
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก polyplus.co.th
นุ่น ป๋อ ทองเนื้อเก้า พร้อมเด็ก ๆ ที่รับบทวันเฉลิม ร่วมเม้าท์กระจายในรายการ 3 แซบ หลังจากที่กระแส อีลำยอง ทองเนื้อเก้า มาแรงสุด ๆ
เวลานี้คงไม่มีละครเรื่องไหนกระแสแรงเท่า "ทองเนื้อเก้า" อย่างแน่นอน ก็เพราะบท อีลำยอง เรียกว่าได้แซบสุด ๆ ไม่ว่าจะออนแอร์คืนไหนเป็นต้องได้เสียงก่นด่าจากแฟนละครในโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างมากทีเดียว และล่าสุดเมื่อค่ำคืนวันที่ 6 พฤศจิกายน 2556 รายการ 3 แซบ จึงไม่รอช้าดึงตัว นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี และ ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ นักแสดงจาก ทองเนื้อเก้า มานั่งเม้าท์เรื่องราวสุดแซบในละครให้ได้ฟังกันค่ะ
โดย นุ่น วรนุช เล่าให้ฟังถึงกระแสของละครว่า กระแสแรงมากถึงขั้นเปลี่ยนชื่อไปแล้ว เวลาไปต่างจังหวัดเด็กปั๊มก็วิ่งมาดูแล้วว่า เนี่ยอีลำยอง ส่วนป๋อก็กล่าวเช่นกันว่า ถูกแฟน ๆ ละครเรียกว่าสันต์บ้าง ขณะที่แม่ก็อินไปกับละครมาก เวลาละครจบก็จะโทรมาหาแล้วถามว่า "ไงล่ะ เจอเข้าแบบนี้แล้วเป็นไง แต่ดีนะตบไปสักฉาดนึง"
ส่วนฉากที่ประทับใจคนดูมาก เห็นทีจะเป็นฉากที่สันต์โยนโถยาดองทิ้งแม่น้ำ ก่อนที่อีลำยองจะกรีดร้อง "ยาดองกู" พร้อมกระโดดน้ำตามไปเอาโถยาดอง ซึ่งฉากดังกล่าวเรียกว่าสร้างเสียงหัวเราะให้คนดูอย่างมากทีเดียวนั้น ซึ่ง นุ่น วรนุช เผยว่า ฉากนี้ใช้เวลาถ่ายทำถึง 4 วัน เพราะตรงนั้นน้ำตื้นกระโดดลงไม่ได้ ไหนจะต้องมีฉากวิ่งลงบันไดซึ่งชันมาก ถกผ้าถุงอีก และเวลาทะเลาะกันบทยาวมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นฉากพิสูจน์ฝีมือเลย เพราะตอนอ่านบทนึกไม่ออกเลยว่าจะเล่นยังไง แต่โชคดีพี่ป๋อเขาส่งอารมณ์มาให้ ก็เลยเล่นไปได้ตามนั้น

ขณะที่ ป๋อ เล่าว่า พอบทยาวเราเล่นช้าไม่ได้ และต้องไล่ระดับอารมณ์ขึ้นไปจนถึงจุดพีคที่ทำให้ต้องทุ่มโถยาดอง ซึ่งเราซ้อมจริงกันมากจนทีมงานถึงกับตบมือให้เลย และตนอินถึงขั้นเอาโหลยาดองไปกระแทกกับระเบียงจนแตก และต้องเปลี่ยนโถใหม่
นอกจากนี้ นุ่น ยังเล่าให้ฟังด้วยว่า ก่อนที่จะรับเล่นบทนี้คิดนานเหมือนกัน เพราะสิ่งที่เด่นของลำยองคือขี้เมา ไม่มีความดีเลย จึงต้องคิดมากหน่อยเพราะตนมีครอบครัวแล้ว จึงปรึกษากับคุณต๊อดซึ่งเขาก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องงาน และมีปรึกษาพี่ป๋อด้วย นอกจากนี้ก็กังวลฉากเลิฟซีนด้วยเหมือนกัน แต่พี่อ๊อฟและพี่แดงเขาบอกให้สบายใจได้ เพราะเขาไม่ได้เน้นตรงนี้ และสามารถทำภาพอย่างอื่นที่คนเข้าใจได้ว่านี่คือฉากเลิฟซีน
ขณะที่ ป๋อ กล่าวด้วยว่า ตนเคยดูเรื่องนี้สมัยเด็ก ๆ และประทับใจเพราะบทดีมาก และอยากเล่นบทลำยองเอง งานนี้พิธีกรเลยให้ป๋อทดสอบบทลำยอง ซึ่งเจ้าตัวก็ใส่จริตเต็มที่พร้อมกับร้องว่า "แอร๊ยยยยย ยาดองกู" เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมในห้องส่งได้อย่างมากทีเดียว นอกจากนี้ ป๋อ เล่าต่ออีกว่า ตอนที่ได้ร่วมงานกับพี่อ๊อฟรู้สึกดีใจมาก เพราะคิดว่าเขาจะต้องถ่ายทอดวิชาการแสดงให้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่เลย เจอวันแรกพี่อ๊อฟถามว่า ป๋อข้าวเหนียวไหม แถมชวนส่องพระอีกต่างหาก แต่ปรมาจารย์เขาต้องเป็นแบบนี้กันครับ คือไม่มีการสอนแบบธรรมดา แต่เขาจะสอนให้เราสัมผัสและรู้สึกได้เอง
ได้ยินมาว่า นุ่น ถึงจะเป็นดารานักแสดงที่ผ่านงานละครมามากมาย แต่พอจะรับบทลำยอง ถึงกับต้องขอเรียนการแสดงเพิ่มจริงหรือไม่นั้น นุ่น กล่าวว่า พี่อ๊อฟ พี่แดง ส่งไปเรียนกับหม่อมน้อย เป็นบุญมากค่ะ หม่อมน้อยได้สอนอะไรหลายอย่างที่ต่างจากคนอื่น โดยที่ไม่ได้สอนว่าตนเล่นเป็นลำยองต้องเล่นแบบนี้ แต่จะให้ทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ให้รู้จักตัวเองและความสามารถของตัวเองก่อน ซึ่งหม่อมน้อยเป็นคนทำให้ตนรู้สึกว่าไม่กลัวกับการจะเล่นบทนี้

ส่วนในบทที่ต้องเป็นโรคซิฟิลิสนั้น ตนก็มีไปเสิร์จหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าโรคเป็นอย่างไร ลักษณะแผลเป็นอย่างไร ซึ่งตอนแต่งนี่เป็นลมเลย โดยครั้งแรกใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ไปตอนท้าย ๆ เพิ่มเป็น 3 ชั่วโมง โดยบทนี้ถือว่าเป็นบทที่ท้าทายที่สุดเท่าที่รับมา เพราะมันเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก ส่วนคุณต๊อดเขาก็บอกว่า ดูเป็นผู้หญิงน่ากลัวแต่เขาก็ชมว่าเป็นละครที่ดี และตนก็ยังขอบคุณเขาอยู่เลยที่ยอมให้ตนเล่นบทนี้
เมื่อถาม ป๋อ ว่าได้ยินมาว่าป๋อได้ร่วมงานกับนักแสดงเด็ก ๆ ในเรื่องเลยทำให้ป๋ออยากมีน้องให้กับน้องภูอีกนั้น ป๋อ ยอมรับว่า มีส่วน เพราะเด็กในกองเยอะมาก ไม่เหมือนกองถ่ายละครเลย แต่เหมือนเนอสเซอรี่มากกว่า และนอกจากนี้หลายการ 3 แซบยังเชิญเด็ก ๆ ทั้ง 3 น้องเมลิค น้องแม็ค และน้องยอร์ช ซึ่งรับบทวันเฉลิมในวัยเด็กมาร่วมพูดคุยในรายการด้วย โดยเด็ก ๆ ยังได้ร้องเพลง คนแรกที่รัก ให้ผู้ชมได้ฟังอย่างน่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ
โดย ป๋อ เผยว่า น้องเมลิคเขาเป็นเด็กที่มหัศจรรย์มากดูเหมือนจะไม่เล่น ไม่เอา แต่พอเข้าฉากบันทึกเทปจริง น้องเขาฉายแววบางอย่างออกมาเลย ซึ่งพี่อ๊อฟก็บอกเลยว่า ไม่ต้องไปอะไรกับเขามาก เดี๋ยวเขาจะเล่นออกมาเอง อย่างฉากที่ตนกับน้องเมลิคไปนั่งรอลำยองที่เพิ่งลงจากรถคุณกวง น้องเมลิคก็มองตามแม่ลำยองไป ก่อนจะหันมามองหน้าตนซึ่งเล่นเป็นพ่อแบบเทคเดียวผ่านเลย

ส่วนน้องแม็ก เล่าว่า พอละครออนแอร์ไปก็มีเพื่อน ๆ มาทักว่าเห็นทีเซอร์แล้วนะ พี่สาวยังหัวเราะเลยว่า โดนพี่นุ่นผลักหัวแรงมาก และมีฉากนึงที่ถูกตีหนัก พอสั่งคัทพี่นุ่นเขาก็บอกว่า "ซอรี่นะ ไอไม่ได้เป็นคนทำ ลำยองเป็นคนทำ" ขณะที่น้องยอร์ชก็โดนตีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะตอนที่แม่ให้ไปขอเงินปู่กับย่า แต่ตนไม่ทำ นอกจากนี้ นุ่น ยังเล่าฉากที่ประทับใจกับเด็ก ๆ ให้ฟังว่า มีฉากนึงที่น้องต้องป้อนข้าวแม่ ซึ่งทุกคนก็จะได้เห็นความรักความผูกพัน ถึงแม้ว่าลำยองจะป่วย แต่เราก็รู้สึกได้ลูกดูแลเรา
ด้านน้องยอร์ชที่เคยผ่านงานแสดงมาแล้ว แต่เมื่อรับบทวันเฉลิมถึงกับออกปากเลยว่าบทหินมากนั้น ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ยากมาก เพราะมีฉากร้องไห้เยอะมาก ซึ่งเวลาจะให้ร้องไห้ ตนจะนึกถึงว่าหากแม่เราเป็นแบบนี้เราจะเป็นแบบไหนก็เลยร้องไห้ได้ ขณะที่ป๋อเสริมอีกว่า มีฉากที่โกนหัวไปด้วยแล้วน้องร้องไห้ไปด้วย ซึ่งตนยังคิดเลยว่า เด็กคนนี้สุดยอด สักพักน้องยอร์ชร้องไห้ใหญ่เลย ทีมงานจึงสั่งคัท ที่ไหนได้เลือดอาบเต็มหัวเลย
สุดท้ายนี้ นุ่นยังทิ้งท้ายด้วยว่า ขอบคุณแฟน ๆ ที่ติดตามละครเรื่องนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้กำกับ คนเขียนบท ทุกคนทำงานแบบเป็นทีมเวิร์คจริง ๆ ทำให้งานออกมาดี และอยากให้ทุกคนได้ดูละครและเอามาสอนในชีวิตจริง สามารถนำมาเป็นข้อคิดสอนลูกหลานได้ ส่วน ป๋อ ฝากเช่นกันว่า ดูละครแล้วย้อนดูตัว คุณพ่อคุณแม่ดูแล้วก็สามารถแนะนำสอนลูกหลานถึงบาปบุญคุณโทษได้ และที่สำคัญคือ ความกตัญญูกตเวทีในที่สุดแล้วจะพบแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิตอย่างแน่นอน












