
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ วีไอพี โพสต์โดย คุณ fantvonline1 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
แหม่ม อลิษา ขจรไชยกุล ในรายการวีไอพี ย้อนหลัง (18 พฤศจิกายน 2556) หญิงหัวใจแกร่ง กับชีวิตที่ต้องสู้และอดทน
หลายคนคงจะทราบข่าวคราวของอดีตนักแสดงชื่อดังอย่าง "แหม่ม อลิษา ขจรไชยกุล" ที่ถึงจุดพลิกผันในชีวิต ต้องเบนเข็มจากอาชีพนักแสดง เนื่องจากปัญหาหนี้สิ้นและสารพัดโรครุมเร้า มาทำอาชีพแม่ค้าตามสั่ง ซึ่งแม้ว่าเธอจะเหนื่อย จะท้อ แต่เพื่อความอยู่รอด เธอก็ยินดีที่จะอดทนและสู้ต่อไปด้วยสองมือสองขาของเธอเอง
ทั้งนี้ รายการวีไอพี (18 พฤศจิกายน 2556) ได้เชิญคุณแหม่มมาพูดคุยถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตว่าอะไรที่ทำให้นักแสดงสาวต้องสิ้นเนื้อประดาตัว จนคิดสั้นฆ่าตัวตายมาแล้ว และอะไรที่เป็นพลังให้เธอลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง..
โดยคุณแหม่ม อลิษา เล่าว่า ตอนนี้เธอเปิดร้านอาหารตามสั่งที่ใต้คอนโด เมืองทองธานี ตึก P2 ซึ่งลูกค้าบางคนก็จะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ บางคนก็ถามไถ่ว่าไม่เล่นละครแล้วเหรอ ส่วนร้านอาหารตามสั่งนี้เพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน เพราะก่อนหน้านี้ได้ลองผิดลองถูกขายอาหารหลายอย่างและก็มาลงตัวที่อาหารตามสั่ง
ถ้าถามว่าขายอาหารเหนื่อยไหม เธอออกปากเลยว่าเหนื่อยมาก เพราะเธอทำเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจ่ายกับข้าว เตรียมของ ทำกับข้าว เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาดร้าน เรียกได้ว่าคนเดียวครบวงจร แต่ตอนนี้ก็เบาลงหน่อยเพราะมีผู้ช่วยมาช่วยแล้ว นอกจากนี้ เธอยังผัดมะกะโรนีให้พิธีกรได้ชิมกันอีกด้วยนะ ซึ่งเธอบอกว่าเมนูมะกะโรนีเป็นเมนูยอดฮิตของร้าน แล้วก็มีข้าวผัดเขียวหวานแห้ง ข้าวผัดไข่ เป็นต้น ส่วนสูตรอาหารเธอได้จากครูพักลักจำจากป้าที่บ้าน ที่เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เวลาทำกับข้าวก็จะเรียกหลานสาวมาช่วยกันเด็ดกะเพราตำน้ำพริก ประกอบกับเป็นคนชอบทำอาหารก็เลยพอมีฝีมืออยู่บ้าง
หากถามถึงจุดเปลี่ยนในชีวิต คุณแหม่ม เล่าให้ฟังว่า ตอนเข้าวงการมาใหม่ ๆ สัญญากับตัวเองเอาไว้เลยว่าจะซื้อบ้านให้ได้ภายในปีแรก และเธอก็ทำสำเร็จ หลังจากนั้นก็มานั่งคิด ๆ ดู เห็นว่าเป็นดาราเงินมันไม่แน่นอน เลยอยากจะจับธุรกิจสักอย่าง จึงมาเปิดกิจการขายของแฮนด์เมด ซึ่งทำไปได้สักพักก็มีเรื่องขัดแย้งกับหุ้นส่วน มีความเห็นไม่ตรงกัน อีกทั้งยังมีโดนพิษเศรษฐกิจฟองสบู่ ทำให้เธอเป็นหนี้เบ็ดเสร็จแล้วก็ประมาณ 10 กว่าล้าน...
เรียกได้ว่าชีวิตของเธอสิ้นเนื้อประดาตัว มีเพียงร่างกายและลมหายใจเท่านั้น บ้านที่ซื้อ อาคารพาณิชย์ ทุกอย่างหายวับไปกับตา เธอก็ยอมล้มทุกอย่าง ตอนนั้นทุกอย่างกลายเป็นศูนย์ และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เมื่อเธอยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ เธอเป็นคนไม่ชอบไปหาหมอ จนกระทั่งปวดบวมตามข้อจนขับรถไม่ได้จึงรู้ว่าตัวเองป่วย นอกจากนี้เธอยังเป็นโรคซึมเศร้าไม่อยากพบเจอหน้าใคร หนำซ้ำยังโยโย่เอฟเฟกต์จากการทานยาลดความอ้วน ทำให้เธอสุขภาพทรุดโทรม


"แหม่มเป็นคนที่ถ้าเวลาไม่ควบคุมน้ำหนัก ก็จะอ้วนง่ายมาก ดาราก็จะต้องตัวผอมบาง แหม่มเลยกินยาลดความอ้วน จนกระทั่งโยโย่ก็ไม่กล้าออกไปไหนเลย กลัวได้ยินใคร ๆ เรียกตัวเองว่าอ้วน มีหลอนถึงขนาดไปดึงแขนถามเขาว่า เธอว่าฉันเหรอ ซึ่งเพื่อนต้องดึงกลับมาแล้วบอกกับแหม่มว่า เธอต้องไปพบจิตแพทย์แล้วล่ะ ส่วนหมอก็บอกว่าถ้าไม่ออกไปเจอผู้คน แหม่มก็จะเป็นบ้าเลย"
คุณแหม่ม กล่าวต่อว่า สุขภาพตอนนี้ก็ยังมีผลพวงจากยาลดน้ำหนัก หมอบอกว่าต้องใช้น้ำส้มสดล้างเอายาออก เพราะเธอกินยาเยอะมาก ทั้งเรื่องสุขภาพ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ประดังประเดเข้ามา ทำให้เธอท้อมาก สิ้นหวังและคิดฆ่าตัวตาย
"เป็นความคิดโง่ ๆ แต่มันก็ไม่น่าโง่นะ คนคนหนึ่งเมื่อเจอทางตัน ตอนนั้นมีเงินเท่าไรก็ซื้อยาหมดเลย ยาทุกชนิดที่กินได้ แล้วก็กินมันเข้าไปทั้งหมด..." คุณแหม่ม กล่าวทั้งน้ำตา
เมื่อคุณแหม่มตัดสินใจกินมันเข้าไปแล้ว เธอเล่าว่า มันเป็นความคิดที่ชั่ววูบ มาเพียงวูบเดียว ตอนนั้นมันรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ และคิดว่าตัวเองไม่รอด แต่พอตื่นขึ้นมาอยู่ในห้องสีขาว พอรู้ว่าตัวเองรอด ก็เลยสัญญากับตัวเองนับจากนี้ไปว่า จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก จะเจออุปสรรค เจออะไรที่หนักหนาก็จะไม่ทำอีก
หลังจากนั้นคุณแหม่มก็ไปเริ่มชีวิตใหม่ที่ จ.ชลบุรี ไปเลี้ยงหลาน สักพักก็มีละครติดต่อมา เธอก็ดีใจ จึงทำเรื่องกับพี่สาวย้ายหลานเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ แต่สุดท้ายละครเรื่องยาวที่เป็นความหวังของคุณแหม่ม ก็ปฏิเสธที่จะให้เธอเล่น คราวนี้ถึงแม้จะผิดหวังแต่ก็ไม่ย่อท้อ พยายามหาทางออกด้วยการจดหนี้ที่น้อยที่สุดไปหาหนี้ที่มากที่สุดแล้วก็ค่อย ๆ ใช้ไปที่ละอย่าง จนในที่สุดก็เห็นว่ายังมีทางรอด...

ต่อมาคุณแหม่มก็ได้เริ่มค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ เริ่มจากทำสลัดส่งตามห้อง ตามคอนโด พอสักพักมันตันก็หันมาทำกับข้าวเป็นแพ็คส่งตามห้อง ต่อมาก็ขายสับประรดภูแล ตามมาด้วยขายขนมหวาน หน้าร้อนก็ขายดีอยู่ พอถึงหน้าหนาวก็ขายไม่ออก เลยหันไปทำข้าวไข่เจียว คราวนี้ก็ลูกค้าก็บอกว่าอยากกินอย่างอื่นบ้าง เลยเริ่มจับอาชีพขายอาหารตามสั่งอย่างที่เห็น
สำหรับรายได้ คุณแหม่มบอกตรง ๆ เลยว่า ไม่พอกับรายจ่าย ไม่ได้กำไรอะไรมากมาย เพราะเงินมันหมุนทุกวัน อย่างบางอย่างถ้าเธออยากได้ก็ต้องเก็บเงินซื้อเป็นเดือน ๆ เลยทีเดียว ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรไปกับความสุขของตัวเอง เอาเงินไปใช้หนี้หมด อาศัยความประหยัดอย่างเดียว
คุณแหม่ม กล่าวต่อว่า ทำอะไรเดิม ๆ ทุกวัน ๆ มันก็ท้อ เพราะต้องตื่นตีสี บางวันมันก็ลุกไม่ไหว นอนร้องไห้ก็มี แต่ก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง ในเมื่อเราตื่นมาลืมตาได้ เราก็ต้องสู้ต่อไป..ตายก็ฝังยังก็ต้องสู้
อนาคตหลังจากนี้คุณแหม่ม กล่าวว่า อยากเก็บเงินสักก้อนหนึ่งไปซื้อบ้านเล็ก ๆ อยู่ที่ศรีราชา ส่วนอาชีพก็ขายอาหารตามสั่งต่อไป สำหรับงานแสดงก็ยังรับอยู่ และตอนนี้ก็มีเข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว (ยิ้ม)
ท้ายนี้ คุณแหม่ม กล่าวให้กำลังใจกับคนที่สิ้นหวัง คนที่หมดกำลังใจว่า.. "เรื่องราวของแหม่มเองคงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลาย ๆ คน ส่วนที่ดี ๆ ในเรื่องของความอดทนก็อยากให้เอาไปเป็นแบบอย่าง ส่วนในส่วนที่ไม่ดีก็อย่าเอาอย่าง ไม่ว่าจะทุกข์หรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง และอยู่กับคำว่าสู้กับอดทนให้ได้ แล้วเราก็จะสามารถก้าวผ่านทุกอย่างได้สำเร็จ ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง"
อย่างไรก็ดี กระปุกดอทคอมขอปรบมือให้กับหญิงแกร่งคนนี้ดัง ๆ ในความอดทนและสู้ชีวิต ส่วนใครที่แวะไปแถวเมืองทองธานี ก็อย่าลืมไปทักทายและอุดหนุนกับข้าวของเธอได้นะคะ ^ ^




คลิป VIP วีไอพี (แหม่ม-อลิษา ขจรไชยกุล) วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ช่วงที่ 2/4 โพสต์โดย คุณ fantvonline1 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
คลิป VIP วีไอพี (แหม่ม-อลิษา ขจรไชยกุล) วันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ช่วงที่ 3/4 โพสต์โดย คุณ fantvonline1 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม






