x close

เปิดหัวใจไร้คู่ ของ แดน วรเวช

แดน วรเวช

เปิดหัวใจไร้คู่ ของ แดน-วรเวช จริงดิ หรือว่าสร้างภาพ  (ไทยรัฐ)

          บ่นดัง ๆ ว่าอยากแต่งงาน สำหรับแดน-วรเวช แต่ทุกคนกลับยืนยันแค่เพื่อนไม่ว่าจะเป็น เบนซ์-มนัญญา หรือ ปาย-ศิตางศ์

          ธันวาคมมาเยือนทีไรทุกคนต้องคิดถึงเทศกาลแห่งการเลี้ยงฉลอง จะว่าไปแล้วเป็นเดือนแห่งปาร์ตี้ก็ว่าได้ เพื่อให้เข้าบรรยากาศเดือนแห่งปาร์ตี้ แดน-วรเวช ดานุวงศ์ เลยถือโอกาสนี้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่เขาเป็นมิวสิคไดเรกเตอร์ และครีเอทีฟเอง ไม่เท่านั้นจบคอนเสิร์ตก็ต่อด้วยภาพยนตร์ เรื่อง 32 ธันวา ผลงานของทีมงานเดิมที่เคยสร้างชื่อกันมาจากแสบสนิทฯ

          สำหรับ แดน วรเวช ดูเหมือนจะชิ่งเรื่องหัวใจมากที่สุด หากเปรียบกับบีม-กวี ไม่ว่ามีข่าวใครเข้ามา ดูเหมือนข่าวเงียบหาย ไม่ต่อความยาวเหมือนดาราอื่น ๆ นี่แหละคือความเป็นแดน เซฟไว้ก่อนพ่อสอนไว้  ทว่าไม่นานก่อนหน้าที่ดันหลุดปากว่าอยากแต่งงานเหตุ เพราะเห็นคนในวงการสละโสดต่อหน้าต่อตาไปหลายคู่ ใครหนอนั่งในหัวใจแดน คนในข่าวหรือนางเอกที่พาไปเที่ยวผับ โปรโมตหรือเรื่องจริง แดนมีคำตอบ

อยากให้พูดถึงเรื่องหนังก่อน  ความคล้ายหรือความต่างระหว่าง แดน กับ โน้ต ตัวละครในภาพยนตร์ 32 ธันวา?

          แดน วรเวช : ก็ถือว่าคล้ายกัน หรือว่ามีบางมุมที่ใกล้เคียงกับตัวเราอยู่เหมือนกันนะครับ  อย่างเวลาที่ผมเล่นหนังกับพี่ยอร์ช อย่างเรื่องที่แล้วตอนที่แดนเล่นเป็น สนิท เนี่ย มันก็มีมุมนึงที่คล้ายเรา แต่ก็จะมีความเป็นสนิทเพิ่มเข้ามา เหมือนกันกับเรื่องนี้ คือโน้ตก็จะมีความเป็นแดนอยู่ แต่ก็จะเพิ่มความเป็นตัวละครตัวนั้นเข้ามา ซึ่งโนตเนี่ยก็จะมีความเป็นแดนอยู่ แต่ก็จะเพิ่มในเรื่องของความเป็นคนลุกลี้ลุกลนเข้ามา การพูดจาเร็วอะไรแบบนี้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ถือว่าเป็นตัวแดน 70% ด้วยซ้ำครับ บุคลิกกับวิธีการคิด อย่างถ้าได้ดูในหนัง เวลาแดนยิ้มหรือว่าหัวเราะ เหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นในแต่ละฉากก็คือความเป็นเราจริงๆ คือถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็จะหัวเราะเท่านี้ คือแดนจะเป็นคนที่ไม่ค่อยสร้างภาพตัวละครไว้ก่อนว่าเราจะต้องเล่นยังไง เป็นยังไง

บทผู้ชายเจ้าชู้นี่ใกล้เคียงกับตัวจริงด้วย?

          แดน วรเวช : ก็ถือว่าไม่ยากนะครับ (หัวเราะ) ในเรื่องต้องเจอกับผู้หญิงถึง 3 คน คือในเรื่องนี้ ตัวละครโน้ตเนี่ยจะมีความเป็นตัวของตัวเองมาก ไม่ได้ทำอะไรเพื่อใครเลย แต่ให้รักเราตรงที่เราเป็นเรา แล้วก็บอกด้วยว่า เราไม่ใช่คนดีหรอก เราก็เป็นของเราแบบนี้ เวลาเล่นเข้ากับใครก็ตาม ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากความเป็นตัวเองเท่าไหร่ อย่างอยู่กับยิปโซ ซึ่งเป็นผู้หญิงเรียบร้อยในเรื่อง เราก็ไม่ต้องเรียบร้อย เราก็เป็นของเราแบบนี้ แต่ก็อาจจะมีความเกรงใจเพิ่มขึ้นมากหน่อย

แล้วชีวิตแดนเคยเจอกับผู้หญิงเรียบร้อยอย่างยิปโซในเรื่องไหม?

          แดน วรเวช : ก็เคยครับ อย่างถ้ามองในมุมดีมันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ  เพราะการที่เรามีผู้หญิงเรียบร้อยอยู่ด้วย ก็รู้สึกว่าสบายใจปลอดภัย แต่อีกมุมนึงก็อาจจะทำให้สีสันในชีวิตอาจจะน้อยลง เพราะว่ากราฟมันเป็นเส้นตรง

แล้วเวลาที่อยู่กับปายล่ะ เห็นมีข่าวกับปายด้วย ?

          แดน วรเวช : ข่าวก็ขำ ๆ นะ คือมาเจอเขา  ก็รู้สึกตื่นเต้น โลดโผนขึ้นมาหน่อย ในชีวิตก็มีเคยเจอบ้างครับ ก็ถือว่าสนุกดีนะครับ ลุย ๆ ดี

คือถ้าให้เลือกผู้หญิง 1 ใน 3 แบบที่มีในเรื่อง คิดว่าจะเลือกแบบไหน?

          แดน วรเวช : คงเลือกแบบสายป่านครับ คือเป็นได้ทั้งน้อง ทั้งแฟน ทั้งเพื่อน คือเป็นได้ทุกอย่าง เวลาที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เพราะว่าเค้าเข้าใจเรา สนิทกันจนรู้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร รู้ใจกัน ไม่ต้องมาแบบว่าสวีตหวานแหววมาก สวีตบ้างก็แล้วแต่ความเหมาะสม คือไม่ต้องมานั่งจับมือกันตลอดเวลา

ฉากไหนที่ทำให้แดนรู้สึกว่าเออนี่แหละใช่แล้ว คนรักกันต้องเป็นแบบนี้?

          แดน วรเวช : ผมมองว่ามันคือทุกฉากนะ เพราะเรื่องความรักมันคือมวลรวมมากกว่า คงไม่สามารถมาเจาะได้ว่าเหตุการณ์ไหนคือใช่ที่สุด ส่วนตัวแดนไม่ได้รักใครสักคนจากเหตุการณ์แค่เหตุการณ์เดียวอยู่แล้ว ไม่ได้มีครั้งไหนที่ ปิ๊ง!! แล้วพีคเลยว่าโอ๊ย... เรารักคน ๆ นี้ ไม่เคยมีครับ แดนจะเป็นคนที่ค่อย ๆ รักไป แต่ถ้าเค้าทำอะไรให้ก็รู้สึกประทับใจนะ คือถ้าสมมติว่าเรารักใครจากเหตุการณ์เพียงแค่ครั้งเดียวที่เค้าตั้งใจทำให้เรามาก ๆ ผมว่าเราจะแย่นะ  เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนบางคนอาจจะทุ่มเททุกอย่าง เพียงเพื่อที่จะทำครั้งเดียวครั้งนี้ให้ดีที่สุด แต่จริง ๆ ก็คือหมดแล้วนะ ไม่มีอีกแล้วหลังจากนี้ ซึ่งถ้าเรารักเค้าไปแล้วนี่มันก็คงไม่ใช่แล้วนะ ผมว่าเราควรจะดูกันไปยาว ๆ มากกว่าต่อจากนั้นเค้าใส่ใจเรามากน้อยแค่ไหน ดีกว่าการที่จะมองการกระทำเพียงแค่ครั้งเดียว มันก็คือมวลรวม ๆ ว่าถูกสร้างมาโดยวิธีไหน นั่งมองตากัน รู้สึกดี ๆ ต่อกัน เท่ากับว่าผู้หญิงของแดนจะต้องเสมอต้นเสมอปลาย เป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เพราะแดนจะกลัวมากเลยสำหรับคนที่มาครั้งแรกแล้วดูดี๊ดี แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะมันไม่จีรัง มันก็แปลก ๆ

แล้วเคยเจอผู้หญิงแบบนี้บ้างไหม?

          แดน วรเวช : ก็เจอครับ ส่วนมากก็เป็นแบบนั้นน่ะแหละ  มันเลยทำให้เรายังไม่อยากที่จะไปจริงจังกับความรัก เพราะมาแรก ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจเราหมดทุกอย่าง แต่สักพักความเข้าใจต่าง ๆ ก็จะหายไป แล้วสุดท้ายเค้าก็เปลี่ยนไป ซึ่งพอเค้าเปลี่ยนเราก็จะเปลี่ยนแบบเห็นได้ชัดเหมือนกัน มันเลยกลายเป็นข้ออ้างที่กลับกันว่าเออแดนเปลี่ยนไป ไม่ใส่ใจเค้า

แปลว่าจริง ๆ แล้วแดนก็เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายเหมือนกัน?

          แดน วรเวช : ใช่ครับ คือถ้าวันแรกเจอกันเป็นแบบไหนแดนก็จะเป็นแบบนั้น บอกว่าไม่ว่างก็คือไม่ว่าง บอกว่าไม่ได้รับโทรศัพท์ก็คือไม่ได้รับโทรศัพท์ แต่คือเค้าบอกว่าเข้าใจไงครับ แต่พอนาน ๆ ไป อันนี้ก็ไม่ใช่ อันนั้นก็ไม่ใช่

เท่ากับว่าความรักของแดนต้องเริ่มจากคำว่าเพื่อนก่อน ไม่ใช่ว่าปิ๊งแล้วจะรักกันเลย?

          แดน วรเวช : ครั้งแรกมันคงเริ่มจากความน่ารัก แล้วก็ประทับใจแหละครับ จากนั้นก็คงจะเป็นเรื่องของการคุยกันแล้วเข้าใจมั๊ย แต่สำหรับแดนจะเป็นคนที่ค่อนข้างมีเซนต์เรื่องนี้นะครับ คือคุยกันนิดเดียวนี่แดนจะรู้แล้วว่าเหตุการณ์นี้ หรือบางคำพูดเอออันนี้มันเริ่มไม่ใช่แล้ว แดนก็จะถอยออกมาเลยครับ

แปลว่าเป็นคนรักคนยาก?

          แดน วรเวช : ถ้าเป็นคนที่จะคบจะรักกันนาน ๆ ถึงขั้นแต่งงานก็ถือว่ายากครับ เรียกว่ายังไม่เจอดีกว่าครับ มีประทับใจ รู้สึกดี แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แดนมองว่าความรักสมัยนี้มันไม่ค่อยยั่งยืน แล้วอีกอย่างแดนไม่ค่อยชอบการที่จะมีคนมาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แดนอยากใช้ชีวิตอิสระ อยากไปไหนก็ไป อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ทำ อยากไม่รับโทรศัพท์ อยากอยู่กับแม่วันนี้ก็อยู่ อยากทำงานมากกว่า แต่งานของแดนก็คงจะไม่ใช่งานประจำหรอกครับ อย่างปีนี้อยากเป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มของใครก็ได้ซักคนนึง 1 ชุด แล้วก็อยากทำหนังซักเรื่อง หรือปีนี้อยากทำหนังสือสักเล่ม คือเพื่อที่จะได้มีเงินพอไปเที่ยวรอบโลก คือช่วงนี้เป็นช่วงที่อยากทำงานให้ได้มากที่สุด เก็บเงินให้ได้เยอะที่สุด แล้วก็มีเวลาดูแลครอบครัวให้มากที่สุดครับ

อยากไปเที่ยวที่ไหน?

          แดน วรเวช : คงจะไปเรื่อย ๆ เลยครับ เพราะแดนคิดว่าชีวิตแดนมันคือการเดินทาง

แล้วคิดว่าจะไปกับใคร?

          แดน วรเวช : คือถ้าช่วงนั้นคุยกับใครอยู่ก็คงจะไปกับคนนั้นแหละครับ คนไหนดีก็ไปกับคนนั้น

แล้วเวลาที่คบกับใครแดนบอกเค้าไหมว่า เราอาจจะไม่คบกันถึงขั้นแต่งงาน?

          แดน วรเวช : แดนคบกับใครแดนก็บอกหมดนะครับ  แต่เท่าที่ผ่านมาคือเค้าหวังแหละครับว่าจะเปลี่ยนเราได้ หรือหยุดเราให้ได้ แต่วันนึงแดนว่าน่าจะมีคนที่จะมาหยุดแดนได้จริง ๆ แหละ คือถ้าเป็นแบบนั้น เค้าก็ต้องเป็นคนที่เข้าใจเรามาก รักเราจนสามารถอยู่ด้วยกัน 2 คนโดยไม่ต้องพูดอะไร เหมือนว่าเรามีเค้าแล้วเราครบทุกอย่าง อย่างวันนี้เราไม่มีเพื่อนแต่เรามีเค้าก็ได้ หรือวันนี้เราไม่มีครอบครัวแต่เรามีเค้าก็รู้สึกว่าไม่ขาดอะไร คือต้องไม่ขาดอะไร เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราต้องแต่งงานกันไป คือเราก็ต้องอยู่ด้วยกัน 2 คนใช่มั๊ยครับ เพราะวันนึงพ่อแม่อาจจะไม่อยู่แล้ว เพื่อน ๆ ก็อาจจะแยกย้ายกันไปมีครอบครัว พี่ชายก็ไม่อยู่ ก็เหลือกันแค่ 2 คนนั่งมองหน้ากัน แต่ถ้าเกิดว่าแฟนเรามีแค่มุมเดียว คือเป็นแค่แฟน ชีวิตเราก็คงมีแค่กินข้าวดูหนัง ๆๆ สักวันนึงมันก็คงเบื่อ

          แดน วรเวช : อย่างถามว่าวันนี้ทำอะไรอะ ทำงานอีกแล้วเหรอ มันก็คงไม่ได้หรอกครับ เพราะเป็นแฟนกันมันจะต้องเข้าใจกัน หรือคนเราก็มีสิทธิ์รู้สึกดีกับใครก็ได้ถูกมั๊ยครับ แต่เราก็สามารถคุยกับเค้าบอกกับเค้า หรือเล่าให้เค้าฟังได้ว่าวันนี้เราไปเจออะไรมา อย่างเช่นวันนี้ไปเจอคน ๆ นึงมา น่ารักมาก ซึ่งเราก็อยากจะเล่า คือเล่าให้เพื่อนฟัง หรือว่าเล่าให้แม่ฟังอะไรแบบนี้ คือพูดกันได้ทุกเรื่อง เพราะผมไม่อยากปกปิด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คงจะต้องเป็นคนที่แฟร์มาก ๆ เหมือนกัน ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้น ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ถึงขั้นว่าเราจะไปมีใครหรอก เพราะเราเองก็คงรู้สึกดีอยู่แล้ว และก็จะรู้สึกเกรงใจเค้าอยู่แล้ว แต่ก็แค่อยากจะเล่า แล้วมีคนรับฟังเท่านั้น แล้วสิ่งนี้แหละจะทำให้ผมไม่คุยกับผู้หญิงคนที่มาเล่าให้ฟังนี่ไปเลยนะ

เชื่อไหมว่าในโลกนี้คนเราทุกคนจะต้องมีคู่ เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม?

          แดน วรเวช : เชื่อครับ ก็เพราะแบบนี้ไง เลยทำให้ผมไม่เคยเสียใจกับการที่ต้องเลิกรากับใคร แต่เสียใจตรงที่เราทำให้เค้าเสียใจมากกว่า แต่แดนก็คิดนะว่าพออายุประมาณ 30 เราก็คงจะออกเดินทางไปในที่ที่เราอยากไปแล้ว คิดเลยว่าประเทศนี้ไปแล้ว ประเทศนี้ยังไม่ได้ไปอะไรแบบนั้น

คิดว่าตัวเองโตเกินไปไหมกับเรื่องความรัก  หรือมุมมองเกี่ยวกับความรักที่ดูจะจริงจังมากขึ้น?

          แดน วรเวช : คงเป็นเพราะผมเจอคนมาเยอะมากกว่าครับ แล้วก็ได้ศึกษาหรือเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับคนมากขึ้น

เรื่องความรัก ระหว่างอารมณ์กับเหตุผล แดนใช้อะไรมากกว่ากัน?

          แดน วรเวช : สำหรับผมคงจะมองเรื่องของเหตุผลมากกว่าครับ ไม่เคยใช้อารมณ์เลย เว้นแต่ตอนเด็ก ๆ ที่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาบ้าง

เห็นข่าวประกาศว่าอยากแต่งงาน ?

          แดน วรเวช : ใช่ ก็โพล่งไป เราเห็นคนที่เขาแต่งงานไปแล้วมีความสุขไง จริง ๆ ก็ยังไม่มีใคร ขนาดนั้น มันเหมือนกับว่ารอดู คือถ้าใช่ผมก็จะไม่ปิดนะ อยากเป็นไปธรรมชาติมากกว่า

แล้วที่เป็นข่าว กับคนโน้นคนนี่ ?

          แดน วรเวช : ข่าวเขาก็ว่าผมปากแข็ง ไม่มีนะ เรื่องไปเที่ยวผับกับคนโน้นคนนี้ เป็นเพื่อนกันมากกว่าเพื่อนจริง ๆ มันเหมือนมีคนพยายามจับคู่นะ ยังอยู่คนเดียวจริง ๆ

สุดท้าย คอนเสิร์ต เห็นมาทำครีเอทีฟด้วย จะไปทำเบื้องหลังแล้วเหรอ ?

          แดน วรเวช : ไม่ครับ ผมยังทำเพลงเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าคอนเสิร์ตนี้ ผมลงมาดูเรื่องครีเอทีฟด้วย อย่างที่ทราบจะมีเพลงของเอฟ 4  เหล่านี้ถือว่าเป็นของใหม่ที่ท้าทายผมนะ เชื่อว่าแฟนเพลงต้องชอบ เซอร์ไพรซ์อื่น ๆ ก็ต้องรอดู เรื่องเพลงเก่า ก็อาจมีบ้าง เพียงแต่ว่าเราโตขึ้น ก็อยากทำงานที่หลากหลาย ก็ลองไปดูกันครับ คอนเสิร์ตมายบลู เวิลด์ ที่อิมแพค

          สำหรับแฟนเพลงแฟนหนังของแดน -วรเวช ก็ต้องดูกันยาวๆ ละว่าคนที่ซ่อนเอาไว้ในใจนานแสนนานนั่น จะเป็นนางเอกสาวที่ชอบควงไปผับหรือเปล่า หรือที่แท้ก็เป็นคนใกล้ตัวคนนั้นหรือเปล่า


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดหัวใจไร้คู่ ของ แดน วรเวช อัปเดตล่าสุด 14 พฤศจิกายน 2552 เวลา 16:10:13
TOP