นาธาน โอมาน - ชิ อนุชา ลังประเสริฐ
ชิ อดีตผจก.พร้อมให้อภัย นาธาน ปัดเป็นพยานแม่บ้าน (ไทยรัฐ)
ชิ-อนุชา ลังประเสริฐ อดีตผู้จัดการส่วนตัว นาธาน โอมาน มาเปิดใจกับ ไทยรัฐออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นนาธาน ยืนยันพร้อมให้อภัย คนล้มไม่อยากข้าม พร้อมปฏิเสธเป็นพยานให้แม่บ้าน เพราะไม่รู้เห็นเรื่องการทำธุรกรรม
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายอนุชา ลังประเสริฐ หรือชิ ในฐานะคนใกล้ชิดและอดีตผู้จัดการส่วนตัวของ นาธาน โอมาน ได้เดินทางมาเปิดเผยทุกประเด็นร้อนที่ยังเป็นปัญหาคาราคาซังเกี่ยวกับ นาธาน อย่างหมดเปลือกกับ ไทยรัฐออนไลน์
เรื่องที่ชิเป็นพยานได้ ในเรื่องการกู้เงิน
ชิ อนุชา : สำหรับประเด็นแรกที่บอกว่าสามารถเป็นพยานได้ในเรื่องการกู้เงินได้นั้น คือพี่เป็นคนขับรถไปให้ที่อำนาจเจริญ กับพี่เต็ม (นางสมาน สุขเสริม แม่บ้านของนาธาน) จริง แต่ในส่วนของการทำธุรกรรม ทำสัญญา พี่ไม่ได้รับรู้ พอเสร็จธุระ พี่ก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ ให้เท่านั้น ส่วนของเรื่องราวที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ นาธานเขากำลังแก้ไขปัญหากันอยู่ พี่อยากจะขอแก้ข่าวเรื่องที่นาธานจะตั้งทนายขึ้นมา เพื่อฟ้องร้องกลับนั้น ไม่เป็นความจริง เพียงแค่ว่าทนายที่มีอยู่เป็นเพียงตัวแทนที่ไปรับเรื่องเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะต่อสู้คดี ซึ่งทุกอย่างกำลังจะเคลียร์เพื่อให้จบด้วยดี
ทราบข่าวและได้ติดต่อกับนาธาน เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ชิ อนุชา : ส่วนใหญ่นาธานจะเป็นฝ่ายที่ติดต่อมาเองครั้งหนึ่ง แต่จะคุยกับทางแม่มากกว่า ถามสารทุกข์สุขดิบกัน เขาพยายามไกล่เกลี่ย เชื่อว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะจบได้ด้วยดี
ครั้งสุดท้ายที่เจอกันตั้งแต่เมื่อไร
ชิ อนุชา : นานมาก ตั้งแต่ก่อนวันจะแถลงข่าว ที่กลับมาจากเมืองนอกและหลังจากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย แต่ก็มีการส่งข้อความหากันเป็นครั้งคราว ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย
เหตุผลอะไรที่ทำให้ชิและ เอกชัย ศรีวิชัย ประกาศที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาธานอีกต่อไป
ชิ อนุชา : คงเป็นเพราะเรื่องของผลที่เข้ามามันกระทบถึงผลงานของตัวพี่เอกและกับตัวเราด้วยและเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เข้ามาแบบที่เราไม่เคยรู้มาก่อนด้วย จนกลายเป็นจุดที่ทำให้เราเห็นว่าเราคงต้องหยุดในการทำงานร่วมกัน ซึ่งพี่เอกได้ประกาศอย่างชัดเจนไปแล้วว่าขอไม่ร่วมงานด้วยกันอีก
ยังมีประเด็นอะไรอีกบ้างที่ต้องยอมรับและแก้ไข
ชิ อนุชา : ในเรื่องของพี่เต็ม (นางสมาน สุขเสริม) คงต้องไปเคลียร์กัน ให้จบด้วยความสวยงาม เพราะเขาคบกันมานาน รักกันมาก่อน ส่วนอื่นก็จบหมดแล้ว
ส่วนประเด็นอื่น ๆ ล่ะ
ชิ อนุชา : ในส่วนอื่นคงเรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว เพร าะมันถูกพิพากษาทางสังคม ว่าเขาเป็นแบบไหน คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประชาชนสุดแล้วแต่จะตัดสินใจกันว่าจะยังรักเขาหรือไม่รักเขา
จะให้อภัยเข้าได้ไหม
ชิ อนุชา : ในเมื่อถ้าวันนึงเขาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ อนาคตคาดว่าคงจะให้อภัย
รักเขาเหมือนเดิมไหม
ชิ อนุชา : ความรักผมยังมีให้อยู่เพราะเป็นเหมือนน้องเราคนนึง
บาดแผลนี้จะจำไปจนตายไหม
ชิ อนุชา : คงต้องจำกันอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเป็นคนให้โอกาสคน แต่เมื่อเขาเคยผิดพลาดมา เขาล้มเราก็ไม่อยากข้ามหรือไปเหยียบย่ำซ้ำเติม ถ้าเขาแก้ไขและปรับปรุงตัวเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตใหม่และชีวิตเขาดีขึ้นเราก็สามารถที่จะให้อภัยเขาได้ยังเป็นพี่เป็นน้องกันได้เหมือนเดิม อยากให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนในวันข้างหน้าสังคมจะยอมรับเขามากขึ้นบ้างไหมก็สุดแล้วแต่ความพิจารณาของสังคม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก