ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ เชื่อว่าคู่รักหลายคู่ทั่วโลกคงมีแผนเซอร์ไพร์สหวานใจ หรือทำอะไรโรแมนติก ๆ เพื่อเอาใจคนพิเศษ และเก็บเป็นภาพความทรงจำวันหวานเอาไว้แน่ ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ประเทศไหนที่มีความโรแมนติกมากที่สุด วันนี้ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นโก ได้ทำการสำรวจ 10 อันดันชนชาติที่มีความโรแมนติกมากที่สุดในโลก มาฝากกัน ดังต่อไปนี้
1. สเปน ชาวสเปนขึ้นชื่อว่าเป็นนักรักตัวยง อาจเป็นอุปนิสัยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลี พร้อมทั้งรูปลักษณ์ที่ทรงเสน่ห์ของชาวคาบสมุทรไอบีเรียนที่มีส่วนผสมของชาวยุโรปผิวขาวและความคมคายจากแขกอาหรับ จึงทำให้ชาวสเปนมีผมสีน้ำตาลเข้ม หยักเป็นลอน พร้อมใบหน้าอันคมเข้มแต่มีนัยน์ตาที่หวานเยิ้ม ตลอดจนการเข้าสังคมเป็นเลิศ และภาษาที่ฟังลื่นหูดีเหลือเกิน แต่ก็มีการเต้นที่่ดูเร่าร้อนด้วยการเต้นยักย้ายส่ายสะโพกอย่างระบำฟลามิงโกมาช่วยเสริมให้คนสเปนดูเซ็กซี่ เร้าใจเข้าไปใหญ่
2. อาร์เจนตินา ชาวอาร์เจนตินาก็ได้รับส่วนผสมที่ลงตัวจากประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศสุดโรแมนติกอย่างสเปนและอิตาลีผสมผสานกัน นอกจากนี้อาร์เจนตินายังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า เป็นประเทศในแถมลาตินอเมริกันที่มีสไตล์ความเป็นยุโรปมากสุด การแสดงออกถึงความโรแมนติกที่เด่นชัดที่สุดของชาวอาร์เจนไตน์จะแสดงออกมาทางการเต้นแทงโก้ที่แสนจะยั่วยวนในอารมณ์
3. อิตาลี แท้จริงแล้ว คำว่า โรแมนติกเป็นคำที่ใช้กล่าวถึง กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีเลยทีเดียว และอาจจะเป็นเพราะสถานที่ต่าง ๆ ในอิตาลี ล้วนแล้วแต่ให้อารมณ์ชวนโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์ของความรัก จึงทำให้มองไปในมุมไหน ๆ คนอิตาเลียนก็แสดงความหวาน ความโรแมนติกต่อกันอยู่เสมอ
4. ฝรั่งเศส คุณคงได้ยินใช่หรือไม่ว่า ภาษาที่ใช้พูดกับคนรัก คือ ภาษาฝรั่งเศส ด้วยสำเนียงอันไพเราะตลอดจนสไตล์การพูดอันนิ่มนวลชนเคลิ้ม จึงทำให้ความโรแมนติกบังเกิดแค่เพียงในคำพูด ตลอดจนเมืองหลวงอย่างปารีส ที่มีมนต์สะกดให้คู่รักหลายคู่ ได้มาขอเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นก็คือ การขอแต่งงาน มาแล้วหลาย ๆ ต่อหลายคู่ ด้วยสภาพบรรยากาศที่เอื้ออำนวยขนาดนี้จึงไม่แปลกที่ชาวฝรั่งเศสจะขยันโชว์ความโรแมนติกกันเหลือเกิ๊น
5. บราซิล ชาวบราซิลขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ไม่เขินอายเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ เพราะพวกเขามองว่ามันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่ง มันเป็นการแสดงความรักอย่างลึกซึ้ง ที่บราซิลมีงานคานิวัลต่าง ๆ ที่คู่รักมากมายก็เลือกที่จะมาใช้ช่วงเวลาแห่งความโรแมนติกร่วมกัน ใช้ความรักในเสียงดนตรี และการเต้น สื่อสารกับคนรักจนก่อเป็นทำนองรักระหว่างคู่หนุ่มสาวโดยเฉพาะ
6. เลบานอน รูปลักษณ์ภายนอกของชาวเลบานอนแตกต่างกับประเทศในโลกอาหรับอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง พวกเขามีผิวสีมะกอก ผมและตาสีเข้มดูลึกลับ ภายใต้อาภรณ์ที่บรรจงปรุงแต่งสุด ๆ จึงทำให้พวกเขาดูลึกลับ มีเสน่ห์ พวกเขารู้จักวิธีการดึงดูดความสนใจซึงกันและกันผ่านลักษณะภายนอกที่สุดแสนจะนิ่งขรึม แต่เต็มไปด้วยความเซ็กซี่และเร่าร้อนอยู่ภายใน
7. สหรัฐอเมริกา สิ่งของหลายอย่างที่คู่รักเพื่อแทนใจเนื่องในโอกาสสำคัญต่าง ๆ นั้น ประเทศผู้เป็นผู้คิดค้นก็คือ ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ชาวอเมริกันมักจะมีของแทนใจเนื่องในโอกาสสำคัญ ๆ เสมอ ๆ เพราะพวกเขาถือว่ามันเป็นหนึ่งในการแสดงความรักที่น่าจดจำได้ดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว หรืออย่างการดูภาพยนตร์แบบ drive-in ก็เป็นการออกแบบมาให้คู่รักได้ใช้เวลาสุดแสนจะโรแมนติกร่วมกันในโรงภาพยนตร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชาวอเมริกัน อาจไม่ชอบอะไรที่ดูเป็นพิธีรีตองอย่างชาวยุโรปมากมาย เพียงแค่บรรเลงเพลงโรแมนติคเบา ๆ และเต้นรำกันสองคนภายในบ้าน แค่นี้กลิ่นอายแห่งความรักก็ตลบอบอวลอยู่ทั่วบ้านแล้ว
8. สวีเดน คุณรู้หรือไม่ว่า เสน่ห์ที่มัดใจสาว ๆ ทั้งหลายของชาวสวีเดน นอกจากจะเป็นผมสีบลอนด์และหน้าตาที่ดูสว่างสะอาดสะอ้านแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ได้มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า ผู้ชายชาวสวีเดนเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับบทบาทเรื่องเพศมาก พวกเขาให้เกียรติกับผู้หญิง และตระหนักเป็นอย่างดีว่า พวกเขาคือผู้ที่ต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลภรรยาและลูก ๆ ตลอดจนหาเลี้ยงครอบครัว เชื่อแน่ว่า สาว ๆ ทั้งหลายที่ได้ชาวสวีเดนไปเป็นคู่ชีวิตแล้วละก็ ต้องหมั่นเติมเต็มความโรแมนติกให้สมกับความรักที่หนุ่มสวีเดนพร้อมจะมอบให้คุณเลยทีเดียว
9. ไอร์แลนด์ รอยยิ้มและบทกวี คือ สิ่งที่มัดใจหนุ่มสาวชาวไอริชเข้าไว้ด้วยกัน พวกเขาอาจไม่ได้ตั้งใจโปรยเสน่ห์ให้กัน แต่เพียงแค่รอยยิ้มก็ทำให้อีกฝ่ายต้องมนต์แห่งความรักเข้าให้แล้ว จนกลายเป็นความโรแมนติกที่แสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว ไหนจะบทกลอนไพเราะที่คู่หนุ่มสาวบรรจงแต่งขึ้นเพื่อคู่รักของตนโดยเฉพาะ แค่นี้ก็โรแมนติกชวนฝันไปถึงไหนแล้ว
10. เวียดนาม เวียดนามเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่ติดโผเข้ามาด้วย ถ้าคุณเคยไปเวียดนาม สิ่งที่คุณต้องเห็นแน่ ๆ คือ รถสกู๊ตเตอร์ที่โลดแล่นอยู่บนถนน เขาบอกว่า ถ้าคุณมีคนรักเป็นคนเวียดนามและมีโอกาสได้ไปเวียดนาม ชายหนุ่มจะพาคุณนั่งซ้อนสกู๊ตเตอร์ของเขา พาชมเมืองดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติกเพียงเราสอง ด้วยสายลมที่พัดเอื่อย ๆ ปะทะหน้า ตลอดจนมือที่โอบรอบเอวเค้าไว้ ก็พาเคลิ้มได้เหมือนกันนะนี่
อย่างไรก็ตาม ทางซีเอ็นเอ็นโก ระบุว่า ผลสำรวจในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะยึดติดให้มากนัก แค่เป็นเพียงสีสันรับวาเลนไทน์ โดยใช้เกณฑ์โดยรวมที่ทำให้หนุ่มสาวผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าเป็นลักษณะที่ทำให้ใจละลายได้ เพราะแน่นอนว่า ความโรแมนติกนั้นวัดกันไม่ได้ ต่างคนก็ต่างมีมุมมองที่ต่างกันออกไปนะจ๊ะ เพียงแค่นั่งอยู่ด้วยกันเงียบ ๆ ก็อาจเป็นความโรแมนติกแบบหนึ่งที่คุณชอบก็ได้เนอะ
