
เปิดเรื่องฉาว รักร้าว มือที่สาม วงการกีฬา (ไทยรัฐ)
กลายเป็นข่าวครึกโครมและอยู่ในความสนใจของเหล่าแฟนกีฬาทั่วโลก ที่ไม่เฉพาะแต่ในวงการกอล์ฟเท่านั้น สำหรับอุบัติเหตุรถชนต้นไม้และท่อปั้มน้ำดับเพลิง ของ "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ ยอดนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก ชาวสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
แค่อุบัติเหตุในครั้งนี้ ก็แทบจะช็อกอารมณ์พออยู่แล้ว แต่นี่ดันมีข่าวน้ำลดตอผุดออกมาอีกว่า สาเหตุของเหตุการณ์นี้ มาจากความร้าวฉานในครอบครัว ซึ่งมีประเด็นพัวพันเรื่อง "ชู้สาว" ซึ่งแน่นอน ยิ่งเพิ่มดีกรี ความอยากรู้อยากเห็นของบรรดาสื่อมวลชนและคนทั่วโลกอย่างแน่นอน

ไทเกอร์ วูดส์, ลูกสาว และ อิลิน ภรรยา
ก็ใครจะเป็นคิดละว่า ไทเกอร์ วูดส์ ซึ่งมีภาพลักษณ์ภายนอก ออกจะเป็น "มิสเตอร์ไนซ์กายและแฟมิลีแมน" ขนาดนี้ จะหาญกล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมเช่นนี้ได้ หลังมีข่าวลือออกมาแฉว่า วูดส์ แอบไปทำกุ๊กๆ กิ๊กๆ อยู่กับ "ราเชล อูชิเทล" สาวโฮสเตสสุดเอ็กซ์แห่งนิวยอร์ก
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องรอดูกันต่อไป อย่างไรดี กรณีของ ไทเกอร์ วูดส์ ในครั้งนี้ ทำให้นึกถึงเรื่องราว "ฉาวโฉ่ กิ๊กโผล่ มือที่สาม" ในวงการกีฬา ซึ่งก็มีเป็นบทเรียนกันให้เห็นมานักต่อนัก

ราเชล อูชิเอล ต้นตอของเรื่อง
ที่ยังประคองรักกันไปได้ก็ถือว่าโชคดี แต่ที่ต้องเซย์กู๊ดบายแยกทางกันไปก็มีไม่น้อยเช่นกัน ดังนั้น วันนี้ "ทีมข่าวกีฬาไทยรัฐออนไลน์" จึงขอนำประเด็นเหล่านี้ มาได้ได้อ่านกัน...
คนแรกก็คงไม่พ้นชื่อของ "เดวิด เบคแฮม" นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอังกฤษของสโมสรลอสแองเจลลิส กาแล็กซี ที่ตกเป็นข่าวกับหญิงสาวมาโดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเจ้าตัวจะมีภาพลักษณ์สุดยอดแฟมิลีแมนของลูกชายทั้ง 3 คนก็ตาม

มากันเป็นโขยง ภาพที่เห็นกันชินตาของครอบครัว เบคแฮม
เพราะหน้าตาที่หล่อเหลา รูปร่างเร้าใจซะขนาดนี้ ก็คงไม่แปลกที่ เบคแฮม จะกลายเป็นเนื้ออันโอชะ ของเหล่าบรรดาชะนี เสือ สิงห์ กระทิงแรดทั้งหลาย ที่อยากจะได้ไปลิ้มรส และที่ตกเป็นข่าวดังครึกโครมไม่น้อยก็เมื่อตอนที่ เบคแฮม ย้ายไปค้าแข้งในสเปน กับ เรอัล มาดริด เมื่อ 6 ปีก่อน
"รีเบคกา ลูส์" เธอคนนี้ ทำให้ "เดวิด" ต้องตกอยู่ในสถานะกระอักกระอ่วน กลายเป็นสามีนอกจากของ "เจ๊วิคตอเรีย" ภรรยาสุดไฮไซของเดวิด หลังจากออกมาเผยว่า เธอแอบมีสัมผัสสวาทกับ มิดฟิลด์เท้าชั่งเท้ารายนี้ สมัยที่อาศัยอยู่ที่สเปน
ต้องยอมรับว่า ลูส์ ซี่งเคยเป็นอดีตผู้ช่วยส่วนตัว และล่ามแปลภาษาสเปนให้กับ เบคแฮม ทำให้ชีวิตสมรสของ อดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ส่อถึงขั้นเตียงหักไม่เป็นชิ้นดี แถมชีก็ยังแอบแรงกัดจิกไปถึง "เจ๊วิค" ว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้เสน่ห์ที่สุดในโลกอีกต่างหาก

รีเบคกา ลูส์ เกือบทำให้พี่เบคส์เตียงหักมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทั้งเดวิด และ วิตอเรีย ก็สามารถผ่านความยากลำบากนั้นมาได้ พร้อมกลับมาสมานแผลใจและกลับมาใช้ชีวิตครอบครัวผัวเดียวเมียเดียวกันได้อีกครั้ง ก่อนอพยพไปใช้ชีวิตกันที่แอลเอ แต่ก็ไม่รู้ว่า เหตุการณ์ฉาวโฉ่ในครั้งนั้น จะยังเป็นจุดใต้ดำตอในครอบครัว "เบคแฮม" อยู่ต่อไปอีกหรือไม่
ในขณะที่ ชีวิตรักของ เบคแฮม สามารถกลับมาปะติดปะต่อเดินหน้าต่อไปได้ แต่ครอบครัวของ "เธียร์รี อองรี" ดาวยิงฝรั่งเศสของ บาร์เซโลนา กลับไม่สมหวังเช่นนั้น โดยชีวิตรักของเขากับภรรยาสาวสวย "แคลร์" มีอันต้องลงเอยด้วยการฟ้องหย่า
สาเหตุก็ไม่พ้นเรื่องกิ๊กที่มีกระแสข่าวออกมาแฉว่า อดีตกองหน้าอาร์เซนอล แอบไปติดพันสาวเจ้าช่างแต่งหน้าชื่อดังในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นามว่า "แซดี้ ฮิวเล็ตต์" ซึ่งทั้งสองเคยออกเดทกันหลังจากมีโอกาสได้ร่วมงานในงานถ่ายโฆษณา

เธียร์รี อองรี กับ แคร์ (ซ้าย), ตัวการความร้าวฉาน "แซดี้ ฮิวเล็ตต์" (ขวา)
นอกจากนั้น ทั้งสองคนยังได้ส่งข้อความในเชิงวาบหวามหากันทางโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่ภรรยาของ "หนุ่มห้อย" จะพบข้อความเหล่านั้น และโทรศัพท์ไปหา แซดี้ จนเกิดมีปากเสียงกับสามี ก่อนที่ อองรี จะตัดสินใจทิ้งครอบครัวไปใช้ชีวิตใหม่อยู่ที่สเปน กับ สโมสร "เจ้าบุญทุ่ม" ในที่สุด
คู่นี้ต้องปิดฉากด้วยการเลิกลากันไปเช่นกัน โดย มหาเศรษฐีหนุ่มชาวรัสเซีย เจ้าของสโมสร เชลซี "โรมัน อับราโมวิช" ที่ตัดสินใจหย่าขาดจาก"อิรินา" ภรรยาที่อยู่กินกันมากว่า 15 ปี และมีลูกด้วยกันถึง 5 คน ซึ่งเหตุก็มาจาก "เสี่ยหมี่" ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นางแบบสาวชาวรัสเซีย นามว่า "ดาเรีย ซูร์โกวา" วัย 28 ปี

รักวุ่นๆ ของ "เสี่ยหมี่"
ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกทางกันอย่างถาวรนั้น มีรายงานข่าวโหมกระพืออย่างต่อเนื่องว่า มีผู้พบเห็น อับราโมวิช เดินทางไปจู๋จี๋ดู๋ดี๋ กับ ซูร์โกวา ซึ่งเคยเป็นอดีตแฟนสาวของ "มารัต ซาฟิน" อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวรัสเซีย อยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงฤดูไม้ใบผลิ เมื่อ 2 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ซูร์โกวา ก็กำลังตัั้งครรภ์ ลูกคนแรกของเธอ และคนที่ 6 ของ อับราโมวิช อยู่
ถัดมาเป็นรายของ "เดอะ สเปเชียล วัน" โชเซ่ มูรินโญ ยอดกุนซือชาวโปรตุเกส ซึ่งปัจจุบัน คุมทีม "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ในศึกกัลโช เซเรีย เอ อิตาลี รายนี้ ก็ไม่แคล้วโดนแฉเหมือนกันว่า สาเหตุที่โดนฟ้องหย่า ก็อันเนื่องมาจากไปแอบนอกใจภรรยานั้นเอง

เมื่อยามรักยังหวานชื่น "จ่ามู" กับภรรยา
"มาทิลเด หรือ ทามี" ภรรยาที่อยู่กินข้าวหม้อเดียวกันมานานถึง 20 กว่าปี หลังจากแต่งงานกันในปี 1989 และมีลูกด้วยกัน 2 คน ตัดสินใจเด็ดขาด ฟ้องหย่า มูรินโญ เนื่องจากรับไม่ได้ที่มีสาวอิตาเลียน เข้ามาพัวพันเชิงชู้สาวกับ อดีตบอสใหญ่ของ ปอร์โต และ เชลซี
มีรายงานว่า หญิงสาวนางนี้ คือ "เอลิซาเบ็ตตา คานนาลิส" เป็นนางแบบ และพิธีกร รายการชื่อดัง อายุ 30 ปี ซึ่งเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับ "ดิดิเยร์ ดร็อบา", "เรจินัลโด" นักเตะปาร์มา และ "คริสเตียน วิเอรี" อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี มาก่อนหน้านี้ด้วย

เอลิซาเบ็ตตา คานนาลิส ก็เอ็กซ์ซะขนาดนี้ เฮียมูถึงไขว้เขว
คู่สุดท้าย เรียกได้ว่าแทบจะเป็นคู่ซุปเปอร์สตาร์ของวงการกีฬาอังกฤษ ด้วยความที่เป็นคนดังทั้งคู่ นั่นคือ "แอชลีย์ โคล" นักเตะกองหลังทีมชาติอังกฤษของ "สิงห์บลูส์" เชลซี กับ "เชอรีล โคล" หรือ ชื่อเดิม "เชอรีล ทวีดี" อดีตนักร้องสาวสุดเอ็กซ์แห่งวงดนตรีหญิง "เกิร์ล อะลาวด์" ของเมืองผู้ดี

แอชลีย์ - เชอรีล โคล คู่รักซุปเปอร์สตาร์
ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด นับตั้งแต่ตัดสินใจร่วมหอลงโรงกันเมื่อปี 2004 เนื่องจาก พ่อหนุ่มโคล ตกเป็นข่าวนอกใจภรรยาแสนสวยของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง และที่ร้ายแรงจนเกือบถึงขั้นแตกหักกัน ก็คงจะเป็นในรายของ "ไอมี วัลตัน" ช่างทำผมแม่ลูกหนึ่ง ที่แฉว่าตนเองเคยมีสัมผัสสวาทกับโคล จนตั้งครรภ์

โฉมหน้าของเธอ ไอมี วัลตัน
สำหรับ ไอมี วัลตัน ไม่ใช่ สาวรายเดียวที่ อดีตแบ็กซ้ายจอมบุกของอาร์เซนอล ซัลโวแล้วทิ้ง ยังมีผู้หญิงอื่นอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อนักเตะหนุ่มรายสุดเจ้าชู้รายนี้ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ปัจจุบันทั้งสองคนก็ยังคงพยายายามสานต่อชีวิตคู่ร่วมกันต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่า หนุ่มโคล จะสร้างเรื่องปวดหัวและปวดใจให้อีกเมื่อไรในอนาคต
เรียกได้ว่า เหตุการณ์รักร้าวในวงการกีฬาที่กล่าวมานี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับคนเดินดินธรรมดาอย่างเรา ๆ แต่อาจจะตกเป็นเป้าง่ายหน่อย เพราะความเป็นคนดัง, ชื่อเสียง, เงินทอง ซึ่งเป็นสิ่งยั่วเย้าให้เผลอเลอทำเรื่องผิดศีลธรรมได้ง่าย
แต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ทุกชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป และพยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการประนีประนอมหันหน้าปรับความเข้าใจกัน หรือ หากมันเกินจะเยียวยาจริงๆ บางที การแยกทาง ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้นก็ได้...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก







