เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการ เช้าดูวู้ดดี้
เมื่อหลายปีก่อน หลายคนคงจะจำได้ กับดาราใจบุญอย่าง คริส เบญจกุล ที่ยอมเอาชีวิตของตัวเองเข้าเสี่ยง ช่วยเหลือคนอื่นจากอุบัติเหตุ จนตัวเองโดนอุบัติเหตุเสียเอง และเกือบเป็นเจ้าชายนิทรา แต่คริสก็ไม่เคยท้อ ต่อสู้กับอาการบาดเจ็บและอุปสรรคต่าง ๆ จนกลับมาได้เหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่วาย เมื่อมีเคราะห์ซ้ำมาอีกระลอก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ คริส ถูกขโมยขึ้นบ้าน สูญทรัพย์สินไปกว่า 5 แสนบาท แต่เจ้าตัวก็ประกาศชัดว่า ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรในชีวิต ก็ไม่คิดที่จะท้อถอย
ทั้งนี้ คริส ได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ เช้าดูวู้ดดี้ พร้อมกับภรรยาและลูกว่า สถานที่ที่โดนงัดแงะนั้น คือห้องพักที่พักอยู่ ไม่ใช่บ้าน และพอจะมีเงินเหลือติดตัวอยู่บ้าง แต่ทรัพย์สินในห้องหายเกลี้ยง เหตุเกิดคือ เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ตอนที่กลับมาที่ห้องแล้วพบว่ากุญแจที่คล้องประตูมีรอยเลื่อย แต่ตัดไม่ขาด ตนเองจึงเปิดห้องเข้าไป พบว่า ของในห้องกระจัดกระจายเต็มไปหมด ประตูระเบียงก็เปิดอยู่
ส่วนทรัพย์สินที่หายไปนั้น มีโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง นาฬิกา 5 เรือน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ที่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ทั้งหมดราคาประมาณแสนขึ้น แค่โน้ตบุ๊กก็ 48,000 บาทแล้ว ตอนนี้ตำรวจก็เก็บหลักฐาน รอยนิ้วมือไปหมดแล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการตรวจสอบรอยนิ้วมือ ซึ่งตำรวจยืนยันว่า ไม่ได้ลงมือคนเดียวแน่นอน น่าจะมากกว่า 2 คน
คริส เบญจกุล กล่าวว่า คนร้ายเข้ามามีเวลามาก เพราะตนเองและภรรยาทำงาน ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน คนร้ายมีเวลาแม้กระทั่งลองดูว่า โทรศัพท์เครื่องไหนเปิดติดหรือไม่ติด ถ้ารู้ว่าเปิดไม่ติดก็โยนทิ้ง ก่อนหน้านี้ ห้องคนอื่นก็เคยโดนงัด แต่ก็ไม่ได้บอกต่อ อย่างเช่นมีห้องหนึ่ง ที่โดนยกตู้เย็นไป แล้วย้ายไปยังห้องข้าง ๆ ที่ว่าง จัดการเอาคอมเพรสเซอร์ไปขาย
และก่อนหน้านี้ ก็เคยมีเหตุการณ์เคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้น คือ ตอนประมาณปี 2551 คริสเองประสบอุบัติเหตุ รถที่ซื้อมาด้วยเงินสดพังยับ ทำให้ต้องนำเงินที่เหลือไปซื้อรถมือสอง และรถมือสองก็ไม่ค่อยดี ต้องซ่อมอยู่ตลอดเวลา
ส่วนกับเจฟฟรีย์ เบญจกุล น้องชายแท้ ๆ นั้น ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ในเรื่องนี้ เนื่องจากเลิกพูดคุยติดต่อกันมานานแล้ว เพราะต่างคนต่างไปมีครอบครัวของกันและกัน ตอนนี้ตนเองมีงานเป็นเพียงพิธีกรรายการเคเบิ้ลทีวี และมีงานจ้างเล็ก ๆ เช่น แจกรางวัล รวมไปถึงทำมาร์เก็ตติ้งให้กับโรงเรียนนานาชาตินันทวรรณ
สุดท้าย คริสและภรรยา ทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่หวังคือ ไม่ต้องการของกลับคืนมา แต่คิดว่าขอให้จับตัวคนร้ายให้ได้ เพื่อที่เขาจะไม่ไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก