

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก nataliepeart.com
โจ๋เกาหลีฮิตทำศัลยกรรมขากรรไกรให้หน้าเรียวเป็นวีเชฟ นับเป็นศัลยกรรมใหญ่เพราะทำให้โครงสร้างของใบหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ได้ผลคือหน้าดูเรียวลงมาก ..และเสี่ยงอันตรายมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าเช่นกัน!!
หากพูดถึงการศัลยกรรมในปัจจุบันนี้ จะไม่นึกถึงชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ก็คงไม่ได้แล้ว การศัลยกรรมอย่างกรีดตาสองชั้น หรือเสริมจมูกให้โด่งสวย กลายเป็นเรื่องธรรมดา ๆ สำหรับผู้คนในดินแดนกิมจิแห่งนี้ ประเทศซึ่งมีอัตราการทำศัลยกรรมของประชากรเป็นสัดส่วนสูงที่สุด และในไม่ช้าเทรนด์การ "ศัลยกรรมขากรรไกร" ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กเป็นรูปตัววี (V-shape) อาจจะกลายเป็นอีกหนึ่งการศัลยกรรมที่จะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ได้ในไม่ช้า ตามคอนเซ็ปต์ความสวยพิมพ์นิยมของสาว ๆ ในแถบเอเชียตะวันออก ที่ต้องมีตาสองชั้น จมูกโด่ง หน้าเรียวเล็ก เมื่อการผ่านมีดหมอเพื่อให้ได้สองประการแรกก็กลายเป็นเรื่องเบสิกไปแล้ว การทำหน้าวีเชฟก็อาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญประการต่อมา เพราะเมื่อดูจากจำนวนผู้เข้ารับการศัลยกรรมขากรรไกรเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาก็มีถึง 5,000 ราย ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้นี่จะเป็นจำนวนที่ยังไม่ได้จำแนกระหว่างการผ่าตัดเพื่อรักษาความผิดปกติทางปริทันต์กับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อความสวยงามก็ตาม
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การโฆษณาเรื่องการศัลยกรรมขากรรไกรกำลังบูมมากในเกาหลีใต้ มีตั้งแต่ดาราเซเลบฯ ทั้งหลายที่มาบอกกล่าว ใบหน้ารูปวีเชฟที่เธอทำมอบชีวิตใหม่ให้พวกเธอได้อย่างไร ไปจนถึงการโฆษณาที่มีให้เห็นได้ทั่วไป ทั้งเว็บไซต์ต่าง ๆ ในแมกกาซีน หน้าหนังสือพิมพ์ แม้กระทั่งป้ายโฆษณาในสถานีรถไฟก็มีป้ายใหญ่ ๆ ให้เห็นเด่นชัด โชว์ทั้งข้อความทั้งรูปตัวอย่างก่อนและหลังทำอย่างชัดเจน ก็ยิ่งจูงใจให้ชาวเกาหลี โดยเฉพาะวัยโจ๋ทั้งหลายอยากจะเปลี่ยนลุคตัวเองด้วยวิธีนี้ และมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในความเป็นจริงนั้นการศัลยกรรมขากรรไกรไม่ใช่กระบวนการที่ทำเพื่อจุดประสงค์ด้านความสวยความงาม หากแต่เป็นการผ่าตัดรักษาด้านทันตกรรมสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการสบฟัน คางยื่นหรือหลบผิดปกติ แต่ผลอย่างหนึ่งที่มักได้จากการแก้ไขรูปขากรรไกรดังกล่าว คือทำให้ใบหน้าช่วงล่างดูเรียวเล็กลงดูเป็นรูปตัววี จนเมื่อราว 4 ปีที่แล้ว คลินิกทันตกรรมแห่งหนึ่งในกรุงโซลก็ได้เสนอมันเพื่อจุดประสงค์ด้านความสวยความงามโดยเฉพาะ และแน่นอนว่ามันฮอตฮิตติดกระแสในเวลาต่อมา
การศัลยกรรมขากรรไกรเพื่อใบหน้าเรียวเล็กเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ มีการทำการโฆษณากันอย่างครึกโครม มีการแข่งขันกันระหว่างคลินิกหลาย ๆ แห่ง ทำให้ราคาของมันค่อย ๆ ถูกลง จนตอนนี้มันเกือบจะกลายเป็นการศัลยกรรมที่ใครต่อใครก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ไปเสียแล้ว


ศาสตราจารย์ชอย จิน ยอง จากภาควิชาทันตกรรม มหาวิทยาลัยโซล กล่าวว่า มันเป็นศัลยกรรมที่เปลี่ยนรูปใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิผลมากกว่าการทำโบท็อกซ์หรือเสริมจมูก เพราะเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างกระดูกของรูปหน้าไปอย่างสิ้นเชิง แต่อย่างไรก็ดี มันเป็นการศัลยกรรมที่มีความซับซ้อนและอันตรายมาก ใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน และอาจตามมาด้วยอาการรู้สึกชาบนใบหน้าตลอดเวลา หรือที่ร้ายแรงกว่านั้นก็อาจเป็นอัมพาตได้ เพราะเส้นประสาทบนใบหน้าถูกกระทบกระเทือน โดยได้พบว่าผู้ป่วยที่ทำศัลยกรรมขากรรไกรไปแล้วจำนวนมากถึง 52% ล้วนรายงานว่ามีอาการผิดปกติบนใบหน้าตามมา
หนึ่งในผู้ต้องเผชิญกับความผิดปกติที่ตามมาบอกว่า ปากของเธอเฉไปทางซ้ายและรู้สึกชาอยู่ตลอดเวลา เธอไม่รู้สึกอะไรเลยแม้ว่าน้ำลายจะไหลหยดออกมาจากปากแล้วก็ตาม อีกรายหนึ่งรายงานว่ามีอาการปากเบี้ยว ปวดกราม ยิ้มไม่ได้ หัวเราะไม่ได้ และฟันสบกันไม่ลง ส่วนในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา นักศึกษาวัย 23 ปีตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะรับไม่ได้กับผลที่ตามมาหลังการศัลยกรรมใบหน้ารูปวีเชฟ ที่ทำให้เธอเคี้ยวอาหารไม่ได้ น้ำตาไหลตลอดเวลาเพราะเส้นประสาทที่เชื่อมกับต่อมน้ำตาถูกกระทบกระเทือนจนผิดปกติ
ศัลยแพทย์ท่านหนึ่งจากสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งพลาสติกแห่งเกาหลี กล่าวว่า แม้เดิมทีการศัลยกรรมขากรรไกรจะมีจุดประสงค์เพื่อการทันตกรรม แต่หากจะมีผู้หญิงสักคนอยากทำมันขึ้นมาเพราะจะทำให้เธอสวยขึ้น ก็คงจะบอกว่าเธอผิดไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าในสังคมปัจจุบันของเกาหลีที่มีการแข่งขันกันอย่างสูง เรื่องรูปร่างหน้าตากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนผลักดันความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน รวมทั้งโอกาสหลาย ๆ ด้านของชีวิต ซึ่งถ้าจะมองกันลึก ๆ แล้วก็คงต้องบอกว่าเป็นอิทธิพลจากสังคมชายเป็นใหญ่ของเกาหลีโดยแท้ ที่ผู้ชายมีความคาดหวังอย่างสูงให้ผู้หญิงที่ดีต้องมีทั้งสติปัญญา และรูปร่างหน้าตาที่ดีมาควบคู่กัน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มนักกฎหมายเกาหลีใต้ได้วางแผนที่จะเสนอให้ออกกฎจำกัดอายุผู้ที่จะเข้ารับการศัลยกรรม โดยเฉพาะการศัลยกรรมที่เกี่ยวกับกระดูก เพื่อลดปัญหาการศัลยกรรมในหมู่วัยรุ่นที่อายุยังน้อย หากกฏหมายข้อนี้มีผลบังคับใช้ได้จริง ก็อาจช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง แม้จะไม่ครอบคลุมและเป็นแค่การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุก็ตาม..






