงมากที่สุด ทุกครั้งที่แต่งตัวลองหันมาใส่ใจรายละเดียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ประกอบไปด้วย อย่างน้อยรองเท้าก็บอกความเป็นตัวตนของเรามากที่สุด ส่วนกระเป๋าจะบอกถึงไลฟ์สไตล์ และเครื่องประดับจะบอกถึงอุปนิสัยและความสนุกในการแต่งตัวของคุณ
นอกจากสไตล์และแพตเทิร์นเยี่ยมๆ สีสันยังเป็นส่วนสำคัญที่จะดึงคุณให้เด่นขึ้น หรือจะกดคุณให้ดร็อปลง เคล็ดลับง่ายๆ คือการเทียบสีเสื้อผ้ากับสีผิว หากมีผิวขาวมาก คุณจัดว่าเป็นคนโชคดีที่ใส่ได้หลายสี แต่ควรเลี่ยงสีอ่อนๆ ที่จะทำให้ดูจืดตาไป ส่วนคนผิวสองสีที่อยากสวมเสื้อผ้าสีสดให้ลองเลือกสีที่มีโทนเข้มแฝงอยู่ เช่น ถ้าเป็นแดงก็เป็นแดงก่ำ ๆ ชมพูก็เป็นชมพูอมม่วง ส่วนคนผิวเข้มเลี่ยงสีสดๆ ไปได้เลยและเลือกสีเอิร์ธโทนที่จะทำให้ดูดีในทุกโอกาส
เพราะหากสวมใส่แบบซ้ำๆ ตามที่แม็กกาซีนทั้งหลายไกด์เราไว้จนเป็นยูนิฟอร์มอย่างนี้ เรายังจะเรียกว่าซิกเนเจอร์ส่วนตัวได้อย่างไรกัน จึงสำคัญกว่า หากคุณจะสนุกในการแต่งตัวไม่ซ้ำแบบ และหาความเป็นคุณมาเติมเต็มในสิ่งที่คุณสวมใส่ให้ยิ่งดูน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมไปล่ะว่า รายละเอียดนี่ละที่จะวัดได้ว่าคุณเป็นกูรูตัวจริงหรือเปล่า
หรืออย่างที่เขาเรียกกันว่า Fashion Victim นั่นล่ะ เพราะนอกจากจะทำให้คุณดูไม่มีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว คุณยังจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์เพียงเพื่ออยากสวยตามๆ คนอื่นๆ (คิดแค่นี้ก็แย่แล้ว) จึงดีกว่าเป็นไหนๆ หากคุณรู้จักจับจ่ายในสไตล์ของตัวเอง และสรรหาสิ่งที่เหมาะสมทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ส่วนคนชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมก็ใช่ว่าผิด แต่ถ้าคุณดันเลือกแบรนด์เดียวหัวจรดท้าย และชูโลโก้หราเพราะกลัวคนอื่นจะไม่รับทราบ ก็นับว่าควรรีบปรับปรุงเป็นการด่วน
หากอ่านมาทุกข้อ แล้วปรากฏว่าคุณไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่คุณต้องรีบปฏิวัติตัวเองเป็นการด่วนเริ่มต้นง่ายๆ จากข้อแรกที่เราบอกไป ถามตัวเองทุกครั้งว่าเรามั่นใจกับสิ่งที่ลองหรือไม่ และอะไรที่เหมาะกับเราที่สุด
ให้มันรู้กันไปเลยว่าคนมีสไตล์เป็นของตัวเองดูเริ่ดๆ เชิด ๆ ยิ่งกว่าคนหลงทางที่แต่งตามคนอื่นเป็นไหนๆ
- รู้สไตล์ของตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมรู้จักแต่งตัวเพื่ออำพรางข้อด้อยของรูปร่าง อย่าพยายามสวมสิ่งที่ชอบ แต่กลับเน้นจุดอ่อนเสียจนคนมองเหลียวหลัง
- การเป็นและการแสร้งเป็น บางครั้งอาจแตกต่างกันนิดเดียว ถามตัวเองดีๆ ว่าเราข้ามเส้นความเป็นตัวเองไปหรือยัง เพราะคงน่าอายไม่น้อย หากคนอื่นๆ จับไต๋คุณได้ (จริงมั๊ย)
- ซิกเนเจอร์ที่เราว่า บางทีอาจอยู่ที่เครื่องประดับที่เราเลือกสวมใส่เป็นประจำห รือไอเทมชิ้นเดียวที่สะท้อนตัวตนเราได้อย่างเหมาะเจาะ ใช่ว่าอยู่ที่เสื้อผ้าอย่างเดียวซะที่ไหน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







