
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก วู้ดดี้เกิดมาคุย
หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ หมอเคท เจ้าของ ของขวัญคลินิก ในรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย 24 พ.ย. 56 ประวัติหมอของขวัญ หมอที่แรงที่สุดในขณะนี้
เรียกได้ว่าเป็นแพทย์หญิงที่แซบที่สุด มั่นใจที่สุด และเปรี้ยวที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้ สำหรับคุณหมอร่างเล็กกะทัดรัด หน้าตาสวยคมอย่าง "หมอของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์" หรือ "หมอเคท" ซึ่งหลายคนคงรู้จักตัวตนของเธอเกี่ยวกับความประสบความสำเร็จในการธุรกิจความงามกันมาบ้างแล้ว... ทางรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย (24 พฤศจิกายน 2556) ก็ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับหมอของขวัญกับมุมมองเกี่ยวกับชีวิตคู่ แถมยังนำสาวไซส์เอ็กซ์แอลมาให้หมอของขวัญแปลงโฉมให้สวยใสภาย 2 สัปดาห์... โจทย์ยากขนาดนี้ ไปพิสูจน์กันเลยดีกว่า ว่าหมอของขวัญคนสวยคนนี้จะทำสำเร็จหรือไม่...
เริ่มต้นรายการด้วยเสียงดังฟังชัดของหมอของขวัญ ที่เธอพูดอย่างมั่นใจว่า เธอสามารถทำรายได้สูงถึง 10 ล้านบาท ภายใน 8 เดือนเท่านั้น ส่วนคนที่ชอบบอกว่าเธอดีแต่แต่งตัวสวย ๆ นั้น ถ้าไม่มีสมองคงทำเงินไม่ได้เท่านี้... งานนี้พิธีกรอย่าง วู้ดดี้ ถึงกับยิ้มและบอกว่าชอบหมอของขวัญมาก ๆ เพราะมีอะไรที่เหมือนกันโดยเฉพาะความเว่อร์ !!

ต่อจากนั้นวู้ดดี้ก็ถามหมอของขวัญว่า มีแฟนไหม ? หมอของขวัญตอบสวนกลับอย่างอารมณ์ดีว่าจะจีบเหรอ โดยเธอเผยว่าตั้งแต่อายุ 15 เธอมีแฟนมาตลอด แต่ถ้าถามว่าจะแต่งงานหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่อยากแต่ง เพราะยังไม่อยากมีลูก ซึ่งเธออธิบายต่อว่า ไม่ว่าเป็นเพราะเธอเห็นผู้ชายเป็นผู้ที่ปั๊มลูกอย่างเดียว แต่แต่งงานมันเป็นการผูกพันกันอย่างหนึ่ง การที่เราตกลงจะคบกันนั้นก็ไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยการแต่งงานเสมอไป เพราะแต่งแล้วหย่าก็มีเยอะแยะ ถ้าถามว่าเธอซีเรียสไหม ถ้ามีลูกแต่ไม่ได้แต่งงาน เธอก็ไม่ซีเรียส แต่เธอก็ต้องแคร์ครอบครัวของเธอบ้าง
พูดคุยเกี่ยวกับมุมมองความรักกันไปพอสมควร ทางรายการก็ได้ให้โจทย์หมอของขวัญแปลงโฉมสาวไซส์เอ็กซ์แอลอย่าง "น้องปุ๊กปิ๊ก" ให้ดูสวยขึ้นโดยไม่ต้องขึ้นเขียงผ่าตัดสักขั้นตอนเดียว
โดยหมอของขวัญบอกว่า โจทย์นี้ถือว่าโหดพอสมควร เนื่องจากน้องปุ๊กปิ๊กเป็นคนที่ร่างใหญ่ มีเหนียง มีไขมัน บวกกับเวลาที่ให้แปลงโฉมมีเพียงสั้น ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น เธอเลยต้องใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุด โดยเริ่มจากปรับโครงการแนวขากรรไกร ทำวีเชฟให้เด่นขึ้น กำจัดคางสองชั้น กำจัดแก้ม และต้นแขนของน้องปุ๊กปิ๊ก
ส่วนน้องปุ๊กปิ๊ก เผยว่า ก่อนที่จะแปลงโฉมก็อยากรู้ว่าตัวเองทำออกมาแล้วเป็นอย่างไร ถ้าถามว่ากลัวไหมก็มีบ้าง แต่มั่นใจว่าหมอของขวัญทำได้อย่างแน่นอน

สำหรับการเนรมิตความงามน้องปุ๊กปิ๊กด้วยฝีมือของหมอของขวัญ เธอระบุว่า อันดับแรกที่เป็นอุปสรรคก็คือเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ส่วนน้องปุ๊กปิ๊กเป็นผู้หญิงรูปหน้าไข่แต่เป็นไข่แนวนอน มีคางสองชั้น รอยแผลเป็นจากสิวค่อนข้างเยอะ และเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลได้ชัด เธอเลยต้องยิงเลเซอร์จากข้างในผิวออกมาทั้งหมด
เมื่อวู้ดดี้ถามว่าอันตรายหรือไม่ หมอของขวัญตอบว่า หมอทุกคนต้องเป็นหมอไปจนวันตาย ไม่ว่าอันตรายใด ๆ หมอคิดล่วงหน้าก่อนคนไข้ 1 สเต็ปอยู่แล้ว ซึ่งไม่มีใครเขาจะแลกอาชีพกับเงินเล็ก ๆ ตรงนี้ เพราะความปลอดภัยของคนไข้สำคัญที่สุด แต่ทั้งนี้ ความปลอดภัยก็ต้องมาพร้อมกับราคา ส่วนนวัตกรรมที่ได้ทำให้น้องปุ๊กปิ๊กเป็นนวัตกรรมที่ไฮโซที่สุดแล้ว.. และหลังจากเหนียงคางสองชั้นเริ่มกระชับ สิ่งที่ทำต่อมาคือการดูดไขมัน ซึ่งตรงช่วงต้นแขนของน้องปุ๊กปิ๊กมีไขมันเยอะมาก เธอสามารถดูออกมาได้เกือบ 4 ลิตร ลองคิดดูว่าโค้ก 4 ลิตรมันเยอะขนาดไหน ถ้าถามว่าการดูดไขมันที่เป็นข่าวว่าอันตรายนั้น เธอก็ต้องบอกว่าอันตรายและความเสี่ยงมันก็มีด้วยกัน หมอผ่าไส้ติ่งตายมันก็มี แต่ถ้าทำกับหมอฝีมือดี เทคโนโลยีดี อันตรายก็จะมีน้อยถึงน้อยที่สุด

หลังจากนั้นทางวู้ดดี้ก็ได้เผยโฉมน้องปุ๊กปิ๊ก จากผู้หญิงร่างใหญ่ ตอนนี้ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงผอม แต่ก็ดูกระชับขึ้น ดูบางขึ้นกว่าเก่าอย่างเห็นได้ชัด โดยน้องปุ๊กปิ๊กเผยว่า ก่อนหน้านี้ไปไหนก็มีแต่คนเรียกว่าช้างน้ำ ๆ ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ช้างน้อย ซึ่งเมื่อก่อนยอมรับเลยว่าหนักใจกับความอ้วนของตัวเองจนขนาดไม่อยากจะส่องกระจก แล้วด้วยความที่เป็นคนต้นแขนใหญ่ ใส่เสื้อผ้าอะไรก็มักจะยัดแขนไม่เข้า ต้องแต่งตัวแก่ ๆ เสมอ พอมาทำกับหมอของขวัญแฟนก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น ตอนนี้แฟนสามารถโอบเอวได้แล้ว (หัวเราะ)
นอกจากนี้ วู้ดดี้ยังถามหมอของขวัญต่อว่า ไขมันที่เหลือจะสามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง เธอตอบว่า ไขมันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ซึ่งตอนนี้เขานิยมนำไขมันไปฉีดที่หน้าอกผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงไทยที่ส่วนมากมักไม่มีหน้าอก แถมผู้ชายก็ไม่ชอบให้ไปศัลยกรรม เราจึงมีนวัตกรรมที่จับไขมันตรงนั้นย้ายที่ไปอยู่ในที่แห่งใหม่ ซึ่งคอนเซ็ปต์การคิดค้นนวัตกรรมของเธอก็คือ ทำอย่างไรให้เห็นผลได้ชัด บวมน้อย แต่งหน้าได้เลย ทิ้งหลักฐานไว้ให้น้อยที่สุด ถ้าเป็นสมัยก่อนศัลยกรรมเสริมหน้าอกคงเป็นแผลเป็นใหญ่ แต่นวัตกรรมนี้ก็จะเป็นแผลเป็นเหมือนรูเข็มตอนบริจาคเลือดเท่านั้น หรือการดูดไขมัน ก็จะเป็นแผลเป็นเพียงแค่จุดไม้ขีดไฟ ซึ่งดูไม่ออกหรอกว่าเป็นแผลอะไร มองเผิน ๆ อาจจะเป็นแผลจากยุงกัดก็ได้
อย่างไรก็ดี หมอของขวัญ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า เธอพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด อะไรที่ไม่ใช่เราก็จะไม่ใช้กับคนอื่น ส่วนราคานั้นของดีไม่มีถูก ของฟรีไม่มีในโลก ก็แล้วแต่บุคคลที่จะพิจารณาเลือก ท้ายนี้.. ถ้าหากให้เธอนิยามตัวตนของเธอเอง เธอขอใช้คำว่า "อิดิเพนเด้นเกิร์ล" เพราะเธอเป็นคนที่ไม่อยู่ในกรอบ ชัดเจน มั่นใจ ตรงไปตรงมาที่สุด