x close

ก้อง กรุณ ร็อกสตาร์ ไฮโซ คนล่าสุด


ก้อง กรุณ



กรุณ ซอโสตถิกุล ร็อกสตาร์ (ไฮโซ) คนล่าสุด (Lisa)

         ในเมื่ออาณาจักรธุรกิจของครอบครัววางรออยู่ตรงหน้า แล้วทำไมต้องรีบร้อน! เวลานี้ของหนุ่มไฮโซจึงขอเดินตามเสียงเต้นของหัวใจในจังหวะร็อกเพื่อสานฝันเป็นร็อกสตาร์คนล่าสุด

         "ใช่ว่าเป็นไฮโซแล้วจะทำงานง่ายอย่างที่คิดผมก็ทำงานหนักเหมือนศิลปินคนอื่นๆ"...ดูเหมือนประโยคนี้ทำให้เราเห็นภาพการเป็นนักร้องน้องใหม่ในสังกัดจีนี่เรคอร์ดสของหนุ่มฮอต ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล ได้ชัดขึ้น หลังจาก 2-3 ปีก่อนเชื่อของทายาทหนุ่มแห่งอาณาจักรห้างซีคอนสแควร์ เริ่มหอมกรุ่นในแวดวงสังคมเมื่อเรียนจบนอกมาใหม่หมาด เขาปรากฏตัวตามงานสังคมเป็นระยะๆ แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเริ่มต้นการงานใดๆ เพราะตั้งใจจะบ่มเพาะตัวตนให้พร้อมเพื่อเป็นนักร้องเต็มตัว

เล่าประสบการณ์ทางดนตรีให้ฟังหน่อยสิคะ ทราบว่าครอบครัวไม่ได้ทำธุรกิจดนตรี และคุณก็ไม่ได้เรียนจบด้านนี้

         ก้อง : คงตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยครับ (หัวเราะ) ผมถูกปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ ได้ฟังเพลงของ Elvis, The Beatles ตามคุณพ่อ แล้วท่านเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟังตลอด ขึ้นมัธยมฯ ก็ชอบดูเอ็มทีวี ฟอร์มวงเล่าดนตรีตามงานต่างๆ พอไปเรียนต่อที่อเมริกาก็ไปอยู่ในถิ่นของเพลงอเมริกันร็อก ได้คลุกคลีอยู่กับพี่ๆ ที่บอสตัน ซึ่งแต่ละคนพอจบกลับมาก็เป็นศิลปินกันหมด เช่น พี่บุรินทร์วงกรู๊ฟไรเดอร์ส คุณสันต์ ภรมย์ภักดี พี่ๆ วงอพาร์ตเมนต์คุณป้า ผมได้รสนิยมการฟังเพลงเพิ่มขึ้นจากพี่กลุ่มนี้บวกกับได้ดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่เป็นไอดอลอย่าง Aerosmith, Lenny Kravetz, Maroon 5, Jamiroquai แต่ละวงถือเป็นสุดยอด เลยคิดว่าครั้งหนึ่งผมอยากจะทำเพลง ได้ยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดังถึงขนาดพวกเขานะ 

         ก้อง : ตอนนั้นผมเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์เพราะมันกว้างดีใช้ทำงานอะไรก็ได้ แต่ใจชอบอาร์ต พอไปคุยกับครูรู้ว่าต้องเรียน 5 ปีจบ ผมเลยไม่เอา อยากรีบจบกลับมาทำเพลงที่เมืองไทย ขอคุณพ่อคุณแม่ไว้ ซึ่งท่านก็โอ.เค. แต่ให้เรียนจบโทก่อน ผมก็เรียนให้ตามนั้น แล้วถึงได้เริ่มทำงานเพลง

ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล


 แล้วธุรกิจของครอบครัวล่ะคะ

         ก้อง : ในอนาคตคงทำอยู่แล้วครับ แต่ผมขอลุยงานตรงจุดนี้สักพักใหญ่ๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมรักอีกหน่อยอาจจะทำควบคู่กันไปได้ ตอนนี้มีคุณพ่อ พี่ชาย และญาติๆ ช่วยกันทำ และทุกคนก็สนับสนุนให้ผมทำสิ่งที่รัก เขาบอวกว่าผมเป็นสีสันของครอบครัวดี (หัวเราะ) ทำให้ครอบครัวสนุกและตื่นเต้นไปด้วย ถ้าคนในครอบครัวเหมือนกันหมดคงน่าเบื่อ ส่วนเรื่องอนาคตเดี๋ยวค่อยคิด ยังไงก็มีงานรออยู่แล้วจะกลับไปทำเมื่อไหร่ก็ได้ ผมว่าผู้ชายเกือบทุกคน ในชีวิตคงอยากเกิดมาเป็นร็อกสตาร์แต่ไม่มีโอกาส เมื่อผมมีโอกาสก็อยากคว้าไว้

 ดูคุณจะเป็นผู้ชายหัวขบดเหมือนกันนะ

         ก้อง : ผมเป็นคนนอกคอกมากๆ นะ คนอื่นในครอบครัวไม่มีใครเป็นแบบผมหรอก แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากเป็น แต่เขาหลุดออกมาไม่ได้ ก็ไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร (หัวเราะ)

 ทำไมใช้เวลานานถึง 3 ปี กว่าจะมีซิงเกิลแรกออกมา

         ก้อง : นอกจากเรียนแล้ว ผมยังผ่าไซนัสเพื่อจะร้องเพลงด้วย แล้วต้องพักต่ออีกเป็นปี ผมลงทุนมากๆ ต้องเลิกเหล้า บุหรี่ เลิกชีวิตกลางคืน แต่มันทดแทนกันได้ เพราะทั้งชีวิตผมเที่ยวมาเยอะแล้ว มันถึงเวลาที่เราต้องทำสิ่งที่เรารัก เราต้องจริงจัง ต้องยอมเปลี่ยนตัวเอง กว่าที่ผมจะได้มาอยู่กับพี่ๆ ที่จีนี่เรคอร์ดสก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะเขาไม่เชื่อว่าผมทำได้ ศิลปินแต่ละคนในจีนี่ฯ อยู่ระดับท็อปทั้งนั้น ผมต้องพิสูจน์ให้เขาเห็น ไปตื้อจนเขายอมให้ผมเป็นศิลปินในค่าย เขาหาโปรดิวเซอร์มาให้ผม เราทำงานด้วยกันตั้งแต่ศูนย์ พยายามหาตัวคนของผมที่ชัดเจนมากที่สุด 

         ก้อง : ก่อนหน้านี้ผมทำเพลงมาแล้วสองเพลง แต่ยังไม่ลงล็อกเท่าไหร่ จนมาถึงเพลง "สาบาน" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรก ทุกอย่างต้องใช้เวลานานมาก ผมต้องผ่านกระบวนการทุกขั้นตอนเหมือนศิลปินคนอื่นๆ ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็ได้ทำทั้งชีวิตผมเที่ยวมาเยอะแล้วมันถึงเวลาที่เราต้องทำสิ่งที่รักเราต้องจริงจังต้องยอมเปลี่ยนตัวเอง

 ถ้าสิ่งที่ค่ายให้คุณทำไม่ใช่แนวร็อกยังจะทำอยู่มั้ย

         ก้อง : ไม่หรอกครับ ถ้าผมไม่ได้ทำแนวร็อกก็คงไม่ทำผมว่าคนเราถ้าต้องทำในสิ่งที่ไม่ได้รัก ไม่ชอบสู้ไม่ทำดีกว่า เราควรเป็นตัวของเราเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมไม่ได้อยากเป็นดารา ผมไม่ได้อยากมีชื่อเสียง ที่มาทำตรงนี้ก็เพราะรัก ผมโชคดีมากๆ ที่ได้ทำเพลงแนวร็อกที่ชอบ ไม่ใช่ว่าเขาโยนอะไรมาให้แล้วผมก็ร้อง ไม่ใช่ ผมโชคดีที่เจอคนทำงานที่มีความคิดความชอบตรงกัน โตมาด้วยกันในยุค 80-90s ฟังเพลงอเมริกันร็อกเหมือนกัน ทุกอย่างมันลงตัวหมด ผมจึงแฮปปี้กับตรงนี้ ต่อจากนี้เพลงของผมจะดังหรือไม่ดัง จะขึ้นถึงท็อปชาร์ตมั้ย อันนั้นเป็นผลพลอยได้แล้วนะสำหรับผม

 ในเมื่อวางตัวเป็นร็อกเกอร์ คุณมองกระแสเพลงร็อกในบ้านเราขณะนี้เป็นยังไง

         ก้อง : ร็อกไม่มีวันตายอยู่แล้วครับ แต่สมัยนี้ยอมรับว่าคนฟังเพลงร็อกที่มาจากฝั่งยุโรปมากกว่าอเมริกา ซึ่งผมอยากพรีเซนต์ยุคของอเมริกันที่เคยดังมากๆ ยิ่งในช่วง 90s ซึ่งยุคนั้นมีไมโคร นูโว บิลลี่ก็เป็นอเมริกันร็อกที่ได้รับความนิยมทั้งนั้น แล้วแต่ละเพลงก็กลายเป็นตำนานด้วย ตอนนี้อาจจะเหลือน้อย ที่พยายามนำกลับมาก็มีหลายวง อย่างวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า เขาชัดเจนมากในแนวเพลงอเมริกันร็อกเพลงแรกของผมทำเป็นป็อปร็อกไม่ซับซ้อน แต่มีกลิ่นของอเมริกันร็อกมีเครื่องสายเข้ามา นี่คือเสน่ห์ของดนตรีแนวนี้ที่สามารถนำดนตรีแนวอื่นๆ เข้ามาร่วมได้ ยังไงแนวเพลงนี้ตลาดเมืองไทยก็ยังเสพกันต่อไป แต่ก็หวังให้บ้านเรามีแนวดนตรีเยอะขึ้น

 ภาพลักษณ์ของร็อกสตาร์มักจะเถื่อนๆ ดิบๆ แล้วร็อกสตาร์ในแบบของก้อง-กรุณล่ะคะ

         ก้อง : ผมชอบลุคแบบวินเทจร็อก ดูดิบๆ หน่อย หยาบๆ เซอร์ๆ แต่ดูสะอาดนะครับ ผมชอบแต่งตัว ชอบแอ็กเซสซอรี่สไตล์แอนทีค ผมเลือกของมีดีไซน์มากกว่าเลือกยี่ห้อ และผมเป็นคนไม่ตามเทรนด์ ผมไม่ใช่เหยื่อของแฟชั่น เดี๋ยวนี้คนใส่ขาเดฟตามแนวพังก์ อีโม แต่ผมใส่ขาม้ามานานมาก ก็กะว่าจะแต่งแบบนี้ไปจนถึงอายุ 50-60 อย่างมิก แจ็กเกอร์สตีเว่น ไทเลอร์ บอง โจวี่ ถึงจะมีอายุเยอะก็ยังแต่งแบบนี้อยู่

ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล


 การเกิดในตระกูลดังที่ใครๆ เรียกคุณเป็นหนุ่มไฮโซ มีผลต่อการทำงานให้เป็นที่ยอมรับมั้ย

         ก้อง : มีคนมองเยอะนะว่าเพราะผมเป็นคนดังถึงได้มาเป็นนักร้อง ผมจึงบอกตลอดเวลาว่าผมไม่เคยเกาะกระแสใครดัง บางคนก็ว่าผมใช้ชื่อเสียงมาสร้างกระแสให้ดัง แต่ผมอยากให้วัดกันที่ผลงานอย่าเพิ่งพูดหรือพิพากษาตัวผม รอดูผลงานแล้วค่อยมาวัดกันก็ได้ จะดี-ไม่ดีผมไม่ว่าอยู่แล้ว ถามว่าดีใจมั้ยที่ลบคำสบประมาทได้ ผมดีใจแต่ยังไม่ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ยังไม่ถึงกับเป็นก้าวแรกด้วยซ้ำ ผมอยากให้รอดูต่อๆ ไปรอให้ถึงจุดที่ผมได้รับการยอมรับจริงๆ

 คุณอยากให้คนยอมรับในฐานะร็อกสตาร์ แต่หลายคนกลับจำภาพหนุ่มไฮโซมากกว่า

         ก้อง : มันคงลบออกไปได้ไม่หมดหรอกครับ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนคิดเหมือนเราได้ บางคนติดภาพผมยังไงก็จะนึกอย่างนั้น แต่สิ่งที่ผมทำไลฟ์สไตล์ของผม ผมไม่ได้ทำตัวเป็นไฮโซ ชีวิตผมเรียบง่ายมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านก็สอนว่า ทุกคนอยู่ในระดับเดียวกันหมด ไม่มีสูงมีต่ำ จะคบกับใครก็ไม่มีการห้าม ผมไม่เคยทำตัวอยู่สูงกว่าคนอื่น ผมเป็นคนเฮฮา ลุยไหนลุยได้ ผมมีชีวิตอีกด้านที่อาจจะเรียกว่าดาร์กไซด์ก็ได้ ผมผ่านชีวิตชกต่อย ไม่ยอมใคร ไปเรียนเมืองนอก ห้องที่อยู่อัดกันกี่คนก็อยู่ได้ พ่อแม่สอนให้ผมลุย ไม่มานั่งโอ๋ลูกเป็นคุณหนู แต่จากวันนี้ภาพลักษณ์ของร็อกสตาร์น่าจะชัดขึ้นเพราะนับจากวันแรกที่ผมกลับมาเมืองไทย ผมยังแต่งตัวเหมือนเดิม วางตัวเหมือนเดิมครับ

 แล้วความรักของคุณตอนนี้เป็นยังไงคะ

         ก้อง : อย่างที่หลายคนรู้ กับโม (แตงโม-ภัทรธิดา) เราลดสถานภาพลงมาเป็นพี่เป็นน้องกัน มันเลยเป็นช่วงที่ผมอยากใช้ชีวิตเพื่อรักตัวเองให้เยอะๆ เพราะผมไม่ได้มีชีวิตอิสระแบบนี้มา 3 ปีแล้ว ชีวิตตอนนี้เรียบๆ ง่ายๆ ถ้ามีคนคุยด้วยก็คุย ความรักจึงไม่อยากไปรีบร้อน เพราะผมเป็นคนให้ความสำคัญกับความรักมาก เหมือนในเพลง "สาบาน" ที่โปรดิวเซอร์เขียนออกมาจากตัวผมจริงๆ เพราะถ้ามีความรัก ผมจะทุ่มให้สุดๆ ผมจึงไม่อยากเจ็บในตอนนี้ ถ้าความรักแย่ เรื่องงานจะต้องรวนไปด้วยแน่ๆ เพราะความรักมีอิทธิพลกับผมมากๆ ครับ ฉะนั้น ความรักก็จะเป็นแบบนี้ คือปล่อยให้ควบคู่ไปกับชีวิตประจำวัน แต่อยากโฟกัสเรื่องงานให้นำหน้ามากกว่าเพราะผมรอมาถึง 3 ปี

 กับน้องน้ำชา (ชีรณัฐ ยูสานนท์)

         ก้อง : อืม...คือถ้ามีใครเข้ามาในชีวิต ผมก็ไม่ได้ปิดตัวเอง แต่คนก็รู้ว่าผมเป็นคนช่างเลือกและเลือกมาก ทุกอย่างในชีวิตผมต้องเลือกหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ งานเพลง ผมต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดในสายตาของผม เรื่องความรักก็เหมือนกัน ผมต้องเลือกให้ดีที่สุด เพอร์เฟ็กต์ที่สุด ไม่ใช่หมายถึงเลือกผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์นะฮะ แต่หมายถึงเลือกผู้หญิงที่คิดว่าเพอร์เฟ็กต์สำหรับผมที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องรีบร้อน ก็ดูไปเรื่อยๆ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุด

         ก้อง : สำหรับตัวเองสำหรับผม จะเป็นใครก็แล้วแต่ขอให้เขาเป็นคนดี รักครอบครัว ไม่ว่าครอบครัวของเขาหรือของผม ถึงจะสวยเป็นนางฟ้าหรือดีเลิศขนาดไหน ถ้าเข้ากับครอบครัวและเพื่อนของผมไม่ได้ก็ไม่เอาผมมองส่วนรวม ผมไม่ได้เอาส่วนตัวมาเป็นเกณฑ์แล้วที่บ้านผมไม่เคยบอกว่าจะต้องเป็นใคร เป็นไฮโซหรือดูที่นามสกุล ท่านเชื่อในการตัดสินใจของลูก ไม่เคยต้องมาบอกหรือจับคนนู้นคนนี้ให้ผม เขารู้ว่าผมดื้อแค่ไหน ไม่มีใครบังคับผมได้

 ตอนนี้เป็นทั้งไฮโซและนักร้องด้วย แต่คุณก็ไม่ปิดบังเวลาไปไหนกับสาวๆ

         ก้อง : ผมมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง จะทำอะไรก็ตามผมไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้ามัวแต่มานั่งกลัวปาปารัชชี่ ชีวิตนี้เป็นอันไม่ต้องทำอะไรกัน ถึงเป็นนักร้องแล้วผมก็ทำตัวปกติ อีกอย่างทางค่ายไม่ได้ห้ามผมไม่ให้ทำนู่นทำนี่ และผมรู้ตัวเอง เวลาทำอะไรนึกถึงหน้าคุณพ่อแม่เป็นหลัก ท่านต้องมาก่อนคนอื่น ผมจะไม่ทำอะไรให้เสียชื่อเสียงผมออกไปกินข้าว ไปดูหนัง มันเป็นชีวิตที่ทุกคนสามารถมีได้ แล้วเรื่องอะไรจะต้องมานั่งหลบๆ ซ่อนๆ ผมก็บอกพี่ๆ นักข่าวไปตามนั้น บางคนมาเป็นศิลปินอาจจะนอยด์ กลัวสื่อ แต่ผมไม่เลย

         อย่างที่บอกว่าไฮโซหนุ่มคนนี้ไม่อยากดัง แค่อยากเป็นร็อกสตาร์ที่ทำงานเพลงดีๆ ให้คนฟังแบบนี้ยะเข้าใจ๋...

ก้อง กรุณ


 Profile

         ก้อง-กรุณ ซอโสตถิกุล ไฮโซหนุ่มหัวใจร็อกวัย 28 จบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์และปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยมอสตัน เขาเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล เจ้าของอาณาจักร ซีคอนสแควร์และธุรกิจอื่นๆ เช่น นันยาง ผงชูรส ตราชฎา นมตรามะลิ 

         หลังเลิกรากับนางเอกสาว แตงโม-ภัทรธิดา ไม่นานก็มีข่าวกุ๊กกิ๊กกับหวานใจคนใหม่ เป็นนักร้องร่มค่าย น้ำชา-ชีรณัฐ ยุสานนท์ เหตุนี้หนุ่มก้องจึงได้ตำแหน่งหนุ่มฮอตเสน่ห์แรงประจำวงการไปอีกราย


  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สุดสัปดาห์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ก้อง กรุณ ร็อกสตาร์ ไฮโซ คนล่าสุด อัปเดตล่าสุด 27 สิงหาคม 2552 เวลา 14:01:34 2,220 อ่าน
TOP