สามีนอกใจ มีอะไรเป็นเหตุ (Momy Peadia)
โดย น.พ.สุกมล วิภาวีพลกุล
สามีนอกใจ ปัญหาโลกแตกของสังคมไทย...
หลังอยู่กินเป็นสามีภรรยา ผู้หญิงทุกคนย่อมใฝ่ฝันถึงความผาสุขของชีวิตคู่ เหมือนที่เคยเรียนรู้มาจากนิทานในวัยเด็ก...ในที่สุดเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขชั่วชีวิต ตราบนิจนิรันดร แต่โลกความเป็นจริงของหลายคู่ หลายปีผ่านไป...เจ้าชายกลับกลายเป็นตัวร้าย สิ่งที่อยากฝันหวานชั่วชีวิตกลับกลายเป็นฝันร้ายแห่งชีวิตชั่ว พร้อมการปรากฏตัวของหุ้นส่วนสวาทผู้บั่นทอนสถาบันครอบครัว
ทำไมสามีชอบนอกใจภรรยา หรือเพราะอะไรผู้ชายถึงมักไปมีอะไรนอกบ้าน...
ผมไม่มีคำตอบเดียวกันสำหรับทุกกรณีแม้ปัญหารูปแบบเดียวกัน แต่ลองดูตัวอย่างต่างๆที่ผมเจอ...
หนุ่มรายหนึ่งมารับการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกด้วยปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ...อาการแข็งตัวไม่เต็มที่ขององคชาตไม่ได้เกิดขึ้นทุกเวลา แต่เป็นเฉพาะกับคู่นอนบางคน
โดยทั่วไป ถ้าเป็นกรณีมีอาการตอนอายุมากและเป็นทุกสถานการณ์ อย่างนี้สงสัยว่ามีสาเหตุจากโรคทางกาย แต่ถ้าเป็นเมื่ออายุยังน้อยและเป็นเฉพาะบางสถานการณ์ อย่างนี้รู้เลยครับว่าเป็นจากจิตใจ...ตัวอย่างคลาสสิกที่หยิบยกขึ้นมาบ่อยๆ คือ นกเขาไม่ขันเกิดเฉพาะกับภรรยา แต่พอเจอสาวเอ๊าะๆปรากฏว่า สู้ยิบตา
แต่สำหรับผู้ป่วยของผมรายนี้แกมาแปลก...เซ็กซ์กับภรรยากลับปกติ แต่กับสาวรายใหม่กลับไม่สู้อย่างที่ใจหวัง...สืบค้นไปมาพบว่าลึกๆแกรู้สึกผิดต่อผู้เป็นภรรยา รู้สึกว่าตัวเองไม่ซื่อสัตย์ต่อชีวิตคู่
แต่สาเหตุที่ต้องไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงอื่นเกิดขึ้นเพราะภรรยาไม่ต้องการมีกิจกรรมทางเพศต่อไปอีกแล้ว และเธอเองก็รับรู้และยินยอมให้สามีระบายความต้องการทางเพศกับหญิงอื่นยังไงก็ตามสามีก็ยังรู้สึกผิดลึกๆอยู่ในใจ...ความอึดอัด คับข้องใจ มีผลทำให้เกิดอาการไม่สู้ยามประชิดต่อหน้าข้าศึกในยามรบ
หลังการรักษาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม อาการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นซอกรักแร้...ผู้ป่วยรายงานว่าตอนนี้ "การประชุมสุดยอด" กับสาวอื่นกลับได้ผลดียิ่ง จนฝ่ายหญิงเองก็แปลกใจ แต่กลับมีอาการ ฝ่อตัวกับภรรยา เพราะตอนนี้ภรรยาไม่ต้องการเซ็กซ์อย่างสิ้นเชิง ยามใดที่มีเพศสัมพันธ์กับเธอ กลายเป็นความรู้สึกว่าตนเองกำลังบังคับฝืนใจผู้เป็นภรรยาสุดที่รัก... \'การเจรจาสันติภาพ\' จึงล้มเหลวเสียทุกครั้ง
กรณีอย่างนี้มีไม่น้อยเลยครับ ที่ฝ่ายหญิงมีภาวะบกพร่องทางเพศ (Sexual Dysfunction) เช่นมีอารมณ์ความต้องการทางเพศลดลงกว่าปกติ (Hypoactive Sexual Desire Disorder) หรือเป็นโรครังเกียจการร่วมเพศ (Sexual Aversion Disorder) หรือช่องคลอดเกร็งตัวจนไม่สามารถร่วมเพศได้เลย (Vaginismus) ซึ่งภาวะต่างๆเหล่านี้ สามารถรับการบำบัดจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา แต่หลายคนปฏิเสธการรักษาแล้วยอมให้คู่สมรสไปหาทางออกนอกบ้าน...
สามีหลายราย เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองภายในบ้านหรือได้รับน้อยกว่าที่ควรได้รับ จะเกิดอาการ อดอยากปากแห้งจนต้องไปพึ่ง "หน่วยบรรเทาทุกข์" นอกบ้าน...อาจเป็นลูกน้องในที่ทำงาน เพื่อนหญิงวัยเหงา หรือแม้แต่สาวๆกลุ่มหารายได้ในแนวนอน...กรณีอย่างนี้สรุปว่า สามีนอกใจเพราะทนหิวไม่ไหว
อ้าว!...แล้วทีฝ่ายผู้หญิงเอง หลายต่อหลายรายก็ไม่ได้รับความสุขทางเพศจากสามี หิวบ้าง กินไม่อิ่มบ้าง ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นต้องไปหาของกินนอกบ้านเลย ทำไมผู้ชายต้องอ้างเหตุผลให้ตัวเองเรื่อง "ทนหิวไม่ไหว"
เรื่องนี้นักเพศศาสตร์วิเคราะห์และให้คำอธิบายว่า ในขณะที่สัตว์เพศเมียมีสัญชาตญาณของความรักลูก แต่สัญชาตญาณของสัตว์เพศผู้คือการสืบพันธุ์ สังเกตว่าสัตว์ตัวผู้หลายชนิดจะมี \'ฮาเร็ม\' ส่วนตัว แวดล้อมไปด้วยตัวเมียเดินขวักไขว่ล้อมหน้าล้อมหลัง สามารถมีกิจกรรมเพื่อการสืบพันธุ์ไปได้เรื่อยๆไม่เลือกหน้า
ถือว่าตัวเองไม่ใช่ทรัพย์สินทางปัญญาของใคร แต่ทำตัวเหมือนดาราเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะฉะนั้นมนุษย์เพศผู้ก็ยังมีสัญชาตญาณนี้ซ่อนเร้นอยู่ลึกๆ...ส่วนจะแสดงออกมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม ค่านิยมของสังคมและโอกาสเหมาะๆ รวมทั้งมโนธรรมส่วนตัว เช่น ความซื่อสัตย์ต่อภรรยา ความสามารถในการยับยั้งชั่งใจตัวเอง...
และความแตกต่างระหว่างคนและสัตว์ก็อยู่ที่ตรงนี้ หากพฤติกรรมทั้งหมดของมนุษย์เป็นไปตามสัญชาตญาณดั้งเดิม คนๆนั้นก็ไม่ต่างจากสัตว์ระดับล่างๆ
ใครได้ดูหนังไทยเรื่อง จัน ดารา ก็จะเห็นพฤติกรรมของคุณหลวงที่ไม่มีความยับยั้งชั่งใจในเรื่องทางเพศ สำส่อนไปทั่วบ้าน ไม่จำกัดทั้งบุคคล เวลา และสถานที่ ความเสียหายที่ตามมาไม่ได้เกิดเฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังกระทบไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน...ถ้าดูหนังเรื่องนี้อย่างมีสติและใช้ปัญญา จะเข้าถึงแก่นของภาพยนตร์ที่ชี้ให้เห็นเรื่องเวรและกรรมโดยแท้
ดังนั้น...ถ้าผู้ชายตระหนักรู้ตัวเองว่ามีสัญชาตญาณการสืบพันธุ์ซุกตัวอยู่ในจิตไร้สำนึก ก็ต้องคอยควบคุม ฝึกข่มใจ เดี๋ยวนี้พอเวลาผมเจอสาวๆขาวสวยหมวยอึ๋ม ก็ต้องถอยห่างเหมือนกัน...เพราะอยู่ใกล้ๆแล้วสังเกตตัวเองว่าความคิดไม่ค่อยสะอาดสะอ้าน...
สามีหลายรายไม่อดไม่หิวเรื่องบนเตียงกับคู่ชีวิต แต่ก็ยังมิวายหาโอกาสมีกิจกรรมเข้าจังหวะกับสาวอื่นผู้มิได้เป็นภรรยาตน หรืออย่างน้อยก็ไม่อยากเสียโอกาสเมื่อมีโอกาส
หลายครั้งที่ผมเปรียบเพศสัมพันธ์เหมือนการกินอาหาร เพราะก่อให้เกิดรสชาติเช่นเดียวกัน...เพียงแต่อาหารเป็นรสชาติทางลิ้น ส่วนเพศรสเป็นสุขสัมผัสทางผิวหนัง
เรื่องอาหาร ยังต้องมีการปรุงแต่งรสชาติให้น่าดูน่ากิน แม่ครัวฝีมือดี ลูกค้าติดใจ แต่นอกจาก ปรุงแล้ว ยังต้องมีการ ปรับเปลี่ยนหมุนเวียนชนิดให้หลากรสในหลายมื้อ ถึงจะอร่อย แต่กินอย่างเดียวซ้ำเดิมตลอดทุกมื้อทุกวัน ปลายทางคือความเลี่ยนเอียน
อย่าปล่อยให้เซ็กซ์เหมือนอ่านนิทานเล่มเดียวชั่วชีวิต ขึ้นต้นเล่าเรื่องก็รู้ฉากต่อไป เลยไปจนถึงตอนจบของเรื่อง เหมือนเปิดเทปเดิมซ้ำๆๆๆๆ
แต่งงานสิบปี ต้องทนฟังนิทานเรื่องเก่าเกือบพันเที่ยว...ทางแก้คือเนื้อเรื่องเดียว ต้องมีหลายเวอร์ชั่น มันต้องพลิกผันตามสถานการณ์ เพิ่มลูกเล่นในการเล่าเรื่อง เปลี่ยนฉาก สลับตอนชวนให้ติดตาม แถมหักมุมตอนท้ายเรื่อง
ครั้งหนึ่ง ในการทำหน้าที่วิทยากรบรรยายปัญหาเรื่องเพศในคู่สมรส ผู้ฟังชายรายหนึ่งให้ความเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัว พูดด้วยสำนวนโดนใจ...หลายคนฟังแล้ว พุทธิปัญญาปรากฏตัวขึ้นอย่างพวยพุ่ง...
"เซ็กซ์ในบ้าน มันอิ่ม...แต่ไม่อร่อย เซ็กซ์นอกบ้าน มันอร่อย...แต่ไม่อิ่ม"
เพศศึกษาสำหรับคู่สมรส มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สามีและภรรยาสร้างความสุขทางเพศในคู่ของตน โดยไม่ต้องไปแสวงหาความสุขนอกบ้าน พูดง่ายๆคือ ทำให้อิ่มและอร่อยในบ้าน เพียงพอต่อสิ่งที่ธรรมชาติกำหนดให้เป็นครรลองปฏิบัติของมนุษย์
หน้าที่ของมนุษย์คือการปฏิบัติให้เกิดความถูกต้อง รู้จักความเพียงพอ ไม่เสพเกินความพอดี เหมือนกินอาหาร ต้องมีมารยาท ไม่กินมูมมาม ไม่กินมากจนจุกแน่นหรืออ้วนเกิน
ถ้าเซ็กซ์ในบ้าน ได้รับทั้งความอิ่มและเอร็ดอร่อย แล้วสามียังต้องการเพิ่มเติมจากนอกบ้าน ก็มักเป็นเรื่องของความไม่รู้จักคำว่าพอดี...เรียกว่าตะกละตะกราม ...ซึ่งมีเหตุมาจากสัญชาตญาณที่ควบคุมไม่เป็น
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ