เตือนภัย! หญิงสาวเดินคนเดียว ระวังถูกยิงน้ำกรด









ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ 7thmonth_girl และคุณ หมูกรอบพริกเผา

          ภัยร้ายในปัจจุบันมีพัฒนาการหลายรูปแบบมากขึ้น จนเดี๋ยวนี้จะไปไหนมาไหนสาว ๆ ก็ต้องระวังตัวกันอย่างมาก แต่ก็ไม่วายยังมีรูปแบบใหม่โผล่มาให้เห็นอยู่ดี คุณ 7thmonth_girl และคุณ หมูกรอบพริกเผา จากเว็บไซต์พันทิปดอทคอม คือผู้ที่จะมาเปิดเผยถึงเรื่องราวการถูกยิงน้ำกรดใส่ร่างกายและใบหน้าอย่างไม่มีสาเหตุ ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดเอาไว้ให้เจ็บแค้นใจ ที่วันนี้เธอต้องเสียโฉมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะไม่มากมายนัก แต่เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปดูกันเลยจ้า ..

           เอาล่ะ วันนี้อยากจะเล่าเรื่องไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจหญิงโสด เตือนภัยคน กทม. นะคะ ของอย่างนี้ อยู่ดี ๆ ก็ซวย

           เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม ตอนประมาณ 22.00 น. เราเดินข้ามถนนจากเซ็นทรัลเวิลด์ มาฝั่งบิ๊กซี เพื่อจะเดินไปรถไฟฟ้า ปกติจะไม่เดินฝั่งนี้ จะเดินฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์ แต่ตอนนั้นห้างปิดแล้ว ค่อนข้างมืด เลยคิดว่ามาเดินฝั่งบิ๊กซี คนเยอะกว่า เดินมาคนเดียว (แยกกับเพื่อน ๆ ) ผ่านโรงแรมอโนมา ใกล้ถึงลานกว้าง ๆ (นารายณ์ภัณฑ์เก่า) ก็รู้สึกว่าโดนฉีดน้ำ (จากไหนก็ไม่รู้) ที่น่องขวา

           ตอนนั้นคิดว่าโดนแกล้ง เลยไม่หันกลับไปดู ก็รีบ ๆ เดินต่อ ปรากฏว่าเริ่มรู้สึกแสบร้อน เหมือนเวลาโดนกรดแต้มสิว ก็รีบเดินเร็วขึ้นระหว่างนั้นก็ดูที่น่อง ก็เห็นว่าเป็นรอยถลอก เราเลยแวะซื้อน้ำเปล่าที่รถขายผลไม้ข้างทาง เพื่อเอาน้ำมาล้าง คนขายผลไม้ก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็บอกว่าไม่รู้โดนใครฉีดอะไรมา ล้างน้ำจนไม่แสบแล้วก็เดินต่อ ตัดสินใจว่าจะไปโรงพยาบาลตำรวจให้หมอตรวจ แล้วก็โทรบอกเพื่อนให้ไปเจอกันที่โรงพยาบาล

           พอเดินไปจนถึงข้าง ๆ เกษร ใกล้ถึงหัวมุมแยกราชประสงค์ คราวนี้ก็โดนฉีดอีก คราวนี้ที่เจาะจงที่ใบหน้า!!! สัญชาตญาณทำให้เราก้มหน้า หลับตา และโชคดีที่ใส่แว่น ตอนนั้นไม่เห็นอะไร จำได้ว่ายกกระเป๋าขึ้นมาปิดหน้าด้วย จำได้ราง ๆ ว่าน่าจะเป็นรถตุ๊ก ๆ เลี้ยวผ่าน ถ้าสังหรณ์ใจเป็นจริง คนฉีดก็น่าจะอยู่บนรถตุ๊ก ๆ นั่นแหละ

           เราก็สะบัดหน้า เอาน้ำที่เหลือในขวดที่ซื้อมา ล้างหน้า พอดีกับไฟแดงตรงแยกราชประสงค์ เราเลยวิ่งข้ามถนนเข้าไปในศาลพระพรหมเอราวัณ วิ่งไปขอล้างหน้าจากเจ้าหน้าที่ที่ขายของบูชา บอกเขาว่าหนูโดนใครฉีดน้ำกรดใส่ไม่รู้ ขอล้างหน้าหน่อยค่ะ พี่ที่ศาลก็ดีมาก เปิดสายยางให้เราล้างหน้า ล้างขา

           ล้างอยู่ประมาณ 10 นาที จนไม่ค่อยแสบ เราไม่กล้าเดินออกจากศาลพระพรหม กลัว เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใครเผอิญไฟแดงมีแท็กซี่ว่างเราก็เลยเปิดประตูวิ่งขึ้นไปบอกว่า ลุงคะพาไปโรงพยาบาลตำรวจหน่อย หนูโดนฉีดน้ำกรด ลุงก็ดีมาก ขับพาไปจอดที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่เอาเงินด้วย

           เราก็หยิบบัตรประจำตัวผู้ป่วยส่งให้เคาน์เตอร์ บอกพยาบาลว่าเราโดนฉีดกรด ยังแสบอยู่ พยาบาลก็ดีมาก รีบวัดความดันและส่งเราเข้าห้องฉุกเฉิน หมอกับพยาบาลก็มาดู แต่ตอนนั้นยังไม่เห็นรอยแผลอะไร มีแต่รอยแดง ๆ แต่สักพักมัน ไหม้เร็วมาก เริ่มเป็นสีน้ำตาล เหมือนเวลาโดนแต้มสิว แต่ผื่นมันกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร หมอมาตรวจแล้วก็บอกว่าน่าจะเป็นกรด แต่ไม่รู้ว่าเป็นกรดชนิดไหน น่าจะเจือจางแล้ว เพราะผิวหนังไหม้ ไม่ได้หลุดลอก ไม่ได้อักเสบ

           หมอให้พยาบาลล้างแผล พยาบาลใช้น้ำเกลือล้างแผลให้ และปลอบเราว่าไม่เป็นไร ให้ใจเย็น ๆ ตอนนั้นเพื่อนเราก็มาถึงแล้ว พยาบาลก็ล้างแผลอยู่นาน หมอก็ถามเราว่ามันเข้าตาหรือเปล่า โชคดีที่สุดในชีวิต มันไม่เข้าตา เพราะเราใส่แว่น หมอก็รอดูอาการเกือบ ๆ 30 นาที ก็ให้เรากลับบ้าน สั่งยาทาซินอลให้กลับมาทาบาง ๆ และนัดให้เรามาพบหมอผิวหนังอีกครั้งในวันจันทร์

           สำรวจดูมีแผลทั้งหมด 5 จุด ตรงหัวคิ้วซ้าย (เยอะสุด) ตรงจอนหูซ้าย คาง น่องขวา และเป็นจุด ๆ ที่คอ แต่แผลไม่กว้างมาก ตอนนั้นกลัวว่าแผลจะลุกลามไหม พรุ่งนี้ตื่นมาตาจะมองเห็นไหม พ่อแม่จะว่ายังไง คืนนั้นเพื่อนก็ขับรถไปส่งที่บ้าน ก็เล่าให้แม่กับน้องชายฟัง คืนนั้นนอนหลับไม่สนิท กลัวไปหมด โดยเฉพาะกลัวแผล

           วันรุ่งขึ้นน้องชายกับแม่ก็พาไปแจ้งความที่ สน.ลุมพินี เราเป็นกรณีแรกที่มาแจ้งความ ผกก.บอกว่ายังไม่เคยมีคดีในพื้นที่นี้ สันนิษฐานว่าน่าจะตั้งใจทำร้ายร่างกาย เพราะลงมือ 2 ครั้งแต่เราก็ไม่มีศัตรูที่ไหน ก็เลยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

           อยากจะเตือนทุก ๆ คน ไม่ใช่ว่าสถานที่พลุกพล่านแล้วจะไม่อันตราย ทุกที่อันตรายหมด ขนาดกลางเมืองหลวงยังเกิดเหตุการณ์นี้กับเราผู้หญิงพกน้ำเปล่าติดตัวไว้ก็เป็นเรื่องดี เกิดไรขึ้นจะได้มีน้ำล้างทัน ของแบบนี้ผิดตัวหรือเปล่าเราไม่รู้ ส่วนแผล ถ้าใครเจอแบบเรา ให้รีบล้างแผลแบบเร่งด่วน ล้างน้ำเยอะ ๆ แล้วไปหาหมอเร็วที่สุด เมื่อล้างแผลแล้ว อย่าออกแดด ระวังติดเชื้อ และคอยสังเกตแผลตลอด ห้ามใช้มือแคะแกะเกาถูลูบคลำ สังเกตสีของแผลและจดบันทึกไว้ปรึกษาแพทย์ ส่วนคุณผู้หญิงคะ ถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบเรา ให้มีสติ อย่าเพิ่งร้องไห้ อย่าเพิ่งโวยวาย คิดหาทางไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

           เป็นโชคดีของ คุณ 7thmonth_girl ที่ใส่แว่นสายตา ทำให้น้ำกรดไม่กระเด็นเข้าตา รวมทั้งร่องรอยจากน้ำกรดที่ยิงใส่ใบหน้าของเธอนั้นก็สร้างบาดแผลไม่มากนัก แต่ถ้าหากเป็นสาว ๆ คนอื่นที่ไม่ทันระวังตัวและมัวแต่ตกใจกับความปวดแสบปวดร้อน อาจจะทำให้คุณต้องเสียโฉม และเสียทรัพย์ไปในคราวเดียวกันได้ กระปุกดอทคอมจึงอยากฝากเตือนให้ทุกคนระวังตัวกันด้วย เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนเหล่านั้นต้องการอะไรกันแน่

กรณีที่ 2 เตือนภัย! หญิงสาวถูกยิงน้ำกรดใส่ แถวสี่แยกสะพานควาย



สถานที่เกิดเหตุ

           นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ของหญิงสาวผู้โชคร้ายอีกหนึ่งคน ที่มาบอกเล่าเรื่องราวผ่านล็อกอินของคุณ หมูกรอบพริกเผา จากเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ว่าถูกทำร้ายด้วยน้ำกรดเช่นเดียวกัน ต่างกันแค่สถานที่เท่านั้น โดยเธอถูกน้ำกรดเข้าที่ต้นคอและแขนซ้าย เธอจึงอยากขอเล่าประสบการณ์ดังกล่าวเพื่อเตือนภัยให้ทุกคนระวังตัว ซึ่งเรื่องราวเป็นดังนี้ ..

           เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 บริเวณสี่แยกสะพานควาย ฝั่งเดียวกับบิ๊กซี ขณะที่เดินลงสะพานลอยมาถึงพื้นด้านล่าง ก็รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาโดนที่คอและต้นแขนด้านซ้าย ฝั่งเดียวกับถนน ก็รู้สึกแสบร้อนมากที่บริเวณคอและต้นแขน จึงรีบหาน้ำล้าง

           ก็โชคดีที่แถวนั้นมีแผงขายของเป็นร้านข้าวเหนียวมะม่วง ก็เลยไปขอน้ำจากป้าที่ขายข้าวเหนียวมะม่วง  ตอนแรกป้าก็งง ว่ามาขอน้ำทำไม ก็เลยบอกป้าไปว่าโดนน้ำอะไรไม่รู้กระเด็นใส่ตรงคอ ปวดแสบปวดร้อนมาก ๆ เลย ป้าบอกมีถังน้ำสีเหลืองวางอยู่บนรถเข็นหน้าร้าน คิดว่าน่าจะเป็นน้ำฝน เพราะก่อนหน้านี้มีฝนตก และเพิ่งหยุดได้ซักพัก

           ระหว่างที่กำลังล้างที่คอและแขนอยู่ ป้าก็ตะโกนว่า หนูระวังกระเป๋าเปียก  แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของป้าเลย เอามือควักน้ำล้างอย่างเดียวเพราะแสบร้อนมาก พอล้างน้ำหมดไปครึ่งถังเริ่มรู้สึกดีขึ้นหน่อย ก็ไปให้ป้าช่วยดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ป้าบอกว่า แดงมากเลยทั้งคอและแขน น่าจะแพ้อะไรสักอย่าง ให้รีบไปซื้อสบู่อ่อน ๆ มาล้างอีกรอบแต่เราคิดว่าควรรีบไปโรงพยาบาลจะดีกว่า ระหว่างทางแวะที่ห้องน้ำที่บิ๊กซีก่อนเพื่อล้างน้ำและทำความสะอาดด้วยสบู่อีกรอบ และดูรอยที่คอ เมื่อดูรอยที่คอและแขน มันแดงมาก และยังปวดแสบปวดร้อนอยู่ตลอดเวลา




           หลังจากนั้นก็รีบไปที่โรงพยาบาลพอไปถึง เจ้าหน้าที่ก็เอารถมาเข็น พาเข้าแผนกฉุกเฉินทันที  พยาบาลก็ซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดเหตุตอนกี่โมง เป็นคดีหรือมีเรื่องกับใครหรือเปล่า เรางงจริง ๆ แต่ก็ตอบไปว่าไม่มี ไม่เคยมีคดีความหรือทะเลาะกับใคร  หลังจากนั้นพยาบาลก็วัดความดัน และให้รอคุณหมอมาดูอาการ ระยะเวลาที่รอไม่นาน แต่เหมือนว่ารอนานมาก เพราะความปวดแสบปวดร้อนยิ่งทวีคูณมากขึ้น

           พอคุณหมอมาถึงดูบาดแผลวินิจฉัยว่า Chemical burn  ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าถูกทำลาย  แล้วก็สั่งให้พยาบาลล้างแผล ทายา และก็พันแผลให้มิดชิดเนื่องจากไม่ต้องการให้แผลถูกแสง  แล้วบอกให้กลับมาดูอาการภายใน 24 ชั่วโมง  ว่าผิวหนังถูกทำลายเพิ่มขึ้นหรือไม่

           เมื่อครบ 24 ชั่วโมง ไปพบคุณหมอเพื่อล้างแผลและดูอาการ ปรากฎว่าแผลมีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม อาการปวดแสบไม่มีแล้ว แต่ถ้าเอามือไปโดนก็จะเจ็บ ช่วงนี้คุณหมอให้ระวังแผลติดเชื้อ ถึงแม้จะโชคร้ายแต่ก็ยังถือว่ามีโชคดีอยู่ เพราะถ้าเดินช้ากว่านี้ น้ำกรดก็คงโดนหน้าไปแล้ว

           วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พบแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ได้ฟังข่าวดีคือ อาการที่แขนด้านซ้ายดีขึ้นมาก ไม่ต้องพันแผลแล้ว คุณหมอยังให้ระวังการติดเชื้อที่คอ และยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นแผลเป็นหรือไม่ กรณีเลวร้ายสุด ๆ อาจเป็นคีลอยด์ เกิดพังผืด และแผลเป็นดึงรั้ง ซึ่งต้องทำการแก้ไข (ศัลยกรรม) ต่อไป



           ก็ขอขอบคุณป้าที่ขายข้าวเหนียวมะม่วงสี่แยกสะพานควายมาก ๆ เลย ที่ให้ถังน้ำฝนมาล้าง และตะโกนบอกว่า  ระวังกระเป๋าเปียกอยู่หลายรอบ บอกตามตรงตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ามีเคสยิงน้ำกรดแบบนี้ นึกว่าแค่โชคร้าย โดนน้ำจากหลังคา, น้ำยาแอร์, น้ำกรดจากหม้อแปลง (คิดทบทวนหาสาเหตุต่าง ๆ นานา)  แต่พอลองเข้ามาหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดู ถึงรู้ว่าโดนกันหลาย ๆ รายแล้ว

           เราโชคดีมากที่ไม่โดนที่ใบหน้า ดวงตา แต่เราโดนแล้วก็ไม่อยากให้ใครต้องโดนเหมือนเรา มันทรมานมาก จึงมาเขียนเล่ารายละเอียด ว่าที่ไปที่มาเป็นอย่างไรจะได้เป็นข้อมูลให้เพื่อน ๆ ระวังตัว ระวังภัย จากสังคมกรุงเทพฯ ขณะนี้ ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติค่ะ

           เคราะห์ดีที่พิษของน้ำกรดนั้นไม่โดนใบหน้าของเธอให้เสียโฉม มีเพียงแต่บาดแผลที่ต้นคอและแขนซ้ายเท่านั้นที่รุนแรงพอสมควร เหตุการณ์ทั้งสองเรื่องราวนี้คือประสบการณ์ภัยร้ายรอบตัว โดยมีหญิงสาวที่เดินทางคนเดียวในยามค่ำคืนเป็นเป้าหมาย จึงขอให้สาว ๆ ระวังตัวกันให้มาก ๆ และหลีกเลี่ยงการเดินทางคนเดียวได้ก็จะดีนะคะ





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนภัย! หญิงสาวเดินคนเดียว ระวังถูกยิงน้ำกรด อัปเดตล่าสุด 11 มิถุนายน 2555 เวลา 14:22:45 2,100 อ่าน
TOP
x close