2. หากในระหว่างที่กำลังคุย ๆ กันอยู่ชอบกลอกตาไปมาบ่อย ๆ หรือเพ่งมองที่ใดที่หนึ่งจนผิดปกติ อาการแบบนั้นแสดงให้เห็นว่าเขากำลังคิดหาทางหนีทีไล่ เพื่อสรรหาคำพูดมาโกหกหรือสร้างเรื่อง หรือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอยู่นั่นเอง และในขณะเดียวกันอาจหมายความว่าเขารู้สึกอึดอัด ไม่ปลอดภัย และอยากจะออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้โดยเร็วที่สุด
3. ถ้าตาดำของเขากว้างหรือมีขยายใหญ่ขึ้นเนี่ย สาว ๆ รู้เอาไว้เลยว่าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขารักคุณเข้าแล้ว หรือใครที่กำลังสงสัยว่าคนข้าง ๆ แอบมีใจให้อยู่หรือเปล่า ไม่ต้องรอให้เอ่ยปากถามคำตอบก็ออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
4. อีกหนึ่งอาการที่คนเรามักจะทำบ่อย ๆ แต่ไม่ค่อยรู้ตัวกันสักเท่าไร นั่นคือจะหรี่ตาลงหรือเลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้าง เมื่อรู้สึกไม่มั่นใจ กำลังสงสัยเรื่องอะไรอยู่สักอย่าง หากเขาทำตาแบบนี้ย้ำคำพูดและอธิบายอีกรอบ และเคลียร์กันให้ชัดเจนกันไปเลย จะได้ไม่มีเรื่องบาดหมางกัน
5. ส่วนเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อน ๆ หรือคนแปลกหน้า สามารถสังเกตความใกล้ชิดสนิทสนมได้จากระดับสายตา เพราะเขาจะมองที่ปากหรือระดับต่ำกว่านั้น หมายความว่าทั้งสองคนรู้จักคุ้นเคยกันมาอย่างดี สามารถพูดคุยได้อย่างสบายใจ และจะสบตาเมื่อฝ่ายตรงข้ามเป็นคนแปลกหน้าหรือเพิ่งรู้จักกันมากกว่า
7. หากเขากำลังโกรธและไม่พอใจการกระทำหรือคำพูดของใครบางคน เขาก็จะไม่ยอมสบตากับคนคนนั้นเลย หากมีความจำเป็นจะต้องพูดคุยกันจะมองไปที่มือหรือจุดอื่น ๆ แทน อย่างเช่นด้านหลังหรือด้านข้าง เพื่อหลบเลี่ยงความโกรธที่กำลังเก็บเอาไว้ หากมองตาเมื่อไหร่อาจมีเรื่องได้ทันที
8. สำหรับคนที่เข้าถึงได้ยาก เช่น ผู้ที่มีตำแหน่งสูง เขาต้องจะแสดงอำนาจและความเหนือกว่า ด้วยการมองไปด้านข้าง หรือมักจะเมินการสบตากับคนที่อยู่ตรงหน้าไปเลย
9. ในเวลาที่เขารู้สึกหึงหวงจะไม่ค่อยชอบพูดออกมาสักเท่าไร แต่หนุ่ม ๆ จะใช้วิธีจ้องมองเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของแทน ฉะนั้นคราวนี้สาว ๆ คงรู้คำตอบกันแล้วนะว่าแฟนของตัวเองมีความรู้สึกกันบ้างหรือเปล่า
10. หากเขาต้องการจะพูดคุยกับสาว ๆ เขาจะเป็นฝ่ายเริ่มมองมาก่อน เพื่อเปิดสัญญาณให้รู้ว่าอยากทำความรู้จัก หากอยากจะเปิดโอกาสให้กับตัวเอง หันกลับไปสบตาเขาหน่อยก็ดี จะได้กล้าเดินเข้ามาคุยด้วย
อาการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอาจจะใช้ได้กับบางคนบางกรณี ทั้งนี้ควรจะพิจารณาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นประกอบกันไปด้วย เพื่อความแน่ใจว่าเป็นไปตามที่คิดไว้หรือเปล่า เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดได้ เนื่องจากความคิดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หรืออาจมีสาเหตุบางอย่างที่บังคับให้เขาต้องทำก็เป็นไปได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
hookingupsmart.com