
ไหนใครเกิดมาไม่เคยพูดโกหกบ้าง...ทุกคนล้วนแล้วแต่เคยโกหกกันทั้งนั้น เพื่อนบ้าง แฟนบ้าง ยิ่งพ่อแม่ด้วยแล้วอาจจะโกหกบ่อยสุดเลยก็ได้ จริงอยู่ว่าการโกหกเป็นสิ่งไม่ถูกต้องตามศีลธรรม ถ้าเราโกหกหนึ่งครั้งแล้วถูกจับได้ คนอื่นอาจจะไม่เชื่อเราอีกเลย ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ตามมักขาดความน่าเชื่อถือ ความเชื่อใจไปโดยปริยาย
แต่การโกหกก็มีหลายประเภท ถ้าโกหกโดยมีเจตนาอย่างอื่นที่ไม่ใช่รักษาน้ำใจผู้อื่นจัดว่าเป็นสิ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง หรือการโกหกโดยมีเจตนาที่หวังดีกับคนอื่น (white lies) เช่น กลัวว่าพูดความจริงไปแล้วเขาจะเสียใจก็เลยโกหกบิดเบือนความจริง แบบนี้ไม่นับว่าเลวร้ายอะไร เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักล่ะ...เราควรโกหกกันไหม ? แล้วมันจะเกิดความขัดแย้งตามมาหรือเปล่า ? ถ้าโกหกเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ ๆ อย่างแอบมีกิ๊กอันนี้ไม่ดีแน่ แต่การพูดความจริงตรง ๆ ก็สามารถกระทบความสัมพันธ์ได้เช่นกัน เพราะว่าคนรักกันนั้นค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องเล็กน้อย การพูดตรง ๆ สามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกน้อยใจ ไม่พอใจ โกรธ งอน ได้เช่นกัน ดังนั้นเราได้นำเรื่องเล็กน้อยบางเรื่องที่ไม่ควรพูดความจริงออกไป เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของคู่รักมาฝากกันค่ะ
แม้ว่าความจริงแล้วการมีเซ็กส์กันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเลย แต่ต้องโกหกว่ารู้สึกตื่นเต้นเร้าใจและมีความสุขมาก เพราะการพูดความจริงจะทำให้แฟนหนุ่มเสียความมั่นใจ เสียความรู้สึก คิดมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ได้ การโกหกในเรื่องนี้จึงเป็นการถนอมน้ำใจกัน
2. โกหกว่ายินดีที่เป็นฝ่ายเลี้ยงข้าว
คนเป็นแฟนกันบ่อยครั้งที่ออกค่าอาหารให้ เพื่อสร้างความประทับใจให้อีกฝ่ายหรือทำตามมารยาท แม้ว่ากระเป๋าสตางค์จะแฟบขนาดไหน ก็มักจะออกปากเป็นฝ่ายเลี้ยงข้าวเสมอ แม้ว่าความจริงแล้วจะไม่ค่อยเต็มใจอยากเลี้ยงข้าวสักเท่าไร แต่ก็ต้องบอกไปว่ายินดีเลี้ยงเพื่อไม่ให้รู้สึกไม่ดี
3. โกหกว่าชอบของขวัญที่เขาซื้อให้
ไม่ว่าเขาจะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญอาจจะให้เนื่องในโอกาสวันเกิดหรือวันพิเศษ ต้องนึกถึงด้วยว่าเขาตั้งใจเลือกซื้อของมาให้เป็นอย่างดี เลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด สวยที่สุดมามอบให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกใจเท่าไรนัก แต่ก็ต้องตอบไปว่าชอบมาก เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจของคนให้และถือเป็นการรักษามารยาทด้วย สถานการณ์เช่นนี้การโกหกเป็นสิ่งที่จำเป็นและช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
4. โกหกว่าแฮปปี้มากเวลาอยู่กับครอบครัวของแฟน
แน่นอนล่ะว่าเมื่อเป็นแฟนกัน สนิทกันก็ต้องรู้จักครอบครัวของเขาด้วยเป็นธรรมดา สาว ๆ อาจจะมีโอกาสได้พบปะ พูดคุย หรือทานข้าวกับครอบครัวเขาบ้าง แม้ว่าหลาย ๆ ครั้งที่รู้สึกอึดอัด แต่ก็ต้องโกหกไปว่า "สนุกมากเลย" เพื่อความสบายใจของทุก ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสบายใจของแฟนคุณนั่นล่ะ ลองคิดดูสิว่าถ้าคุณพูดความจริงออกไปแฟนคุณจะเสียความรู้สึกแค่ไหน
5. ปิดบังทัศนะของพ่อแม่ที่มีต่อแฟนหนุ่ม
พ่อกับแม่ย่อมรักลูกเป็นธรรมดา ดังนั้น หลาย ๆ ครั้งที่พวกเขาชอบคิดว่าแฟนของสาว ๆ ยังดีไม่พอ มีข้อบกพร่องต่าง ๆ มากมายหลายข้อเหลือเกิน สิ่งที่พ่อแม่บอกก็เพราะความหวังดี อยากให้ลูกพบเจอคนที่ดี แต่ตัวคุณเองต่างหากที่รู้ดีที่สุด ว่าอะไรดีสำหรับคุณจริงไหมล่ะ...เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ห้ามบอกให้แฟนรู้เด็ดขาด ถ้าเขาทราบละก็เขาจะคิดมากขึ้นมาทันที
6. คล้อยตามในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
หลาย ๆ ครั้งที่ความคิดเห็นของคุณทั้งคู่ไม่ตรงกัน จริง ๆ แล้วคุณไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด แต่ก็ยอมไปก่อน คล้อยตามเขาไปจะได้ไม่ทะเลาะเถียงกันวุ่นวาย แต่เรื่องที่มีความเห็นไม่ตรงกันต้องเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรมากนะ เช่น เรื่องจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนดี หรือไปทานอาหารร้านไหนดี แล้วตกลงกันไม่ได้สักที เพราะความคิดเห็นต่างกัน ก็โกหกไปเลยว่าเต็มใจไป อยากไป จะได้ไม่สร้างปัญหาเดี๋ยวจะทะเลาะกันอีก
7. โกหกว่าแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของคุณน่ะดีกว่าคนเก่า
ถ้าอยู่ ๆ ก็เกิดบทสนทนาถามถึงแฟนเก่า และเกิดคำถามเชิงเปรียบเทียบคนเก่ากับคนปัจจุบันขึ้น อย่างไรก็ตามคุณก็ต้องตอบว่าแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของคุณน่ะดีกว่าคนเก่าทุกอย่างเลย เช่น หล่อกว่า เอาใจใส่มากกว่า ฯลฯ แม้ว่าความจริงคนเก่าหล่อกว่าแต่พูดไปแล้วเกิดเรื่องแน่ อย่าพูดเช่นนั้นเด็ดขาดเชียว เพราะว่าจะทำให้แฟนหนุ่มของคุณรู้สึกไม่ดี รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจได้ และนำไปสู่ความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์ที่มีอยู่
8. บอกว่าเสื้อที่ซื้อมาให้ขาดเลยต้องทิ้ง ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วคุณไม่ชอบ
เขาตั้งใจเลือกซื้อเสื้อมาให้ แต่คุณไม่ชอบและไม่อยากเก็บเอาไว้ให้รกตู้เสื้อผ้าเลยตัดสินใจโยนทิ้งไปแล้ว ค่อยบอกเขาว่ามันขาดก็เลยจำใจทิ้งไป หรือหาเหตุผลที่น่าเชื่อถืออย่างอื่นก็ได้ ถ้าพูดความจริงจะเป็นการทำร้ายจิตใจมากเลยนะ เขาจะต้องเสียใจมากแน่ ๆ
9. โกหกว่าแต่งตัวดูหล่อมากเลย
แม้ว่าความจริงเขาแต่งตัวเชยเหมือนคุณปู่อายุ 70 กว่า แต่การพูดออกไปตรง ๆ ทำให้เขากลายเป็นตัวตลก น่าหัวเราะเยาะ และสูญเสียความมั่นใจได้ เขาคงรู้สึกไม่ดีนักและเครียดไปอีกหลายวันทีเดียว
10. โกหกเพื่อต้องทราบความจริงบางอย่างที่พูดออกมาตรง ๆ ไม่ได้
ผู้หญิงอย่างเราก็ค่อนข้างอ่อนไหวกับเรื่องรูปร่าง หน้าตา ความสวยงาม ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผู้ชายทั้งหลายก็ทราบดี ดังนั้น ถ้าคุณต้องการทราบความจริงเกี่ยวกับรูปร่างของคุณแล้วละก็ ต้องมีทริคในการล้วงความจริงกันหน่อย ยกตัวอย่างเช่น ถามแฟนคุณว่า "ต้นขาใหญ่มากไหม" หรือ "ฉันอ้วนขึ้นหรือเปล่า" คำถามเหล่านี้แฟน ๆ หนุ่มทั้งหลายไม่กล้าตอบความจริงเป็นแน่ คุณจึงต้องโกหกว่าพูดมาเลยไม่โกรธหรอก แม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับคำตอบของเขา แต่ก็ต้องควบคุมความโกรธนั้นให้ได้เพื่อจะได้ทราบความจริง ถ้าแสดงท่าทีว่าโกรธเขาจะไม่พูดความจริงออกมา และสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือเขาไม่ยอมพูดความจริงอยู่ดี แม้ว่าคุณจะไม่มีท่าทีโกรธก็ตาม แบบนี้ก็ยากที่จะทราบความจริงเช่นกัน
บอกไป 10 ข้อแล้ว ทีนี้จะทราบได้อย่างไรว่าความไม่ซื่อตรงระหว่างคบกันนั้น มันจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง เพราะการคบหากันก็ต้องเชื่อใจกันและไม่ควรโกหก สาว ๆ ทั้งหลายลองเช็กจากคำถามด้านล่างนี้ดูกันนะจ๊ะว่าโกหกแล้วมันเกิดผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน
1. โกหกแล้วเขามีความสุข ไม่เสียความมั่นใจในตัวเอง หรือรักมากขึ้นหรือเปล่า
2. ถ้าเขาทราบความจริงทีหลัง มันจะส่งผลร้ายแรงถึงกับเลิกรากันเลยไหม
3. คุณโกหกในเรื่องที่ผิดศีลธรรมหรือเปล่า
4. เรื่องที่โกหกมันเป็นการปิดบังการนอกใจไปมีคนอื่นไหม
5. เรื่องที่โกหกเป็นการทำเพื่อความสบายใจของอีกคน หรือว่าเป็นข้ออ้างเพื่อให้คุณรอดพ้นความผิดกันแน่
ถ้าคำตอบที่ได้มันชัดเจนว่าจะไม่เป็นการทำร้ายเขาทั้งในปัจจุบันและอนาคตก็ไม่เป็นไร สามารถโกหกแบบนี้ได้ อ๊ะ ๆ แล้วถ้าถูกจับได้จะทำอย่างไร ? หลาย ๆ ครั้งที่การโกหกเพื่อถนอมน้ำใจ (White lies) โดนจับได้ภายหลัง สิ่งที่ควรทำ คือ ยอมรับ สารภาพทุกสิ่งอย่าง อย่าดันทุรังโกหกต่อไปอีก ให้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงโกหก บอกความจริงไปเลยว่าคุณเป็นห่วงความรู้สึกของเขามากเลยไม่กล้าพูดความจริงออกไป ทนเห็นเขาเสียใจโดยมีสาเหตุมาจากตัวคุณไม่ได้ ดังนั้นเขาต้องหายโกรธและให้อภัยคุณอย่างแน่นอน
สาว ๆ ทั้งหลายคงได้เห็นข้อดีของการโกหกสีขาว หรือ White lies กันแล้ว ว่ามันช่วยถนอมหัวใจของคนรักได้ แต่มันก็อาจจะเกิดผลกระทบภายหลังถ้าหากเขาจับได้ ดังนั้น ก่อนที่จะโกหกต้องคิดให้รอบคอบ ตระหนักถึงข้อดี ข้อเสีย ที่จะเกิดตามมาให้ดีก่อน และที่สำคัญมากที่สุด คือ โกหกเพื่อไม่ให้คนที่คุณรักเสียใจ ไม่ใช่โกหกเพื่อเป็นข้ออ้างหรือข้อแก้ตัว อย่างไรก็ตามการพูดความจริงตั้งแต่แรกโดยหาวิธีพูดที่ทำร้ายจิตใจเขาน้อยที่สุดอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เพราะว่าทำให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกัน และยอมรับในความคิดของกันและกันมากขึ้นด้วยค่ะ






