เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการตีสิบ โพสต์โดย คุณ ThaiTV19 HD สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, Instagram yorch_yongsin, nuneworanuch
ตีสิบ ย้อนหลัง 26 พฤศจิกายน 2556 พูดคุยกับนักแสดง ทองเนื้อเก้า ลำยอง-วันเฉลิม และผู้กำกับ ถึงกระแสตอบรับของละครเรื่องนี้
กระแสตอบรับดีเยี่ยมเลยล่ะ สำหรับละครสุดฮอตอย่าง "ทองเนื้อเก้า" ที่เพิ่งปิดฉากชีวิตลำยอง รวมถึงบทสรุปของตัวละครต่าง ๆ ไปเมื่อวันจันทร์ (25 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา งานนี้แฟนละครก็ออกปากชมผู้กำกับ ทีมงาน และนักแสดงกันไม่ขาดปาก ก็แหม..ละครเรื่องนี้ นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังได้แง่คิดดี ๆ แถมยังมีบทซึ้ง ๆ ให้เช็ดน้ำตากันหลายต่อหลายฉาก ส่วนเมื่อค่ำคืนวันที่ 26 พฤศจิกายน ทางรายการตีสิบ ก็ขอเชิญ นุ่น วรนุช น้องยอร์ช และผู้กำกับมาพูดคุยกับละครเรื่องนี้ปิดท้ายกันสักเล็กน้อย
เริ่มต้นรายการด้วยซีนเล็ก ๆ ของการประชันบทบาทระหว่างลำยองกับวันเฉลิม ซึ่งสาวนุ่น ก็โชว์ฝีมือการแสดงได้อย่างดีเลยทีเดียว เรียกเสียงปรบมือทั่วห้องส่ง โดยสาวนุ่นก็ได้กล่าวถึงกระแสตอบรับของละครเรื่องนี้ว่า ดีเกินคาด..และเธอรู้สึกชื่นใจกับผลตอบรับมาก ๆ เมื่อถามว่าเพราะอะไรละครเรื่องนี้ถึงเป็นละครแห่งปีอย่างแท้จริง เธอตอบว่า เพราะละครเรื่องนี้เหมือนกับชีวิตจริงมาก ๆ ตัวละครไม่ได้เด่นเพียงคนสองคน แต่ทุกคนมีความสำคัญหมด เหมือนชีวิตคนจริง ๆ
ส่วนเรื่องที่สอนคุณผู้ชมอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็คือวิธีการเลี้ยงลูก โดยนุ่นเผยว่า ตอนเธอเป็นวัยรุ่น พ่อแม่ก็ไม่สามารถคอนโทรลเธอได้ แต่สิ่งที่เธอได้จากพ่อแม่ก็คือการอบรมเลี้ยงดูที่ดี ถึงแม้ว่าบ้านเธอจะไม่ร่ำรวยอะไร แต่การเลี้ยงดูแบบอบอุ่นก็ทำให้เธอมีความสุข แต่ถ้าเลี้ยงลูกแบบยายแล ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีอย่างลำยอง
..นอกจากลำยองแล้ว ตัวละครที่ทำให้คุณผู้ชมต้องยกนิ้วให้ นั่นก็คือ "น้องยอร์ช" ผู้รับบทวันเฉลิมรุ่นที่ 3 ซึ่งน้องยอร์ช เล่าว่า ที่ผ่านมาตนเล่นซิทคอมมา 2 เรื่อง เรื่องนี้เป็นละครยาวเรื่องแรก และตอนนี้ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนเรียกว่า "วันเฉลิม" บ้างก็แซวว่า วันนี้ซักผ้าให้แม่หรือยัง
ด้านนุ่นก็ออกปากชมน้องยอร์ชเช่นกัน โดยบอกว่า ยอร์ชเป็นเด็กที่ไม่ต้องให้รอ ไม่มีแบบต้องรอให้ยอร์ชทำอารมณ์ก่อน พอถึงเวลายอร์ชทำได้เลย อีกทั้งอินเนอร์เขาดีมาก แสดงออกทางด้านสีหน้าและแววตาได้ดีสุด ๆ ยิ่งฉากแม่โป๊ต้องเอาจีวรมาคลุมนั้น ทำเอาเรียกน้ำตาทั้งในจอและนอกจอเลยทีเดียว
สำหรับกระแสตอบรับที่นอกเหนือจากตัวละครแล้ว แฟชั่นของลำยองก็ยังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก มีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยที่ขอแต่งตัวเหมือนลำยองถ่ายรูปอัพโชว์ในเฟซบุ๊ก แถมยังกอดขวดยาดองด้วย ซึ่งแต่ละคนก็แต่งซะเหมือนลำยองจริง ๆ บ้างเรียกตัวเองว่า ลำเค็ญ ลำบาก ลำใย อีกทั้งยังเต๊ะท่าแหกแข้งแหกขาให้เหมือนท่านั่งลำยองกันเป็นแถว
สาวนุ่นยังเผยอีกว่า ตอนนี้ร้อยละ 85 ไม่มีใครเรียกเธอว่านุ่นแล้ว เรียกแต่ลำยอง ๆ ส่วนคุณต๊อด สามี ก็ชมเหมือนกันว่าเล่นได้ดี และละครเรื่องนี้ก็สอนอะไรหลาย ๆ อย่าง เธอต้องขอขอบคุณสามีมาก ๆ ที่อนุญาตให้เล่น เพราะละครเรื่องนี้เป็นละครที่เนื้อหาค่อนข้างแรง มีการยั่วผู้ชาย เธอต้องเกรงใจสามี แต่สามีก็เข้าใจว่าเป็นงาน ก็อนุญาตให้เล่น ซึ่งตอนนี้ไปไหนมาไหนคนก็เรียกคุณต๊อดว่า "ผัวลำยอง" (หัวเราะ)
มาถึงฟากผู้กำกับอย่าง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่บอกว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด ไปไหนมาไหนคนมักจะขอถ่ายรูปและยกนิ้วโป้ง ซึ่งตนต้องบอกเลยว่าเราโชคดีที่ได้ผลิตละครโทรทัศน์เรื่องนี้ และต้องขอบคุณผู้จัดคือ ภรรยาผมเอง ที่จัดการหาตัวแสดงเองทั้งหมด และบทของลำยองก็มาลงตัวที่นุ่น เนื่องจากนุ่นเป็นผู้หญิงที่ตรงบทประพันธ์ที่สุด ใครจะมาบอกว่าลำยองสวยไป ขาวไป มันไม่ใช่ เพราะบทประพันธ์เขาบอกว่า ลำยอง เป็นผู้หญิงที่ผิวขาวเป็นยองใย จมูกโด่งเป็นสัน นัยน์ตาคมคายเชือดเฉือนหัวใจชาย สวยผิดพี่ผิดน้อง สวยที่สุดในตรอกซอย จนยายแลแม่ของลำยองพูดเสมอว่า ลำยองเป็นคนสวยโตขึ้นน่าจะสบายเพราะได้ผัวรวย...
สำหรับประเด็นที่พูดถึงกันมากนั้นก็คือความสมจริง โดยเฉพาะเอฟเฟกต์ของลำยองตอนที่ป่วยเป็นโรคซิฟิลิส ซึ่งจริง ๆ แล้วโรคนี้มีด้วยกัน 4 ระยะ แต่สามารถถ่ายทำได้แค่ 3 ระยะเท่านั้น เพราะระยะแรกลำยองต้องเป็นแผลในร่มผ้า ซึ่งนุ่นก็แสดงระยะที่ 1 ให้ได้ชมกันนะ แต่ไม่รู้จะสังเกตหรือเปล่า ว่าเขาเกา ๆ บริเวณใต้ร่มผ้า
ด้านนุ่นบอกว่า เอฟเฟกต์แต่ละครั้งก็จะเริ่มความน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มแรกเป็นน้อย ก็แต่งหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ 2 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงครึ่ง และขั้นสุดท้ายแต่ง 3 ชั่วโมง คือเธอต้องย้อมสีผิวเพราะเลือดเสีย แผลเป็นก็มีทั้งตุ่ม ทั้งหนอง ทั้งเนื้อหลุด เนื้อตาย ซึ่งสมจริงมาก ๆ
นอกจากนี้ ผู้กำกับยังเล่าอีกว่า เรื่องแต่งหน้าเวลาลำยองสวยก็ต้องแต่งจริง ๆ แต่ตอนนอนก็ต้องแต่งหน้าเหมือนนอนจริง ๆ ล้างเครื่องสำอางหรือแต่งน้อยมาก ส่วนยายแล ยายปั้น ลำยง ลำดวน ก็แต่งตามบทของแต่ละคน ในส่วนของเสื้อผ้าก็จะเซฟให้นักแสดงทุกคน เนื่องจากเป็นผ้าถุง คอกระเช้าที่คอกว้าง เวลานักแสดงเล่นก็จะไม่ได้ดูในส่วนตรงนี้ เราก็ต้องพยายามเซฟให้หมด
เมื่อถามว่า ทีมงานรู้สึกกลัว ๆ นุ่นไหม ผู้กำกับบอกว่า เขารู้สึกเกรงใจมากกว่า โดยเฉพาะฉากกระโดดคลองไปเอายาดอง ซึ่งคลองนั้นน้ำเหม็นมาก แต่นุ่นก็กระโดดลงไป หรือว่าตอนที่ขึ้นมา ซึ่งเป็นการถ่ายทำอีกวัน ทางทีมงานใช้ฟอกกี้ฉีดน้ำที่หน้าให้เหมือนเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ แต่นุ่นเขาเอาน้ำมาราดหัวเลย จะได้ดูสมจริง
มาพูดกันถึงเรื่องบทละครบ้าง อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ กล่าวว่า มีการเปลี่ยนบทพูดตลอดเพราะบทต่าง ๆ มันไปไกลเกินกว่าบทที่มีอยู่ในมือ ซึ่งตนก็จะให้ตัวละครแต่ละคนคิดเองว่าอยากพูดอะไร แบบบางฉากก็ไม่อยากไปบล็อกกิ้ง ใครอยากยืนอยู่ตรงไหนก็ยืน เช่น ฉากขายก๋วยเตี๋ยว ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องขายก๋วยเตี๋ยว ใครจะยืนตรงไหน ลวกเส้น หั่นผัก ก็ตามสบาย ส่วนนุ่นเขาก็จะสวย นั่งทาเล็บเป็นลำยองของเขาไป
อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ กล่าวต่อว่า การถ่ายทำละครเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นละครดราม่า แต่บรรยากาศการถ่ายทำเป็นไปอย่างสนุกสนาน ละครก็คือความบันเทิง เป็นการเอ็นเตอร์เทนคนดูอย่างหนึ่ง ซึ่งคนถ่ายทำจะมาเครียดไม่ได้ ทีมงานของเราทุกคนต้องสนุกกับการทำงาน ต้องไม่เครียด... แต่ก็มีบ้างมีอินกันทั้งกอง ร้องไห้น้ำตาไหลกันหมด แต่ตนไม่ยอมน้ำตาไหลให้ใครเห็น เพราะหนีเดินออกไปไกล ๆ ไม่กล้าดูต่อ (หัวเราะ)
สุดท้ายนี้ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ได้กล่าวขอบคุณบทประพันธ์จากโบตั๋น ขอบคุณ คุณยิ่งยศ ปัญญา บทละครโทรทัศน์ ซึ่งคุณยิ่งยศเคยเขียนตอนทองเนื้อเก้าเวอร์ชั่นแรก เวอร์ชั่นนั้นขอบอกว่า วันเฉลิม หล่อที่สุด เพราะตนเป็นคนเล่นเองเมื่อปี 2530 สำหรับเวอร์ชั่นนี้ ตนได้รับคำสั่งจากนายว่า ละครเป็นละครที่ดำสนิท ตนต้องทำอย่างไรก็ได้ที่ไม่ให้ตัวเนื้อเรื่องดูมืดเกินไป เลยพยายามเกลี่ยสร้างสีสันให้ตัวละครอื่น ๆ จะได้บาลานซ์กันด้วย และที่สำคัญต้องขอบคุณนุ่น วรนุช ที่เล่นเป็นลำยองได้ดำสนิท เพื่อที่จะให้วันเฉลิมเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้าที่สุด นอกจากนี้ ยังขอขอบคุณทีมงานทุกคน รวมไปถึงขอบคุณท่าน ว.วชิรเมธี สำหรับธรรมะดี ๆ ที่สอดแทรกเกือบทุกตอนของละครเรื่องนี้...
**หมายเหตุ : ช่วงสนทนาเริ่มนาทีที่ 40
