เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก


เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก (สุขกายสบายใจ)

สุขกายสบายใจ เรื่อง : จีรวรรณ เจริญศิลป์

          หากเปรียบชีวิตเป็นดั่งละคร เรื่องราวของนักแสดงตลกชื่อดังอย่าง "เจี๊ยบ เชิญยิ้ม" คงอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น เพราะชีวิตที่ผ่านมากว่าครึ่ง...เขาได้ผ่านบททดสอบมาแล้วมากมาย ทั้งฉากแห่งความสุขสมหวัง และตอนที่พลาดพลั้งเจ็บปวดจนแทบจะมองหาทางออกไม่ได้

          แต่ในเมื่อโลกนี้ไม่ใช่โรงละคร...

          เรื่องราวของผู้ชายคนนี้จึงยังไม่ถึงตอนอวสาน หากยังคงดำเนินอยู่เรื่อยมา และเขาได้มาถ่ายทอดเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต พร้อมไล่เรียงบทบาทที่เป็นทั้ง "ลูกของพ่อ"  "พ่อของลูก" และ "สามีที่ดีของครอบครัว" ในโอกาสฉบับพิเศษ...วันพ่อปีนี้

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

Part l  "ลูกของพ่อ"

          ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ตลกคู่พ่อลูก ศรีหนุ่ม เชิญยิ้มและเจี๊ยบ เชิญยิ้ม เคยยืนเคียงข้างสร้างความสุขและเสียงหัวเราะผ่านหน้าจอทีวี จนกลายเป็นตลกชื่อดังแถวหน้าของประเทศ แต่แล้วโชคชะตาชีวิตของพวกเขาก็พลิกผัน เมื่อผู้เป็นพ่อล้มป่วยเส้นเลือดในสมองแตกจนเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว ลูกของพ่อจึงต้องเจอกับบททดสอบชีวิตครั้งยิ่งใหญ่

          "ตอนเด็ก ๆ เจี๊ยบไม่เคยรู้จักคำว่าพ่อ จนกระทั่งอายุได้ 4 ขวบ จึงได้เจอหน้าพ่อเป็นครั้งแรก แต่ก็เป็นครั้งแรกที่วิ่งหนีพ่อเพราะไม่เคยเจอมาก่อน ด้วยอาชีพของพ่อต้องเล่นละครเร่ไปทั่วประเทศ แล้วแยกทางกับแม่ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีลูก ทำให้ตอนเด็ก ๆ เจี๊ยบไม่เคยคิดฝันว่าจะเป็นตลกเหมือนกับพ่อ

          แต่แล้วตอนเรียนจบ ปวช. ก็มาทำงานที่สมุทรสาคร แต่ได้เงินเดือนน้อยมาก พ่อก็ชวนมาทำงานในคณะตลก จำได้ว่าตอนนั้นเป็นเด็กถือถาด ซึ่งเป็นถาดที่เอาไว้ใช้ตบหัวกันเวลาเล่นตลก มีรายได้วันละ 200 บาท ทำอยู่อย่างนั้นประมาณ 2 ปี ก่อนจะได้มาเล่นเป็นผู้จัดการ แต่ตอนแรกก็ยังไม่ได้เล่นนะ มีคนเล่นตัวนี้มาก่อนอยู่แล้ว จู่ ๆ ตัวเล่นก็ขาดงานหลายวัน พ่อจึงให้ขึ้นเล่นแทน ตอนแรกเราสั่นมาก (หัวเราะ) เพราะคาเฟ่ใหญ่แต่พ่อก็คอยช่วยเหลือตลอด และแนะนำว่าลูกผม เลยกลายมาเป็นมุขตลกติดปาก พ่อผม-ลูกผม มาเรื่อย ๆ ครับ"

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

          หลังจากที่ประเดิมเล่นตลกครั้งแรก เจี๊ยบ เชิญยิ้ม ก็หันมาศึกษาการเล่นตลกอย่างจริงจัง โดยในช่วงแรกเขายอมรับว่าฝีมือการแสดงตลก ต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพของพ่อเข้าช่วยอย่างมาก มุขไหนก็ตามที่เขาเล่นแล้วไม่ตลก ก็จะมีคุณพ่อศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม คอยช่วยแก้สถานการณ์ให้ตลอด ซึ่งการที่มีพ่อเป็นเบื้องหลังนี้เอง ทำให้เจี๊ยบ เชิญยิ้ม สามารถกลายเป็นตลกคุณภาพได้ในเวลาเพียงปีเศษ และเริ่มมีงานในวงการบันเทิง จากนั้นชื่อของเขาก็ค่อย ๆ เป็นที่จดจำ จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อพ่อ ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม ล้มลง และเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน เพราะความหวังในการมีชีวิตรอดริบหรี่เพียง 5% เท่านั้น

          "พ่อเส้นเลือดใหญ่ในสมองแตก ขณะถ่ายทำละครซิทคอมบางรัก ซอย 9 วินาทีนั้นเจี๊ยบมีความหวังริบหรี่เพียง 5% เพราะคุณหมอบอกว่าต้องทำการผ่าตัดด่วน และการผ่าตัดครั้งนี้หากพ่อรอดชีวิตมาได้ก็จะมีผลลัพธ์ 3 แนวทางคือ หนึ่งอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักระยะสั้น ๆ สองอาจจะเป็นเจ้าชายนิทรา และหากโชคดีสุด ๆ ก็อาจจะกลับมาจำอะไรได้เหมือนเดิม แต่จะเป็นอัมพฤกษ์ชั่วขณะ

          จำได้ว่าตอนนั้นต้องรอญาติไปเซ็นต์ก่อนที่จะผ่าตัด ผมโทรศัพท์ไปบอกให้ผ่าตอนนี้เลย ผมเจี๊ยบ เชิญยิ้ม เดี๋ยวจะหาเงินไปจ่าย แล้วก็ไปบนขอให้พ่อรอดชีวิต ตอนแรกหมอก็บอกให้ทำใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรืออาจเป็นเพราะบุญเก่าที่ทำมา พ่อสามารถรอดชีวิตมาได้ชนิดที่หมอยังยกให้เป็นกรณี 1 ในล้าน เพราะนอกจากจะผ่านเส้นแบ่งความตายมาแล้ว ผลการผ่าตัดยังออกมาในแนวทางที่สาม คือยังคงจำได้เหมือนเดิมแต่เป็นอัมพฤกษ์ชั่วขณะ ซึ่งนับว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการรักษาแล้ว ทำให้ความหวังที่จะได้พ่อศรีหนุ่มคนเดิมกลับมาเริ่มมีหนทาง เจี๊ยบดีใจมากครับ"

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

          แม้ว่าในช่วงเวลานั้นเขาต้องรับภาระหนักอึ้งในการก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลทุกคนในบ้าน และที่สำคัญคือการรักษาพ่อให้หาย แม้ว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่ลูกชายคนนี้ไม่เคยย่อท้อแค่ขอให้ได้พ่อคนเดิมของเขากลับมา

          "ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือทำให้พ่อหาย เอาพ่อคนเดิมกลับมาได้ไหม เรื่องเงินเจี๊ยบไม่สนเลยคิดว่าเดี๋ยวหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ จนทุกวันนี้ เราได้พ่อกลับมา แม้ว่าพ่อจะเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวแต่พ่อก็เริ่มสื่อสารได้รู้เรื่องแล้ว เหลือเรื่องเดินอย่างเดียวคือยังเดินไม่ได้ ต่อไปจากนี้ก็ถือว่าเป็นกำไร ซึ่งจริง ๆ แล้วเราทำกายภาพบำบัดช้าไป เพราะตอนแรกที่พ่อออกจากโรงพยาบาลมาใหม่ ๆ เราก็กลัวเขาจะเจ็บ อยากให้เขาพักก่อน แต่กลายเป็นว่ากล้ามเนื้อเขาจะฝ่อ เนื้อเริ่มเหลวแล้ว ตอนหลังก็เลยช่วยกันทำกายภาพบำบัด และฝังเข็มอย่างสม่ำเสมอ จนอาการตอนนี้เขาดีขึ้นมากเลย

          ในช่วงแรก ๆ ที่พ่อป่วย แม้จะยังลืมตาไม่ได้แต่พ่อก็ยังต้องการจะสื่อสารโดยการจับปากกาเขียนหนังสือบอกเจี๊ยบว่า "เจี๊ยบ อย่าทิ้งครอบครัวนะลูก" ซึ่งข้อความจากพ่อทำให้ผมยังคงทำตามคำขอ และหลังจากที่พ่อป่วย ทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของการกอด เพราะก่อนหน้านี้ เจี๊ยบกับพ่อไม่ค่อยได้กอดกันตามประสาพ่อกับลูกชายที่มักจะเขิน แต่ทุกวันนี้เจี๊ยบกอดพ่อบ่อยมาก และรู้สึกว่าการกอดเป็นกำลังใจที่ดีอย่างหนึ่ง และอะไรก็ตามที่เป็นกำลังใจ เป็นความอบอุ่นที่มอบให้แก่กันในครอบครัวเจี๊ยบก็จะทำเสมอครับ"

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

Part ll  "พ่อของลูก"

          เจี๊ยบจะทำหน้าที่ลูกได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนหน้าที่พ่อและสามีที่ดีเขาก็ทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่อง โดยก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาให้กำเนิดลูกชาย "น้องเหนือ" ซึ่งป่วยด้วยอาการน้ำในสมองเยอะตั้งแต่แรกเกิด ทำให้มีอาการตาเหล่ พัฒนาการกล้ามเนื้อแขนขาช้ากว่าเด็ก ปกติทั่วไป และนั่นทำให้เขามุ่งมั่นรักษาลูกชายจนหายเป็นปกติแล้ว

          "ตอนแหม่ม (ภรรยา) ท้อง เขาแพ้ท้องหนักมาก 8 เดือนแล้วยังแพ้อยู่เลย กินอะไรก็ไม่ได้ แม้แต่น้ำยังอาเจียน จนเราพูดว่ามีอาหารที่ไหนที่ภรรยากินแล้วไม่อาเจียนบ้างไหม จานละแสนก็จะซื้อ เพราะตอนนั้นเขาตัวผอมมาก โตแต่ท้อง พอลูกออกมาน้ำในหัวสมองเลยเยอะ ไปเบียดเส้นประสาทตา แขน และขา ทำให้แขนขาไม่มีแรง ตาเหล่ ตาลอย แต่สมองปกติ ตื่นเช้ามาต้องปิดตาข้างหนึ่ง เที่ยงต้องปิดอีกข้างหนึ่ง ทำอย่างนั้นตั้งแต่ 6 เดือนครึ่งถึง 3 ขวบ แล้วก็ผ่าตัด จนตอนนี้ได้ลูกปกติกลับคืนมา

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

          ซึ่งทุกวันนี้เจี๊ยบให้ความรักกับลูกเต็มร้อย แต่เรื่องของเวลาเราให้กับลูกน้อยมาก เนื่องจากอาชีพในวงการบันเทิงที่หาเวลาว่างยาก แต่เจี๊ยบก็สัญญา และพยายามชดเชยให้ด้วยเวลาภาพ คือถึงแม้จะอยู่ด้วยกันน้อย แต่จะทำให้ลูกว่าพ่อไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่กับเขาตลอดเวลา โดยใช้วิธีคิดถึงก็โทรศัพท์คุยกันตลอด ซึ่งการมีลูกมักคืออะไรที่จะต้องเสียสละจริง ๆ นะ มีความรับผิดชอบและไม่ประมาท จากเมื่อก่อนเป็นคนขับรถเร็ว แต่ตอนนี้ต้องระวังและมีสติมากขึ้น เพราะไม่ใช่ตัวเราคนเดียวแล้ว แต่เรามีภรรยาและมีลูกอยู่ข้างหลัง ถ้าทำอะไรบุ่มบ่าม ไม่ระวัง คนที่เรารักก็ต้องพ่วงท้ายอันตรายไปด้วย นอกจากนี้เรื่องการใช้เงินก็เหมือนกัน ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย เนื่องจากอนาคตของลูกเมียต้องมาก่อนครับ"

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

Part lll  "สามีที่ดีของครอบครัว"

          หลังจากที่มรสุมลูกแล้วลูกเล่าได้พัดผ่านไป แต่ทว่าดูเหมือนจะเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของเจี๊ยบ เชิญยิ้ม อีกครั้ง เมื่อคุณแหม่ม ภรรยาสุดที่รักของเขาได้ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำบน ถนนสายพนมทวน-กำแพงแสน จ.กาญจนบุรี เมื่อปลายปีที่ผ่านมา (เดือนธันวาคม 2553) ซึ่งเป็นเหตุให้คนขับรถเสียชีวิตคาที่ ขณะที่คุณแหม่มได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งหลังหัก แขนขวาหักม้าม ปอด ลำไส้ กระบังลมขาด ไตช้ำ ตับอ่อน กระเพาะอาหารร่นขึ้นไปอยู่ด้านบนทั้งหมด

          คุณแหม่ม ภรรยาของคุณเจี๊ยบเล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า "กว่าที่แหม่มจะเดินทางมาถึงโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ใช้เวลานานนับ 9 ชั่วโมง โดยตลอดเวลาที่อยู่ในรถพยาบาลแหม่มยังมีสติดีอยู่นะ และสวดมนต์ภาวนาตลอด"

          ขณะที่เจี๊ยบ เชิญยิ้ม พอได้รับรู้ข่าวนี้ก็รีบเดินทางออกจากกองถ่ายไปหาเขาทันที และเมื่อได้รู้อาการภรรยา เขายอมรับว่าเครียดมาก จนในที่สุด 6 ชั่วโมงของการผ่าตัดอันแสนยาวนานก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

          "ตอนนั้นในใจคิดอยู่แต่ว่าจะทำอย่างไรให้ภรรยาปลอดภัย กลัวที่สุดคือเดินไม่ได้ เพราะกระดูกหลังเคลื่อนไปกระทบกับเส้นประสาทที่ควบคุมทุกอย่างในร่างกายจนช็อก แต่ไม่ถึงกับขนาดต้องผ่าตัดด่วน ซึ่งหมอบอกว่าโอกาสที่จะกลับมาเดินได้มีประมาณแค่ 20% ทำให้ภาพก่อนพ่อเข้าห้องผ่าตัดย้อนกลับมาอีกครั้ง ณ ตอนนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือที่พึ่งที่ดีที่สุด จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้ภรรยาปลอดภัย สามารถกลับมาเดินได้

          แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังผ่าตัดโอกาสเดินได้เหมือนเดิมเพิ่มขึ้นเป็น 50% กระทั่ง 70% บางวันแหม่มร้องไห้บีบมือเจี๊ยบบอกว่ากลัวไปทำกายภาพแล้วต้องบล็อกที่หลังก็ร้องไห้ เพราะหมอบอกว่าจะงอหลังไม่ได้ ฉะนั้นตลอดเวลากว่า 1 เดือนที่เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาล เจี๊ยบไม่รับงานเลยอยากจะอยู่ดูแลเขา

เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก

          ช่วงนั้นทุกคนคงรู้กันว่าแหม่มประสบอุบัติเหตุหนัก หลังหักอัมพาตแน่ ๆ ซึ่งดูจากอาการแล้วไม่น่าจะมีโอกาสกลับมาเดินได้อีก แต่เหมือนเรามีกันแค่ 2 คน อยากทำทุกอย่างให้เขามีความสุข ให้มีกำลังใจว่าเขาจะต้องกลับมาเดินได้เหมือนเดิม ช่วงนั้นผมหอมแก้มเขาตลอด เจ็บตรงไหนขาเดินไม่ได้ เจี๊ยบก็หอมเท้าแหม่มทุกวันเพื่อให้เขารู้ว่าเราไม่ได้รังเกียจ อีกอย่างเจี๊ยบก็ดูแลเองทุกอย่างทั้งอุ้มไปเข้าห้องน้ำ จะถ่ายจะปัสสาวะช่วยยกขาทุกครั้ง เจี๊ยบยินดีและเต็มใจที่จะทำ จนตอนนี้แหม่มกลับมาหายเป็นปกติแล้ว ซึ่งผมก็ภูมิใจ และดีใจ ความรักความทุ่มเทมัน ส่งผลให้เกิดปาฏิหาริย์จริงๆ ครับ"

          แม้อุบัติเหตุเฉียดตายครั้งนี้ ทำให้คุณแหม่มได้รับความเจ็บปวดครั้งร้ายแรงที่สุดในชีวิต แต่กลับกัน คุณแหม่มก็ได้รับรู้ถึงความห่วงใยอย่างสุดซึ้งของสามีคนนี้ และทำให้เธอรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และเพราะกำลังใจที่มากล้นบวกกับจิตใจที่เข้มแข็ง คุณแหม่มสามารถกลับมาเดินได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง ในเวลาเพียงแค่ 1 เดือนครึ่ง จากที่คุณหมอประเมินไว้ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี

          ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคนใกล้ชิดของเจี๊ยบ เชิญยิ้ม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ในช่วงที่ต้องเจอมรสุมชีวิต เขาไม่เคยปริปากว่าเขากำลังลำบาก แม้กระทั่งคนในบ้านยังไม่เคยได้ยินเสียงบ่นของผู้ชายคนนี้ ทั้งยังให้คำมั่นสัญญากับทุกชีวิตด้วยว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะคอยอยู่ดูแลทุกคนเสมอ ไม่มีวันทิ้งกัน และนี่เอง ที่ทำให้คนที่เคยได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเขา มองเห็นเขาเป็นวีรบุรุษของพ่อและลูกชายเสมอ


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

ฉบับ 10 ธันวาคม 2554



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจี๊ยบ เชิญยิ้ม คุณพ่อ...หัวใจหล่อมาก อัปเดตล่าสุด 11 มกราคม 2555 เวลา 18:06:33 9,231 อ่าน
TOP
x close