หลายคนที่ได้ดูเดอะสตาร์ 8 (the star 8) ต้องแอบหลงรักหนุ่มมาดยียวน ที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก ๆ อย่าง แกงส้ม เดอะสตาร์ เป็นแน่ ซึ่งทุกวีค หนุ่มแกงส้มก็จะมีแฟน ๆ รวมถึงคนใกล้ชิด ... อ่ะ ๆ อย่าคิดว่าเป็นสาวที่ไหนหล่ะ เพราะคนใกล้ชิดที่ว่านั่นก็คือ คุณพ่อและคุณแม่ ที่จะมาให้กำลังใจลูกชายคนเก่งคนนี้ติดขอบเวทีเลยทีเดียว และหลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกคุ้นหน้าคุณพ่อของแกงส้ม หรือหลาย ๆ คนคงทราบแล้วว่า คุณพ่อของแกงส้ม ก็คือ คุณหนู สุรศักดิ์ ชัยอรรถ ศิลปิน นักแสดง และผู้กำกับละคร ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันทางทีวีนั่นเอง และในวันนี้เรามีประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณพ่อหนู พ่อคนเก่งของลูกชายผู้มีความสามารถทางดนตรีที่เปี่ยมล้นอย่างแกงส้ม เดอะสตาร์ มาฝากกัน
คุณสุรศักดิ์ ชัยอรรถ มีชื่อเล่นว่า หนู เกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2499 ปัจจุบันอายุ 56 ปี เกิดที่จังหวัดตราด มีพี่น้องสามคน คุณหนูเป็นลูกคนกลางในครอบครัวที่ทำมาหากินด้วยการขายอาหารสำเร็จ (กับข้าว) ในตอนเด็ก คุณหนูชอบวาดรูปและดูหนังตั้งแต่อายุ 6 ขวบ นอกจากวาดรูปแล้วยังชอบการแสดง พอเรียน จบ ม.ศ. 3 แล้ว ความฝันสูงสุดในตอนนั้นคือ จะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนเพาะช่าง และก็ทำได้สำเร็จ สอบเข้าไปเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเพาะช่าง แต่เมื่อเรียนได้ 1 ปี พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียน คุณหนูต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย โดยรับจ้างเขียนการ์ตูน ทำให้มีรายได้เดือนละ 700 บาท และไม่ต้องรบกวนเงินจากทางบ้านอีก
แต่ในระหว่างที่เรียน คุณหนูก็มีความฝันอยากจะเป็นนักแสดง จึงได้เขียนจดหมายถึง ครูเล็ก ภัทราวดี แต่ก็ไม่ได้ส่งจดหมายฉบับนั้น ความฝันยังคงเป็นความฝันอยู่ต่อไป จนกระทั่งแววแห่งการเป็นนักแสดงเริ่มเห็นแสงลิบ ๆ เมื่อภาพยนตร์ เรื่องคู่รัก ที่ไพโรจน์ สังวริบุตร เล่นเป็นพระเอกต้องการตัวประกอบชายเป็นจำนวนมาก คุณหนูก็เป็นหนึ่งในนั้น และในช่วงเวลาถ่ายทำ คุณหนูก็พยายามแทรกตัวไปยืนติดกับพระเอก โดยหวังว่าจะมีใครเห็นในจอบ้าง จากนั้นมาก็หวังว่า จะมีคนติดต่อให้ไปเป็นตัวประกอบอีก จนเวลาผ่านไป 2 ปี คุณหนูได้เรียนจบ ปวส. และได้สอบเรียนต่อปริญญาตรี ซึ่งในวันนั้นก็ยังไม่มีข่าวดีเรื่องไปเป็นตัวประกอบอีกเลย แต่คุณหนูก็ยังคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเป็นนักแสดงที่มีคนรู้จักให้ได้
เมื่อเรียนจบปริญญาตรี คุณหนูเริ่มทำงานที่นิตยสารแมน โดยทำหน้าที่ออกแบบจัดรูปเล่ม แต่สุดท้ายก็ต้องลาออก เพราะเกรงใจเจ้านาย ด้วยว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องทำต้องดูแลคุณแม่ ซึ่งเป็นโรคเบาหวานขั้นหนัก จนกระทั่งคุณแม่จากไป ซึ่งวันนั้น คุณหนูได้หันมามองตัวเองที่ยังไม่มีงานทำ คุณหนูจึงกลับไปทำงานในโรงพิมพ์ที่เคยเขียนการ์ตูนให้ และได้ทำ Art Work ของหนังสือเสน่ห์สาว หนังสือแนวผู้หญิง ความสวยความงาม ทำอยู่ได้สองปี เจ้าของโรงพิมพ์ให้ทำหนังสือแนววัยรุ่น จึงได้มีนิตยสารเกิดขึ้นใหม่ชื่อ "เรา" ที่คุณหนูทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบริหาร และมีทีมงานที่น่ารักที่คุณหนูบอกว่า มีความสุขมากกับประสบการณ์การทำนิตยสาร
จนในที่สุด มรสุมหลายอย่างก็ได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิตคุณหนู เมื่อสุดท้ายนิตยสารเรา ต้องปิดตัวลง เพื่อนร่วมงานไปคนละทิศละทาง อีกทั้งปัญหาส่วนตัวที่ถาโถมเข้ามา เมื่อแฟนที่คิดว่าจะร่วมชีวิตไปด้วยกันก็หนีไปแต่งงาน บ้านที่ตราดก็ไฟไหม้ คุณหนูยอมรับว่า ช็อกอยู่หนึ่งเดือนเต็ม กินเหล้าทุกวัน ไม่คิดทำงานอะไรเลย แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อคุณหนูเอาจดหมายที่แฟนหนังสือฉบับหนึ่งมามอบให้ และยังไม่เคยเปิดอ่านมาดู ปรากฎว่า เป็นข่าวของบริษัทบุญภัทร โรงเรียนสอนการแสดงของครูเล็ก ภัทราวดี ที่รับสมัครนักเรียนการแสดงรุ่นที่ 2 ก็ไปสมัคร ทำการทดสอบ และได้เป็นหนึ่งใน 40 คน ที่ได้เข้าเรียนในที่สุด
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่ความฝันอยากจะเป็นนักแสดงของคุณหนูเริ่มส่อแวว เมื่อเริ่มเรียนไปได้ประมาณ 1 เดือน คุณหนูก็ได้คบหากับผู้หญิงอยู่คนหนึ่งได้ 2 ปี จึงแต่งงานกันในที่สุด และก็มีลูกสาวที่น่ารักออกมาชื่อ ข้าวสวย ต่อมาก็มีลูกชายชื่อ แกงส้ม และขนมจีน ตามมา เป็นครอบครัวกับข้าวแสนอร่อยจนถึงทุกวันนี้
ปัจจุบัน หลังจากคุณหนูทำงานเก็บเงินเกือบ 10 ปี ก็ได้มาเปิดบริษัทออกแบบสิ่งพิมพ์และโรงพิมพ์ พร้อมกับการทำงานอาชีพเสริม ซึ่งเป็นงานที่เขารักนั่นก็คือ การแสดงละคร ภาพยนตร์ โฆษณาทีวี และมีงานสอนการแสดง พร้อมกับ Work Shop พัฒนาศักยภาพด้านการคิด การพูด และการแสดง ให้กับโรงเรียน และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ สอนออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ตลอดจนขายสินค้า Home Made หิมพานต์ตัวพ่อ ขายตามสั่ง ไม่มีวางขายตามห้างร้าน หรือขายตามกองถ่ายต่าง ๆ ซึ่งคุณหนูบอกว่า ดาราชอบกินกันเพียบ
สำหรับผลงานแสดงโฆษณาทีวีของคุณหนูที่พอมีคนจำได้ ก็เช่น ยาสีฟันและแปรงสีฟันเปปโซเด้นท์, ห้างโรบินสัน, ยางมิชลิน, สคบ. .คุ้มครองผู้บริโภค, ไก่จ๊อห้าดาว, โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ของเซเว่นฯ
ส่วนงานภาพยนตร์ คือ เรื่องเชอร์รี่ แอน, ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม, ต้มยำกุ้ง ขณะที่ผลงานละครทีวีที่คุณหนูเคยแสดง เช่น หัวใจไกลปืนเที่ยง, นายกระเพราไก่ไข่ดาว, กาเหว่าที่บางเพลง, นิทานทะลุมิติ, เซนสื่อรักสื่อวิญญาณ, สงครามนางฟ้า, เหยี่ยวสาวมือใหม่, แคนลำโขง, เจ้าสาวสายฟ้าแล่บ, โม่งแดง, สุสานคนเป็น, เล่ห์ร้ายอุบายรัก, โซ่เสน่หา, อุบัติรักข้ามขอบฟ้า, นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว, มนต์รักแม่น้ำมูล
ทั้งนี้ คุณหนูบอกว่า เท่าที่ตนทำงานในวงการบันเทิงมา การแสดงที่ประทับใจมากเป็นพิเศษ คือ เรื่องหนึ่งใจเดียวกัน ที่ได้มีโอกาสร่วมแสดงกับทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ อีกทั้งสถานที่ก็สวยมาก อากาศดีที่ดอยอินทนนท์ อีกเรื่องที่ประทับใจคือนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว เพราะเป็นซีนอารมณ์ล้วน ๆ ท้าทาย และได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ส่วนภาพยนตร์โฆษณา ก็คือโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ เป็นอะไรที่ดราม่ามาก ทำเอาคนเล่นและคนดูน้ำตาร่วงตามเลยทีเดียว
