

บุรินทร์-บูรพา คู่ซ่าส์สไตล์ Funky (กรุงเทพธุรกิจ)
เจาะสไตล์แต่งตัวของพ่อลูกคนดัง บุรินทร์ กรูฟ ไรเดอร์ กับลูกชายจอมซ่า \'น้องบูรพา\' คุณพ่อเผย เจ้าตัวเล็กรักแต่งหล่อ วันไหนไม่เท่มีโมโห
ปลายปี หนาวบ้างไม่หนาวบ้างอย่างนี้ หนึ่งในวงดนตรีที่ขายดีที่สุดวงหนึ่ง คงต้องยกให้ "กรูฟ ไรเดอร์" โดยเฉพาะนักร้องนำที่มีบุคลิกเฉพาะตัว ซึ่งมาพร้อมกับการแต่งตัวที่เท่ห์เหลือร้าย แถมตอนนี้เป็นพ่อของลูกชายวัยสองขวบเศษ คุณพ่อบุรินทร์ และลูก (ชาย) บูรพา บุญวิสุทธิ์ ก็สนุกกับการแต่งตัวกันสุดฤทธิ์
"เวลาแต่งตัวเสร็จ เขาจะชอบวิ่งมาถามว่า เท่มั๊ย ๆ ถ้าไม่เท่จะโมโหมาก" คุณพ่อยังหนุ่ม คุยเรื่องลูกให้ฟังอย่างอารมณ์ดี และแอบนินทาด้วยว่า ถ่ายรูปทีไร ลูกชายตัวน้อยเจ้าของทรงผม เดอะ บีทเทิลส์ (คุณย่าพาไปตัด) จะต้องมาพร้อมกับพร็อพครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นแว่นตา ทรัมเป็ตอันจิ๋ว และรอยยิ้มตาหยี ชนิดไม่มีตาดำ

บุรินทร์ : ปัจจุบันก็จะมีเสื้อเชิ้ต กางเกง เข็มขัด ถุงเท้าซิ่ง ๆ (สีสันแสบ ๆ) คู่หนึ่ง เราแอบฉูดฉาดที่ถุงเท้าเรา ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่เห็น แล้วก็รองเท้าผ้าใบ เพราะตอนนี้เท้าเจ็บ ใส่รองเท้าหนังไม่ได้ กับเแจ๊กเก็ตตัวหนึ่ง แล้วแต่งานด้วยว่าต้องใช้แบบไหน บางทีก็มีผ้าพันคอ แว่นตา หมวกเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ใส่ เพราะเล่นคอนเสิร์ตลำบาก โยก ๆ ก็หลุด ทั้งหมดก็คิดเอง ออกแบบเองครับ (ยิ้ม)
บุรินทร์ : ต่างครับ ต่างมาก ๆ เลย สมัยก่อนสไตลิสต์เขาจะไม่เข้าใจว่าเราแต่งตัวสไตล์ไหน เขาเห็นเราขาว ๆ เกาหลี ๆ เขาก็เอาแบบกุ๊กกิ๊ก ๆ มาให้เราใส่ อย่างกางเกงขาเดปมาก ๆ บางทีมันไม่ใช่ตัวเรา ช่วงแรกใหม่ ๆ เราก็หลวมตัวใส่แบบนั้นไป ตั้งแต่ชุด 2 ผมเป็นสไตลิสต์ให้ตัวเองและให้วง(ยิ้ม) เพราะว่าเราสนุกกับการแต่งตัว มีพร็อพเยอะ
บุรินทร์ : ตอนเด็ก ๆ เป็นคนแต่งตัวเยอะมาก ตอนเด็กก็เน้นเสื้อยืดสีสันสด ๆ กางเกงยีนส์สวย ๆ สักตัว ผ้าใบสีจี๊ดจ๊าด มีสร้อยบ้าง พอช่วงก่อนมาเป็นนักร้อง 5-6 ปี เรียบมากเลย เพราะมันถึงจุดที่ มันอิ่ม ไม่รู้จะแต่งไปให้ใครดู ก่อนมาเป็นนักร้อง ช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่แต่งตัว แต่งสบาย ๆ แต่ยังเน้นที่ถุงเท้า รองเท้าอยู่
บุรินทร์ : ถ้าไม่ทำงานก็เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เสื้อสามสี ดำ น้ำเงิน ขาว มันเป็นสีที่มันง่ายที่สุดแล้ว ใส่ได้กับทุกกาลเทศะ โดยเฉพาะสีดำ ดูแล้วไม่อ้วนด้วย ทำงานหนัก กลับมากินข้าวดึก (จับพุง) กางเกงก็ยีนส์กับลูกฟูก 2 อย่าง ใส่สบายดี แต่ถ้าขึ้นคอนเสิร์ตเราก็มีเพิ่มนิดหนึ่งเพื่อให้โชว์มัน สนุกเต็มรูปแบบ

บุรินทร์ : ผมว่ามันมีส่วน บางที่สิ่งที่เขาไม่ได้ยิน เขาก็เห็นได้จากการแต่งตัวของเรา ความ Funky ของวง เรามัน Funky แค่ไหน บางทีคนอาจจะได้ยินไม่ครบก็แต่งตัวให้ครบ จริง ๆ ผมว่าการแต่งตัวของเรามันรวมจากหลาย ๆ อย่างมากกว่า คือมันมีทั้ง Traditional, conservative แล้วก็สูทธรรมดา แต่เราอาจจะเพิ่มความฟั้งกี้โดยหาผ้าสีสวย ๆ มาเหน็บกระเป๋าข้างหน้า หรือเอาผ้าอะไรสักอย่างมาพันคอ ใส่หมวกแปลก ๆ ใส่แว่นที่มันรับกับหน้าเรา แล้วก็ไม่ต้องไปตามใคร
บุรินทร์ : ไม่จำเป็นว่าเราต้องแต่งตัวตามแฟชั่น ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราเองมากกว่าว่าเรา ชอบแบบไหน ผมว่าแฟชั่นมันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เหมือนดนตรี มันไม่มีอะไรที่ตายตัวแต่มันกลับมาใหม่เรื่อย ๆ ศิลปะมันก็วน ๆ อยู่อย่างนี้
บุรินทร์ : ไม่มีครับ อยากได้ที่ตัวเองชอบมากกว่า คือเห็นแล้วถูกใจใส่ออกมาแล้วดูดี ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์เนม เป็นของธรรมดาที่เราซื้อจตุจักรสวย ๆ ก็มี
บุรินทร์ : ซื้อเองครับ ผมว่าถ้าให้ผู้หญิงแต่งตัวให้ผู้ชาย ผู้หญิงเขาจะมีความน่ารักของความเป็นผู้หญิงอยู่ ซึ่งบางทีมันทำให้ผมรู้สึกเขิน ๆ ใส่แล้วจั๊กจี้ เราก็เลยอยากให้เป็นเราร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็เราก็คอยดูให้เพื่อน ๆ ในวงด้วยว่าอยากให้เป็นยังไง แต่ต้องอยู่ในโทนเดียวกันทั้ง 4 คน ช่วงนี้จะเป็นสูทลาย ๆ
บุรินทร์ : ขอเลือกหมวก Top hat ตอนเด็ก ๆ ชอบดูมายากล เห็นเขาใส่ Top hat แล้วโห.. รู้สึกมันน่าพิศวง มันดูไม่ออกว่ามันจะมีอะไรออกมา อยู่ดี ๆ มีกระต่ายออกมา มีนกออกมา คือมันเป็นหมวกที่เดาใจไม่ออกว่าจะมีอะไร
บุรินทร์ : เสื้อเชิ้ตก็ขาว ฟ้า เบธ ช่วงนี้ก็เข้าออฟฟิศบ้าง แต่เข้าน้อย ส่วนของผมดูงานด้านทราฟิกแพลนนิ่ง และงานอีเวนท์ต่าง ๆ (ยิ้ม)


บุรินทร์ : แพร่ครับ ปกติลูก ๆ คุณแม่จะเป็นคนแต่งตัวให้ แต่บ้านนี้ผมเป็นคนแต่งตัวให้ลูก ลูกแต่งเหมือนผมเลยทุกอย่าง เสื้อยืด กางเกงยีนส์ กางเกงลายสก็อตบ้าง แต่จะต่างกับผมที่เขาไม่ชอบใส่รองเท้าหุ้มส้น เขาจะใส่แตะหนีบตลอด ใส่มาตั้งแต่เริ่มเดินได้จนตอนนี้เลย
บุรินทร์ : เราสนุกครับ เราเห็นเสื้อผ้าเด็ก ๆ แล้วเหมือนเสื้อผ้าผู้ใหญ่ แต่มันตัวเล็ก ๆ มันน่ารักดี เลยแต่งตัวให้ลูก เขาก็ชอบถามว่าตัวนี้เท่หรือยังเนี่ย ถ้าไม่เท่จะโมโหมาก ส่วนใหญ่ให้เขาเลือกเอง ส่วนมากเลือกตัวที่ใส่สบาย ๆ กางเกงจะเป็นกางเกงลายเพราะใส่ได้กับทุกชุด ภรรยาก็ชอบแต่งตัวมาก ชอบกันทั้งบ้าน ก็สนุกดี ผมชอบเรื่องงานดีไซน์ทุกอย่างศิลปะทุกอย่าง อย่างเฟอร์นิเจอร์นี่ก็ชอบ ผมเลือกเองทุกอย่างในบ้าน
บุรินทร์ : ผมแค่สนุกกับมันมากกว่า ถ้าคอสตูมเราสนุก โชว์ของเราก็สนุกมากขึ้น เพื่อนในวงเนี่ยผมใช้เวลา 8 ปี ในการทำให้เขาแต่งตัวได้แบบนี้ เพราะนักดนตรีที่เป็นนักดนตรีจริง ๆ เขาจะไม่ค่อยแต่งตัว จะสบาย ๆ มากกว่า แต่เราต้องทำให้เขาแต่งตัวคือ มันทำให้เขาดูหล่อขึ้น แต่งตัวดี ๆ ใส่เสื้อผ้าที่ดูดีก็ทำให้เขาดูดีขึ้น เพิ่งมาแต่งกัน 2 ปีหลังนี้เอง เขาเห็นว่าทำแล้วดูดี เล่นคอนเสิร์ตแล้วปฏิกิริยาของคนเปลี่ยนไป จากที่มีมากอยู่แล้ว มันมีมากขึ้นไปอีก เรามองวง ๆ หนึ่งเนี่ย ที่ศิลปินโดดเด่นเรื่องเสื้อผ้า เรื่องอื่นเขาก็โดดเด่นด้วย ไม่มีใครแต่งตัวธรรมดา อย่างแอโร่สมิธ มาดอนน่า เดวิด โบวี่ ฯลฯ
ผมคิดว่าศิลปะของเพลงมันถูกต่อยอดด้วยศิลปะของการแต่งตัว มันก็กลายเป็นศิลปะหลาย ๆ อย่างมารวมกันเป็นศิลปะก้อนเดียว ทำให้คนได้อรรถรสมากขึ้น เราก็เลยอยากทำให้มันดีที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก







