x close

ใช้สติตั้งรับข่าวลบ เอมี่ อาเมเรีย แกร่งมีภูมิคุ้มกัน





ใช้สติตั้งรับข่าวลบ "เอมี่"แกร่งมีภูมิคุ้มกัน (ข่าวสด)

          กลับมาอีกครั้ง สำหรับ "แม่มาแม่มา" สาวไทย-ฮอลแลนด์ วัย 21 ปี "เอมี่"อาเมเรีย จาคอป ในละครเรื่อง "ธิดาวานร ภาค 2" ภาคนี้นอกจากจะมีวลีใหม่ที่ติดปากอย่าง "อุอุ๊ อิอิ๊" แล้ว ดาราสาวยังต้องร่วมงานกับผองสัตว์มากขึ้น

ใน "ธิดาวานร ภาค 2" เห็นว่านอกจากจะร่วมงานกับลิงแล้ว ยังต้องเล่นกับช้างและเสือด้วย?

          เอมี่ : นอกจากเจ้าบูบู้ ลิงอุรังอุตังที่เจอกันในภาคแรก ภาคนี้เอมี่ต้องเล่นกับช้างและเสือด้วย ก็สนุกดีค่ะ กับบูบู้ไม่ได้เจอกันนาน พอเข้าฉากวันแรกมันเดินมาจับมือ มันจำได้ ดีใจมากค่ะ

          เอมี่ : กับช้างในภาคแรกได้แต่ขี่อย่างเดียว แต่มาภาคนี้ได้สัมผัสมันมากขึ้น รู้สึกว่าเขามีวินัยและอ่อนโยนมาก มีฉากที่ช้างต้องใช้งวงรัดเอมี่ มันก็ค่อยๆ รัด ค่อย ๆ ปล่อย ไม่รู้สึกเจ็บเลย

          เอมี่ : ส่วนเสือน่ารักมาก ตอนเล่นกับเสือตัวใหญ่ต้องถ่ายแยกเฟรม เพราะคนเลี้ยงบอกถ้ามันผิด กลิ่นมันจะหงุดหงิด แต่กับลูกเสือนี่สบายมาก เอมี่ชอบมาก ยังถามคนเลี้ยงเลยว่าขายหรือเปล่า ตัวเท่าไหร่ อยากซื้อไปเลี้ยงค่ะ

ถึงวันนี้รักและชอบแสดงมากน้อยแค่ไหน?

          เอมี่ : ค่อนข้างชอบแล้วค่ะ จากตอนแรกที่ไม่ชอบเลยเพราะไม่ชอบแอ๊กติ้ง ไม่ชอบอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ตรงนี้ก็ค่อยๆ ปรับและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเสน่ห์การแสดงอยู่ตรงที่เราต้องเป็นคนอื่นและแสดงออกมาให้คนดูได้เห็นได้รู้ว่าเราทำได้

ถือว่าชีวิตเปลี่ยนไปหรือเปล่าหลังเล่น "ธิดาวานร" ภาคแรก แล้วประสบความสำเร็จ?

          เอมี่ : เปลี่ยนไปเหมือนกัน เพราะคนรู้จักเยอะมาก จากเดิมเป็นเด็กกะโปโล ไปไหนไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่มาตอนนี้มีคนรู้จักและทักเราเยอะขึ้น ทำอะไรก็ต้องระวังตัวมากขึ้นค่ะ

ช่วงนี้ชีวิตลงตัวหรือยัง?

          เอมี่ : ก็ถือว่ากำลังไปได้สวยค่ะ ทำงานวงการบันเทิงมา 3 ปีแล้ว ก็ค่อย ๆ ปรับตัว ที่ต้องปรับปรุงอาจจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพ ซึ่งเอมี่ยังขี้อายอยู่ จุดที่ขาดความมั่นใจมากที่สุดคือเวลาที่เอมี่แสดงจะคิดว่าตัวเองยังแสดงไม่เก่ง เพราะยังไม่ค่อยกล้าเล่น ก็ต้องปรับไปเรื่อย ๆ

3 ปีที่ทำงานคิดว่าตัวเองโตขึ้นเยอะไหม?

          เอมี่ : คิดว่าโตขึ้นบ้าง เรื่องความคิดบางอย่างก็คิดได้ แต่บางครั้งไม่ยอมรับความจริงว่าโตแล้ว อย่างเรื่องอายุ ยังคิดว่าเป็นเด็กอยู่ค่ะ
 
พ่อแม่อยู่ภูเก็ต เอมี่อยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เกิดปัญหาขึ้นมาปรึกษาใคร?

          เอมี่ : เอมี่ไม่ชอบปรึกษาใคร เวลามีอะไรก็จะเก็บไว้คนเดียวและแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาเดือดร้อนกับเรา เหมือนลองผิดลองถูก วันนี้เอมี่รู้สึกภูมิใจที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ถึงอยู่ห่างกันก็คุยกับพ่อแม่ทุกวันทางโทรศัพท์ค่ะ

เคยร้องไห้เพราะท้อแท้ไหม?

          เอมี่ : มีบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ร้อง ส่วนที่เคยร้องไห้ต่อหน้าพี่ ๆ นักข่าว เพราะเอมี่เป็นคนที่เซนซิทีฟ ใครมาสะกิดนิดเดียวก็ไปแล้ว พอร้องไห้แล้วก็เกิดเป็นประเด็นใหม่ ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจร้อง มาวันนี้คิดว่าจะไม่ร้องไห้แบบนั้นอีก

ตั้งแต่เข้าวงการ ข่าวไหนที่รู้สึกแรง?

          เอมี่ : ข่าวเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดค่ะ งงว่าต้นตอข่าวมาจากไหน ใครไม่ชอบก็อย่าทำร้ายด้วยวิธีนี้เลย ข่าวออกมาก็รู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เอมี่ไม่รักและไม่อยากอยู่วงการนี้อีกเลย

          เอมี่ : เอมี่โชคดีที่มีคนให้กำลังใจตลอดและถือว่ายังโดนน้อย คนอื่นที่โดนหนักกว่ายังอยู่ได้เลย มาวันนี้สบายใจขึ้นและเอมี่ก็เริ่มมีภูมิคุ้มกันตัวเองบ้างแล้ว ตอนนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราก็พอรับได้บ้าง ถือว่าแข็งแรงขึ้น คนอื่นก็โดนเหมือนเราเขายังอยู่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ

คุณพ่อคุณแม่แนะนำอะไรบ้าง?

          เอมี่ : แม่จะเตือนทุกอย่าง ทุกเรื่อง และเตือนทุกวัน ส่วนคุณพ่อจะให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็ค่อยบอก พ่ออยากให้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง



ถึงวันนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง?

          เอมี่ : ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ จากเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ได้ประกวดแล้วได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 จากนั้นมาเล่นละครจนเป็นที่รู้จัก ซึ่งมันผิดจากความฝัน ตอนเด็กๆ ที่อยากเป็นนักร้อง แต่มาเป็นนักแสดงก็ถือเป็นอีกแนวหนึ่ง ทำให้ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ในเมื่อโอกาสมันมาทางการแสดงก็ควรไขว่คว้าเอาไว้ค่ะ"

วางแผนอนาคตไว้อย่างไร?

          เอมี่ : ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ตอนนี้ยังไม่รู้ชะตาและอนาคตตัวเองเลย ขอทำงานและเรียนรู้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังกับวันข้างหน้า ไม่อยากคาดหวังเพราะกลัวผิดหวัง ขอค่อยๆ ก้าวไปทีละสเต็ป ช้าๆ แต่มั่นคง อะไรจะดีมันก็ดีเอง ส่วนอะไรจะร้ายมันก็ร้าย และเราต้องตั้งรับกับมันให้ได้อย่างมีสติค่ะ"
 

มีสติที่ไหน ที่นั่นย่อมมีทางออก

           ปีที่ทำงานในวงการบันเทิง นางเอกสาว "เอมี่-อาเมเรีย" บอกว่าช่วยฝึกให้ตัวเองมีความรับผิดชอบมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เก็บเงินซื้อบ้านได้แล้ว โดยเจ้าตัวเผย

          เอมี่ : เป็นบ้านที่เอมี่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงโดยร่วมกับคุณแม่ เป็นบ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาประมาณ 4 ล้านกว่าบาท อยู่แถวราม อินทราค่ะ ได้เงินมาก็ซื้อเป็นอสังหาริมทรัพย์เก็บไว้ ได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้วค่ะ"

          สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อบ้าน เอมี่ให้เหตุผล "เพราะตอนนี้อยู่คอนโดฯ และผ่อนไปเรื่อย ๆ ก็สู้เอาเงินที่ผ่อนคอนโดฯมาผ่อนบ้านดีกว่า"

          เอมี่ : บ้านหลังนี้เป็นความฝันของเอมี่ที่ตั้งใจอยากซื้อบ้านและซื้อรถ โดยรถยนต์มีแล้ว เป็นรถที่ได้จากการประกวดมิสทีนฯ เลยซื้อบ้านดีกว่า ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นเงินที่ได้จากการเล่นละคร ธิดาวานร รวมถึงงานโชว์ตัว งานถ่ายแบบต่างๆ ค่ะ

          และเพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องอยู่ดูแลกิจการโรงแรมและรีสอร์ตที่ภูเก็ต ทำให้ดาราสาวต้องขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว โดยเธออยู่ตั้งแต่ครั้งที่เล่นละครเรื่อง "ธิดาวานร" ภาคแรกแล้ว

          ถามว่าเหงาไหม ดาราสาวว่า "เฉย ๆ ค่ะ อยู่คนเดียวจนชินแล้ว ต้องช่วยเหลือตัวเองตลอด ทำอะไรเอง ไปไหนก็ไปคนเดียว ตรงนี้ทำให้เราแกร่งขึ้นค่ะ"

          แม้ทางบ้านจะมีฐานะ แต่เมื่อโอกาสมาหาแล้วเอมี่จึงไม่ปล่อยให้หลุดมือ หลังได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 แล้ว งานแสดงก็เริ่มมี เข้ามือ

          เอมี่ : ถ้าทิ้งมันไปก็ถือว่าเสียโอกาสไปเปล่าๆ พอได้มาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตรงนี้ถือว่าได้เปรียบคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าช่วงชีวิตวัยรุ่นจะหายไป อย่างเพื่อนๆ ได้เที่ยวแต่เราเป็นคนไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้วค่ะ"

          ส่วนเรื่องการเรียนนั้น ดาราสาวก็ไม่ทิ้ง "ตอนนี้เรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ (ม.รังสิต) ค่ะ เพิ่งโอนย้ายจากศิลปศาสตร์มาเรียนคณะนี้ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหนื่อยเหมือนกัน แต่ผลการเรียนออกมาก็ใช้ได้ เอมี่อยากเรียนควบคู่กับการทำงานไปด้วยค่ะ"

          เรียนด้วยทำงานด้วย ดาราสาวมีต้นแบบมาจากดารารุ่นพี่ "มีรุ่นพี่ ๆ หลายคนที่เอมี่เอาเป็นแบบอย่าง อย่างพี่ยุ้ย-จีรนันท์ หรือ พี่เชียร์-ฑิฆัมพร ซึ่งเขาทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ตอนนี้เขาเรียนใกล้จบแล้ว มันน่าภูมิใจค่ะ"

          อีกไม่นาน ดาราสาว "เอมี่" ก็จะเรียนจบและได้ภูมิใจเหมือนรุ่นพี่แล้ว

สเป๊กหนุ่มเข้มแบบไทย




          "เอมี่ชอบผู้ชายสไตล์พี่ป๋อ(ณัฐวุฒิ สกิดใจ) เข้มๆ ไทยๆ ค่ะ" สาว "เอมี่-อาเมเรีย" เผย เมื่อถูกถามเรื่องสเป๊กหนุ่ม

          จากนั้นก็ปฏิเสธข่าวกับหนุ่มๆ ไม่ว่าจะเป็น "เนส"ธนดล นิลนพรัตน์ หรือ "อิ๊กคิว"พีระพล เสนาคุณ โดยแจงเป็นรายๆ ให้ฟัง

          เอมี่ : พี่เนสเป็นเหมือนพี่ชาย เป็นคนใต้เหมือนกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่เนส กับพี่เนสไม่ถึงขั้นเป็นแฟนค่ะ ส่วนอิ๊กคิวนี่ไม่ใช่เลย รู้จักเขาตั้งแต่เล่นหนังเดอะ กิ๊ก จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาเห็นเอมี่เหมือนน้องค่ะ"

แล้วกับหนุ่ม "บอย-โชคชัย" (บุญวรเมธี) ที่ว่าขึ้นคอนโดฯ เขาล่ะ

          เอมี่ : ข่าวกับบอยไม่ใช่ความจริงค่ะ เคยคุยกับบอยนานมากแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้น 2 ปีที่แล้วมาพูดใหม่ ทำให้เสียความรู้สึกมาก อยู่ ๆ ก็มีข่าวว่าเขาคบกับเรา ทั้งที่เราไม่ได้อะไรกับเขาเลย ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น

          ตอนนี้เอมี่โตเป็นสาว เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เรื่องหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบนั้น เธอปฏิเสธ "ไม่มีเลยค่ะ ไม่ได้ปิดตัวเองนะคะ ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ถ้ามีมันก็มี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ดิ้นรนไขว่คว้าค่ะ"

          ส่วนสเป๊ก เอมี่สำทับอีกครั้งว่า "ต้องคมเข้มเหมือนพี่ป๋อ และต้องเข้าใจตัวเรา เวลามีอะไรก็คุยกันด้วยเหตุผล ส่วนเรื่องนิสัยถึงจะไม่ดี แต่เวลามาคบกันแล้วปรับเข้าหากันคนละครึ่งก็น่าจะได้ค่ะ"

          และแน่นอนว่า หนุ่มทุกคนที่เข้ามานั้น ต้องผ่านการสกรีนจากคุณพ่อ คุณแม่

          แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอว่า "เอมี่ว่าเรารักใคร คุณพ่อคุณแม่ก็รักด้วยอยู่แล้วค่ะ"


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ใช้สติตั้งรับข่าวลบ เอมี่ อาเมเรีย แกร่งมีภูมิคุ้มกัน อัปเดตล่าสุด 15 พฤศจิกายน 2552 เวลา 16:17:37
TOP