


ฉัตรชัย ผู้ชายหลายบทบาท (ทีวีอินไซด์)
ในบรรดาพระเอกรุ่นใหญ่ที่ยังยืนหยัดในวงการ "ฉัตรชัย เปล่งพานิช" ที่แจ้งเกิดในวงการบันเทิงจากภาพยนตร์เรื่อง "ระย้า" เป็นรายชื่ออันดับต้น ๆ ที่นอกจากจะยังมีผลงานแสดงต่อเนื่องทั้งงานละคร น้ำผึ้งขม ที่รับบทพระเอกหนุ่มใหญ่ประกบนางเอกสาวเจนนี่เทียนโพธิ์สุวรรณ ออนแอร์ทางช่อง 3 และหนังใหญ่ "เฉือน" ประกบคู่กับพระเอกรุ่นน้อง เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ
รวมถึงบทบาทการเป็นผู้จัดละครทางช่อง 3 ที่จ่อคิวออกอากาศอีกหลายเรื่อง มาวันนี้ ฉัตรชัย ขอมาเปิดใจเรื่องงานล้วน ๆ โดยบอกว่า หามถามเรื่องหัวใจ หรือความรัก จะไม่ขอตอบเชิงลึกเด็ดขาด
นก : เรื่องล่าสุดก็นานแล้วนะครับ ไม่ได้เล่นมาแล้ว 2 ปี สำหรับเรื่อง "เฉือน" นี้ รับบทเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบชื่อ "หมวดชิน" ไปเอาคนคุกออกมา ในเรื่องคือเป้ซึ่งเคยเป็นตำรวจนี่แหละ แล้วก็โดนหมวดชินหาเรื่องให้เข้าไป
อยู่ในคุก แล้วก็ดึงตัวกลับมา
นก : จริง ๆ แล้วเป็นคนชอบเล่นหนังอยู่แล้ว และผู้กำกับเรื่องนี้ คือ ก้องเกียรติ โขมศิริ ก็เคยทำไชยา ก็ชอบ เก่งครับ เค้ามีมุมมองของเค้าเอง และเป็นหนังที่ไม่ใช่ตลก หนังผี ก็ดูแล้วน่าทำงานด้วย เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนภปร.ราชวิทยาลัยด้วย
นก : เค้ามีอินเนอร์มาจากบ้านแล้วนะครับ เล่นรับส่งกันมากกว่า ผมว่าเป้ทำได้ดีนะครับ
นก : มันเป็นเรื่องความซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เค้าซ่อนไว้หมดแหละครับ เค้าไม่บอกว่าใครเป็นใคร ไม่บอกว่าจริงๆแล้วหมวดชินเป็นฆาตกรหรือเปล่า มันจะเป็นเหมือนแบบให้คนต้องติดตาม แล้วสุดท้ายเค้าจะรู้ว่านี่คืออะไร ดูแล้วจะให้เห็นธาตุแท้ความเป็นมนุษย์ ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง ผู้กำกับเค้ามีความพยายามอยู่แล้ว คนที่ดูไชยามาจริง ๆ เค้าจะรู้ว่างานไม่ได้ธรรมดา เค้ามีมุมมองการกำกับจริง เรื่องนี้เป็นหนังอีกแนวที่ไม่มีในตลาดอย่างที่บอกครับ ผมว่าถ้าเข้าไปดูแล้ว คุณได้ความเป็นจริงของชีวิตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ที่เรามองเลยๆผ่านไป ได้อะไร
หลาย ๆ อย่าง
นก : เป้เค้าอยู่ในกระแส มาดเซอร์ แต่เค้ามาเล่นเค้าก็ทำได้ดี ละครที่เค้าเล่นก็ดูแว่บๆ ก็ได้อยู่ นี่เค้าก็เปลี่ยนคาแร็คเตอร์มาเลย เข้มขึ้น นิ่งขึ้น ก็ออกมาดูโอเคนะ ดูแล้วก็อินไปกับละครตัวนี้ ไม่ได้มาแบบลอยๆ เค้าตั้งใจเวลาทำงาน
นก : น่าจะเป็นฉากใกล้จะจบครับ เป็นฉากที่จะเข้าไคลแมกซ์ของเรื่อง
นก : ไม่มีใครติดต่อมาครับ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแอ็คชั่น แล้วก็ดราม่า คอมมาดี้คนคงมองภาพไม่มองว่าเป็นคอมมาดี้ได้ยังไง เลยไม่มีใครติดต่อมา (หัวเราะ) ส่วนหนึ่งอาจจะโดยอายุอานามด้วย มันไม่ใช่คอมมาดี้แล้ว นอกจากผู้สร้างตั้งใจสร้างจริงๆ จริงๆแล้วอยากเล่นนะครับ เพราะไม่เคยเล่น อยากรู้เหมือนว่าเล่นได้หรือเปล่า
นก : ก็อยากกำกับหนังเหมือนกัน เคยกำกับแต่ละคร แต่มันก็ไม่ได้ครับ เพราะกำกับหนังเรื่องหนึ่งก็ต้องทิ้งทุกอย่างไป แล้วไม่ใช่แค่ตอนถ่ายทำอย่างเดียว ต้องตั้งแต่เตรียมงาน ดูแล มันไม่ง่ายครับ
นก : ละครจะเป็นแบบยาวมากกว่า มันยากคนละอย่างครับ ยากทั้งคู่ แต่เราก็ทำเต็มที่กับงานอยู่แล้ว แต่ถ้ามาทำหนังก็คงต้องละเอียดมากกว่านั้น หนังมันเป็นการเล่าเรื่องสองชั่วโมงให้จบ และการดำเนินเรื่อง
นก : ตอนนี้กำลังถ่ายเรื่องเหนือเมฆอยู่ เป็นละครบู๊ แต่ก็มีดราม่า มีรัก เอาความเป็นละครให้มันครบรสนิดนึงครับ
นก : เรื่องนี้เรื่องที่สามครับ เรื่องแรกมาเฟียที่รัก แล้วก็ดิน น้ำ ลม ไฟ
นก : มันก็ไม่เหมือนกันเลย แต่เพียงเรามีพื้นฐานการแสดงที่ดีมาก่อน ซึ่ง 20 กว่าปีแล้ว คุ้นเคยแล้ว ส่วนผู้กำกับก็ยังไม่มีความชำนาญมากกว่า ก็ค่อยๆเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป อยู่บนความพอดี ฉากไหนที่เราควรจะลงทุน ฉากไหนควรลงทุน เรื่องของการคัดเลือกนักแสดง ทีมงาน การเลือกเรื่อง นี่คือหน้าที่ผู้จัด ถ้าช่องโอเค คือผ่าน
นก : ผมคงทำที่ช่อง 3 เพราะว่าอยู่กับช่อง 3 มานานมากแล้วครับ น่าจะ 20 กว่าปีแล้ว
นก : ตอนนั้นเคยแสดงช่อง 7 ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญา ตอนนั้นเล่นได้หมด ช่อง 5 ก็เล่น ช่อง 3 ก็เล่น สุดท้ายเลยเซ็นสัญญากับช่อง 3
นก : ที่ผ่านแล้วก็มี เป็นละครแอ็คชั่นเหมือนกัน แต่จริงๆก็อยากมีเรื่องที่รักบ้าง โรแมนติกบ้าง แบบฝันๆหน่อย
นก : ทุกคนก็เป็นที่ปรึกษาหมดแหละครับ อย่างพี่ไก่ วรายุทธ,พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ แต่โดยรวมแล้วเนี่ย มันก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะตัดสินใจยังไง แบบไหน
นก : แล้วแต่บางเรื่องมากกว่า ที่มันโดนเอง เราไม่สามารถบอกได้ว่าทำเรื่องนี้ซิแล้วมันจะดี ยิ่งผู้จัดไม่สามารถเอ่ยปากได้เลย เราได้แค่เสนอเท่านั้นเอง แต่คนที่ตัดสินใจคือผู้ใหญ่มากกว่า ที่ว่าเรื่องนี้คนดูแน่ เรื่องนี้ไม่น่า
นก : ไม่ต่างกันครับ เพียงแต่ว่าถ้าทำละครเย็นก็เป็นคอมมาดี้หรืออะไรที่แบบเวอ่ร์ๆนิดนึง คนก็มองไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่ต่างกันหรอก คนที่ทำละครหลังข่าวแล้วมาทำละครเย็นอาจไม่ได้ก็ได้ อาจไม่มีคนดูก็ได้ คนละแบบ คนที่ทำละครเย็นอาจทำละครหลังข่าวดีกว่าก็ได้ มันวัดไม่ได้ครับ
นก : ก็คิดว่าจะนำเสนอไอเดียเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า แต่ถ้าวันนึงก็พร้อมที่จะทำ
นก : มีครับ ตั้งแต่เด็กๆก็มี แล้วก็ผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่เค้าจะชวนไปทานข้าว ไม่หวือหวา ล่าสุดนี่คือ อายุ 12-13 ก็มีครับ แต่น้อง ๆ เค้าจะรู้จักผลงานของผม คั้งแต่สมัยก่อน เค้าจะแลกเปลี่ยนแผ่นหนังเก่า ๆ กับแฟนคลับคนอื่น ๆ ที่มีมานาน
นก : ก็ยังไม่มีนะครับ ส่วนใหญ่ก็จะไปด้วยกันตลอด น้องกันต์ด้วย ลูกสาวคนเล็กด้วย ส่วนลูกชายเค้าขี้อายหน่อย ๆ เค้าเรียนโรงเรียนประจำด้วย ยังไม่ได้วางอะไรครับ ก็ให้เค้าดูว่าเค้าอยากทำอะไร
นก : เค้าก็ไปเล่นละครเวทีของคุณบอย ถกลเกียรติ เป็นตัวประกอบ เป็นมิวสิเคิลครับ เค้าเรียนจบนิเทศฯมาครับ เค้าก็ทำหนังกับอาจารย์ แต่เรื่องงานของผม เค้าก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันว่าสนใจแค่ไหน
นก : มันก็มีคละเคล้ากันไป ก็ไม่เคยคิดอย่างนี้ จนมีน้องๆนักข่าวมาถาม แรกๆก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอไปเรื่อยๆก็มีบ้างที่เป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็ได้นะ แต่ได้แป๊บเดียว ผู้สร้างก็ฉกฉวยโอกาสมานี่เลยมาเล่นเลย ก็พอกันผู้สร้าง (ยิ้ม) ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ฉกฉวย ก็มีบ้าง แต่ต้องมองที่ความเหมาะสมด้วยว่าคนนี้เหมาะจริงๆ ผู้สร้างก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก โปรโมทมาก แต่ผู้สร้างก็ทำให้ดีด้วย
เป็นความคิดของพระเอกรุ่นพี่ ที่เตือนน้อง ๆ นักแสดงรุ่นปัจจุบัน ที่ขยันสร้างข่าวกันนัก อยากให้นักแสดงทุกคนในปัจจุบัน ที่มักจะหาทางลัดในการสร้างชื่อเสียง ได้เอาอย่าง พี่นก ฉัตรชัย ที่ไม่เคยสร้างเรื่องฉาวๆ เพื่อหวัง ความสามารถและผลงานคุณภาพต่างหากที่จะเป็นเครื่องการันตี ถึงชื่อเสียงและความดัง ส่วนเราจะได้เห็นพี่นก ในบทบาทละครหรือหนังแนวทะเล้น ตลกบ้างหรือไม่นั้น อยู่ที่ผู้จัดคนไหนจะกล้าทาบทามพี่นกไปรับบทหรือเปล่า แหม น่าจะได้เห็นซักครั้ง จะไม่ลืมพระคุณ แต่ตอนนี้ติดตามบทโหด ๆ ใน "เฉือน" และพระเอกมาดเข้มกินเด็กใน "น้ำผึ้งขม" กันก่อนละกันนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น






