จูงมือเธอเดิน..ขึ้นสวรรค์ (รักลูก)
โดย พิชชากร
เคล็ดลับสำหรับผู้ชายที่จะรู้ว่าผู้หญิงต้องการสัมผัสรักแบบไหน
ก่อนที่ผู้ชายจะรู้ว่าผู้หญิงต้องการสัมผัสรักแบบไหน ผู้ชายจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าเป็นคนแบบไหน ให้ตอบแบบทดสอบต่อไปนี้อย่างซื่อสัตย์ด้วยตัวคุณเองโดยไม่ต้องไปถามคำตอบจากเธอ คำถามใดที่ไม่รู้ ก็ตอบว่าไม่รู้ ห้ามเดา
1. มื้ออาหารต่อไปนี้เธอชอบรับประทานอะไรมากที่สุด
1.1 อาหารเช้า
1.2 อาหารกลางวัน
1.3 อาหารเย็น
2. ระหว่างขนมกับผลไม้เธอชอบอะไร
3. เธอชอบสีอะไรมากที่สุด
4. เธอชอบต้นไม้หรือดอกไม้อะไรมากที่สุด
5. เวลาว่างเธอชอบทำอะไรมากที่สุด (ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกตันไม้ ทำอาหาร ฯลฯ )
6. เธอชอบอยู่ คอนโด ทาวเฮ้าส์ หรือบ้านเดี่ยว
7. เธอชอบนักการเมืองคนไหนมากที่สุด
8. ใครคือนักร้องที่เธอชอบมากที่สุด
เมื่อทำเสร็จแล้วจึงไปถามคำตอบจากเธอหรือให้เธอเป็นคนให้คะแนน คำตอบที่ถูกได้ 1 คะแนน คำตอบที่ผิด หรือไม่รู้ไม่มีคะแนน คุณที่ได้คะแนนต่ำกว่า 8 คะแนนแสดงว่าสอบตก หมายความว่าคุณเป็นคน self center ไม่สนใจคนรอบข้างแม้แต่ภรรยาของคุณเอง อุปนิสัยเด่นชัด เรื่องธรรมด้าธรรมดาที่คุณควรรู้มาตั้งแต่สมัยจีบกันแล้วคุณก็ไม่รู้ แบบนี้คุณจะรู้จักสัมผัสรักให้ถูกใจเธอ ให้เธอได้ขึ้นสวรรค์ได้อย่างไร คุณจึงเป็นชายที่ซ่อนความน่าสะพึงสำหรับชีวิตคู่เชียวล่ะ แต่นั่นแหละครับภายใต้รัฐบาลยุคนี้ ปัญหาทุกปัญหาสามารถเข้าไปบริหารจัดการได้ ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้ารู้ตัวและยินดีเปลี่ยนแปลงก็ไม่สายหรอกครับ ฝึกลับอาวุธรับรู้ให้แหลมคม ความเป็น self center ก็จะค่อยๆ จางลงๆ สนใจสิ่งรอบๆ ตัวมากขึ้น
วิธีฝึกลับอาวุธรับรู้ให้แหลมคมนั้นไม่ยาก คือการฝึกมีสมาธินั่นเอง เวลากินข้าวก็มีสมาธิรู้ตัวว่ากำลังกินข้าว ไม่ใช่กินอิ่มแล้วพอถามว่ากินข้าวกับอะไร ตอบไม่ได้ แต่งตัวไปทำงานแล้ว พอถามว่าวันนี้นุ่งกางเกง หรือผูกเนคไทสีอะไร ก็ตอบไม่ได้ถ้าไม่ก้มไปมองก่อนตอบ ไม่ว่ากำลังทำอะไรก็รับรู้ รับรู้แม้แต่ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบข้าง พูดง่ายๆ ก็คือฝึกสังเกตหรือฝึกความรู้ตัวนั่นเอง
วิธีฝึกลับอาวุธวิธีหนึ่งทางสมาธิคือบอกตัวเองซ้ำๆ ว่ากำลังทำอะไร กำลังเดินก็บอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเดินหนอ เดินหนอ เดินหนอ.......... กำลังโกรธก็บอกตัวเองว่าโกรธหนอ โกรธหนอ........ เมื่ออาวุธรับรู้ของเราคมชัดแล้ว เราก็จะสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวได้มากมายจนรับรู้ได้ไม่หมดเสียอีก ต้องเลือกรับรู้เฉพาะที่ตรงกับความต้องการเท่านั้น การเลือกรับรู้จึงต้องเลือกให้ถูกกาลเทศะ เวลาอยู่กับเธอไปไหนกับเธอห้ามสนใจอย่างอื่น
การเลือกไม่ถูกจังหวะนี่แหละมีเรื่องมาเสียนักต่อนักแล้ว ดังเช่นผัวเมียคู่หนึ่ง เป็นคนดีมากทั้งคู่ ผู้ชายซื่อสัตย์ต่อเมียมากถึงแม้จะต้องไปทำงานต่างจังหวัด ก็ไม่เคยวอแวกับหญิงอื่น วันหนึ่งออกไปกินข้าวนอกบ้านตามประสาพ่อ แม่ลูก พอกลับถึงบ้าน เมียเปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดเครื่องประดับออกจึงพบว่าใส่ตุ้มหูสองข้างไม่เหมือนกัน คือหยิบผิดข้าง เมียรู้สึกโกรธและน้อยใจผัวว่าไม่สนใจ จึงไม่ได้ท้วงติง ความไม่ใส่ใจนี้มีมานานแล้ว เพราะบางครั้งใส่เสื้อผ้าใหม่ก็ไม่เห็นจะทัก บทจะทักขึ้นมาว่าเสื้อใหม่สวยก็ปรากฏว่าใส่มาหลายครั้งแล้ว ยังความเดือดดาลให้กับผู้หญิงยิ่งนัก แบบนี้ไม่ได้นะครับ ถึงแม้จะไม่มีนิสัยโรแมนติกอย่างไรก็จะต้องรับรู้ในความเป็นตัวตนของกันและกัน แค่ซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอครับ
การรับรู้คู่ของตนเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะการจูงมือกันเดินขึ้นสวรรค์ ผู้ชายเปรียบเสมือนไฟ จะลุกโพลงร้อนแรงอยู่ในตัวของมันเอง ผู้หญิงเปรียบเสมือนเทียนที่ต้องจุดจึงจะลุกขึ้นมาและถ้าจุดนานพอเทียนก็จะอ่อนตัวหลอมเหลว เอามาปั้นหรือใส่เข้าไปในเบ้าให้เป็นรูปร่างต่างๆ ได้ตามแต่ใจปรารถนา ถ้าเทียนยังไม่ทันจะอ่อนตัวจับกระแทกลงเบ้าก็หักบรรลัยเท่านั้น ฉันใดก็ฉันนั้น ธรรมชาติของผู้หญิงโดยทั่วๆ ไปจะเชื่องช้ากว่าผู้ชาย ต้องเสียเวลาในการปลุกเร้าพอสมควรกว่าจะเดินตามผู้ชายได้ทัน การปลุกเร้าเทียบได้กับน้ำมันที่เติมรถยนต์ จะใช้น้ำมันชนิดไหนขึ้นอยู่กับชนิดของรถ เจ้าของรถจะต้องรู้ก่อนจึงจะเติมได้ถูก รถบางชนิดต้องการเบนซิน 95 บางชนิดต้องการ 91 และบางชนิดก็ต้องการดีเซล
ผู้ชายจะต้องรู้จักผู้หญิงของตนเหมือนที่รู้จักรถจะได้ใช้น้ำมันได้ถูกต้อง ใช้ความสังเกตรับสัญญาณที่เธอส่งออกมาทุกทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษากาย ให้รู้ว่าตำแหน่งไหนที่เธอชอบให้สัมผัส ตำแหน่งไหนคือปุ่มสตาร์ท ไม่ต้องถึงกับใช้มือป่ายเปะปะไปทั่วตัวพร้อมรัวคำถามว่าอย่างนี้ชอบไหม เธอจะกลายเป็นรถหัวเทียนบอด หมดอารมณ์สตาร์ทไม่ติดเอาดื้อๆ แล้วคุณก็จะได้ฉายาว่า คุณซื่อบื้อ
ทุกครั้งที่ร่วมรักกันผู้ชายจะต้องปฏิบัติการอย่างช้าๆ หลอมเหลวเธอเสียก่อนพร้อมสังเกตปฏิกิริยาเธอว่าตำแหน่งไหนที่เธอมีปฏิกิริยาโต้ตอบ อาจเป็นเสียงครางหรือใช้ภาษากายเช่น กอดตอบ กอดรัดคุณแน่นขึ้น หลับตาพริ้ม ฯลฯ ถ้าในกรณีที่คุณระงับอารมณ์ไม่อยู่ วิ่งขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้ว ต้องลงไปหาเธอจูงมือเธอค่อยๆ ก้าวขึ้นไปและเป็นโอกาสดีที่คุณจะมีเวลาสังเกตอากัปกิริยาของเธอด้วย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน ศึกษาแผนที่บนตัวเธอว่าตำแหน่งไหนที่ไวต่อความรู้สึกมากที่สุด โดยปรกติตำแหน่งพื้นฐานก็ค่อนข้างจะเหมือนๆ กันคือบริเวณปากและหัวนม การปลุกเร้าเบื้องต้นจึงนิยมจูบกันด้วยปาก การใช้จมูกแตะบริเวณหน้าจะเป็นแก้มหรือหน้าผากตามที่พระเอกหนังไทยชอบทำกับนางเอกเขาไม่เรียกจูบ (kiss) หรอกครับ แบบนั้นเขาเรียกดม
ถ้าคุณเป็นนักสังเกตที่ดี คุณก็จะรู้วิธีที่จะหลอมเหลวเธอทุกครั้งที่คุณต้องการ แล้วคุณกับเธอก็จะเป็นคู่ที่โชคดีที่สุดที่สามารถจูงมือกันเดินขึ้นสวรรค์ได้พร้อมๆ กันอันเป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคู่ครับ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
