x close

Veggie Soup Story

ซุปเด็ก Soup

Veggie Soup Story
(modernmom)

            ถ้าพูดถึงการเริ่มต้นอาหารเสริมของเจ้าตัวเล็กวัย 6 เดือนแล้ว ซุปเป็นอีกเมนูอันดับต้น ๆ ที่เด็ก ๆ คุ้นเคย ยิ่งเมื่อพูดถึงผักแล้วเด็กหลายคนเบือนหน้าหนี จะว่าไปผักมีประโยชน์มหาศาล แต่เด็กกลับไม่ชอบ แบบนี้ต้องใช้ซุปผักเป็นเครื่องมือ สร้างความคุ้นชินให้เด็ก ๆ กันหน่อยแล้ว มาร่วมเปิดตำนานซุปผัก และอีกหลายเรื่องที่คุณยังไม่รู้ แต่ต้องรู้กันดีกว่าค่ะ

ทำไมต้องซุปผัก

            สำหรับเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กวัยที่เริ่มได้รับอาหารเสริมนั้น เป็นช่วงที่เหมาะกับการปลูกฝูงสุขนิสัยในการกิน เช่น กินให้ตรงเวลารู้จักเลือกกินอาหารไม่มัน หมั่นกินผักผลไม้ โดยเฉพาะผัก ซึ่งจำเป็นมากสำหรับเด็ก ๆ เพราะหากเด็กได้รับการปูพื้นเรื่องการกินผักตั้งแต่ครั้งแรก ๆ ในการสัมผัสอาหารอื่นนอกจากนมแม่แล้ว ก็จะไม่รู้สึกว่าผักมีรสประหลาด มีกลิ่นเหม็น แต่กลับเพลิดเพลินกับการกินผักได้อย่างสนุกสนาน

            แทบไม่ต้องสาธยายถึงคุณสมบัติดี ๆ ที่เราได้จากผัก เพราะเราต่างรู้กันดีว่าวัตถุดิบประเภทนี้มีคุณค่าต่อร่างกายมากขนาดไหนทั้งช่วยบำรุงสายตา ผิวหนัง ผม เร่งปฏิกิริยาเผาผลาญอาหารในร่างกาย และการกินซุปยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น เพราะในซุปมีกรดอะมิโนบางตัว ซึ่งเป็นโปรตีนที่ละลายอยู่ในน้ำและมีเกลือแร่ในปริมาณไม่มาก เหมาะกับเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ ช่วงที่เริ่มอาหารเสริม

            นอกจากนี้ซุปผักยังเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่มีส่วนในการฝึกกินจากช้อน เสริมพัฒนาการให้ลูกได้อีกทางด้วยค่ะ

เลือกผักมาทำซุป

            หลัก ๆ คือ เลือกผักที่สด หากเป็นพืชหัวต้องไม่มีจุดดำหรือรอยช้ำจากการตกกระแทก ส่วนผักใบควรเลือกผักใบอ่อน ไม่เหี่ยวหรือไม่มีรอยจุดจากเชื้อรา เป็นผักสดที่ไม่ค้างหลายวันจนใบเหลือง และที่สำคัญคือขั้นตอนการล้างนี่แหละค่ะ ต้องล้างดินออกให้หมด แช่และล้างให้สะอาด ไม่มีไข่พยาธิ หนอนผัก หรือสารเคมีตกค้าง

            แล้วผักแบบไหนกันนะที่เหมาะกับการทำซุปผักให้ลูก ต้องเป็นผักที่มีรสหวาน ไม่มีรสขม มีสีสัน มีเสี้ยนผักน้อย และไม่มีกลิ่นฉุน หากเป็นผักใบ ยอดอ่อนของผักประเภทนี้ทุกชนิดเหมาะสำหรับนำมาทำซุปให้ลูกค่ะ เพราะมีรสหวานซึ่งลิ้นของเด็กเล็กรับรสนี้ได้ดี จึงชื่นชอบ และต้องเลือกผักสีสันสดใส โดยเฉพาะสีแดง ส้ม ชมพู เหลือง และเขียว

แล้วผักชนิดไหนกันนะที่ทำให้ลูกเรากินซุปผักได้ง่ายขึ้น

            ผักชนิดหัว เช่น ฟักทอง แครอท ฟักเขียว แตงกวา ดอกกะหล่ำ หรือบร็อกโคลี เอามาทำซุป เด็ก ๆ จะชอบเพราะมีรสหวาน สีสันสดใส ลักษณะผักนิ่ม เคี้ยวง่าย เมื่อตุ๋นเปื่อย ใช้เหงือกบดเคี้ยวได้ โดยเฉพาะฟักทอง แครอท บร็อกโคลี ที่ให้เบตาแคโรทีนสูง

            ผักชนิดใบ เช่น ผักกาดขาว ใบตำลึงอ่อน ใบกวางตุ้ง ใบผักบุ้ง หรือยอดผักหวาน ทำน้ำซุป เด็กที่มีฟันขึ้นชอบกิน เพราะลักษณะใบผักอ่อนนุ่ม มีรสหวาน ควรหั่นผักเป็นชิ้นเล็กช่วยให้เคี้ยวง่ายขึ้น

            จะว่าไปมีผักหลากหลายชนิดเลยที่นำมาปรุงเป็นเมนูโปรดให้ลูกได้ ทำให้ลูกไม่เบื่อ แถมได้ประโยชน์ดีด้วย

รู้จักซุปผัก 3 แบบ

            ซุปผักไม่ใช่ว่าจะมีแบบเดียวเสียเมื่อไหร่ อย่าแปลกใจที่มีหลายประเภท แม้จะไม่หลากหลายเท่าของผู้ใหญ่ แต่ก็มีถึง 3 แบบให้ลูกลิ้มลองค่ะ

            น้ำสต็อกผัก เป็นการนำผักต่าง ๆ มาต้มเคี่ยวกับกระดูกหมู เพื่อเป็นน้ำซุป แต่ไม่ใส่กระดูกจากเนื้อสัตว์ ใช้แครอท หัวหอมขึ้นฉ่าย หัวผักกาด มันฝรั่ง กะหล่ำดอก มะเขือเทศ มาผัดกับเนยเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือ เติมน้ำต้มแล้วเคี่ยวจนผักเปื่อยนุ่มเหมาะสำหรับเด็ก 6-9 เดือน เพราะมีลักษณะใส สามารถใส่ขวดนมเพื่อให้เด็กดูดแทนน้ำได้ มีโปรตีน เกลือแร่เล็กน้อยเหมาะกับเด็กเล็กที่ระบบการย่อยและการดูดซึมยังไม่เจริญเต็มที่

            ซุปใส เป็นน้ำซุปที่ใช้น้ำสต็อกต้มกับเนื้อสัตว์ หรือใส่ผักตามชอบ ต้มด้วยไฟอ่อน กรองเฉพาะน้ำซุปใส อาหารจีนที่เป็นแกงจืดผักต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นซุปใส เหมาะสำหรับเด็ก 6-9 เดือนเช่นเดียวกับน้ำสต็อก

            ซุปข้น เป็นซุปที่ใส่ครีม นม หรือนำผัก เนื้อสัตว์ต่าง ๆ มาปั่นรวมกัน แล้วกรองผ่านกระซอน ผักที่ใช้ทำน้ำซุปข้น ได้แก่ แครอท ฟักทอง มันฝรั่ง ผักโขม บร็อกโคลี เหมาะสำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 9 เดือน เนื่องจากเด็กเริ่มกลืนได้ดีขึ้น เริ่มคุ้นกับอาหารที่มีความข้นหนืด ซุปข้นมีส่วนผสมของผักบด เป็นการเสริมใยอาหารจะช่วยทำให้เด็กมีระบบขับถ่ายดี ไม่ท้องผูก

            รู้จักซุปผักกันแล้ว หากยังไม่รู้จะทำเมนูไหน เรามีมาแนะนำด้วยค่ะ

3 เมนูซุปผักต้องลอง

ซุปแตง (สำหรับวัย 6-8 เดือน)
เครื่องปรุง

            แตงกวา 6 ผล

            ผักกาดขาวหั่นฝอย ¼ ถ้วย

            แครอทหั่นลูกเต๋าเล็ก ¼ ถ้วย

            หมูสันนอกสับ 2 ขีด

            เกลือป่น 1/8 ช้อนชา

            น้ำสต็อกผัก

           วิธีทำ

            1. แตงกวาปอกเปลือก ผ่าขวางเป็น 2 ท่อน ใช้มีดคว้านไส้แตงออก แล้วแยกไส้แตงใส่จานผักไว้

            2. คลุกหมูสันนอกสับ ผักกาดขาว แครอทหั่นเต๋า เกลือป่นและน้ำเล็กน้อย ให้เข้ากัน นำส่วนผสมหมูที่คลุกเตรียมไว้ยัดใส่แตงกวา จัดเรียงใส่โถ วางไส้แตงที่คว้านไว้ข้าง ๆ

            3. เติมน้ำประมาณ 1-1 ½ ถ้วยตวง นึ่งในรังถึง ประมาณ 30 นาที เมื่อผักสุกได้ที่ตักน้ำซุปใส่สำหรับเสิร์ฟ

ซุปข้นผักรวม (สำหรับวัย 8-10 เดือน)
เครื่องปรุง

            ฟักทองหั่นเล็ก ½ ถ้วยตวง

            แครอทหั่นเล็ก ¼ ถ้วยตวง

            ผักโขมลวก ¼ ถ้วยตวง

            ผักกาดขาวหั่นฝอย ¼ ถ้วยตวง

            แอปเปิ้ลปอกเปลือกหั่นเล็ก ½ ถ้วยตวง

            เนื้ออกไก่ ½ ขีด

            น้ำสต็อกไก่ 2 ถ้วย

            วิธีทำ

            1. เทน้ำสต็อกใส่หม้อ ใส่ฟักทอง แครอท ผักโขม ผักกาดขาว แอปเปิ้ล และเนื้อไก่ ต้มให้สุก นำไปใส่โถปั่นให้ละเอียด กรองผ่านกระชอน

            2. เทซุปผักที่กรองใส่หม้อ กวนด้วยไฟอ่อนสักครู่พอให้ฟอง อากาศลอยออก ใช้ทัพพีตักฟองออก ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ

ซุปบร็อกโคลี (สำหรับวัย 10-12 เดือน)
เครื่องปรุง

            บร็อกโคลีส่วนดอกลวกสับเป็นชิ้นเล็ก ¼ ถ้วย

            แครอทต้มหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ¼ ถ้วย

            หัวผักกาดหั่นเป็นชิ้นกลมแบนเล็ก ¼ ถ้วย

            น้ำสต็อกไก่ 2 ถ้วย

            ข้าวโพดต้มฝานเมล็ด ½ ถ้วย

            วิธีทำ

            1. นำข้าวโพดฝานกับน้ำสต็อกไก่ใส่โถปั่น กรองผ่านกระซอนแยก กากข้าวโพดออก

            2. เทาน้ำข้าวโพดที่กรองใส่หม้อ ใส่บร็อกโคลี แครอท หัวผักกาด ต้มเคี่ยวในหม้อตุ๋นสองชั้นจนผักเปื่อยนุ่ม หากต้มด้วยไฟโดยตรงให้ใช้ไฟอ่อน และเพิ่มปริมาณน้ำสต็อกได้ตามเหมาะสม

Tips

            1. เมนูนี้ใช้ผักสามอย่างที่ให้รสหวานตามธรรมชาติ หากไม่กินหมูให้ใช้เนื้อไก่แทน

            2. การใช้เกลือใช้ในปริมาณน้อยมากหรือไม่เติมเกลือเลยก็ได้ กรณีไม่เติมเกลือ จะต้องแบ่งเก็บน้ำซุปในช่องแช่แข็ง และนำมาใช้ให้หมดภายใน 1 วัน

            3. การต้มผักรวมกับผลไม้เป็นการปรับรสหวาน โดยไม่เติมน้ำตาล

            4. การหั่นผักเป็นชิ้นเล็ก และมีรูปทรงต่างๆ เพื่อให้ลูกฝึกเคี้ยว ผักที่หั่นจึงต้องมีลักษณะเป็นชิ้นเล็ก สะดวกกับการใช้ช้อนบด ขณะป้อนให้ลูกใช้ฟันหน้าขบกัดได้

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยความงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.15 No.172 กุมภาพันธ์ 2553

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Veggie Soup Story อัปเดตล่าสุด 2 มีนาคม 2553 เวลา 16:44:48
TOP