x close

11 เรื่อง ปรุงแต่งความงามที่คุณควรใส่ใจ





11 เรื่อง ปรุงแต่งความงามที่คุณควรใส่ใจ (Lisa)

          ถึงคุณจะดูแลความงามเป็นอย่างดีอยู่แล้ว  แต่การทำแต่สิ่งเดิม ๆ ซ้ำซากอยู่ชั่วนาตาปีก็อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป ตราบเท่าที่ทุกสิ่งรอบตัวคุณ และแม้แต่ในตัวคุณเองก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณก็จะเป็นต้องคอยเติมความสดใหม่ให้การดู และงามของคุณอยู่เรื่อย ๆ เราได้รวบรวม 11 เรื่องของการดูแล และปรุงแต่งความงามที่คุณควรใส่ใจ และปรับเปลี่ยนมันซะบ้าง...นะ

1. พิจารณาผิวของคุณ

          ทำไมน่ะเหรอ? อ้าว ก็คุณแน่ใจแล้วหรือว่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของตัวแล้ว จริง ๆ มีผู้หญิงจำนวนมากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่เหมาะกับผิวตัวเอง เพราะพวกเธอคิดเอาเองว่า ผิวของเธอเป็นเช่นนั้น และความจริงอีกอย่างที่คุณมักจะลืมนึกถึงกันก็คือ มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อผิวของเรา เช่น อากาศ สภาพแวดล้อม อารมณ์ ฮอร์โมน หรือความเครียด

          ซึ่งนั่นหมายความว่า ผิวของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ คุณถึงต้องคอยพิจารณาผิวตัวเองเป็นระยะ เพื่อดูว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และควรปรับเปลี่ยนการใช้ผลิตภัณฑ์ยังไงบ้าง ให้เหมาะกับผิวอย่างแท้จริง

          วิธีทดสอบ ลักษณะผิวแบบง่าย ๆ

          ขั้นแรกทำความสะอาดผิวหนังด้วยผลิตภัณฑ์ ที่อ่อนโยนที่สุด และทิ้งไว้หนึ่งชั่วโมงโดยไม่ทาผลิตภัณฑ์ใด ๆ ลงไปเลย หลังจากนั้น ลอกแผ่นทิชชูออกมาเป็นชั้นบาง ๆ แล้ววางลงบนใบหน้า กดซับเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า
          ถ้ามีน้ำมันติดออกมาบนทิชชูจาก ทุกจุดของใบหน้า แสดงว่าคุณผิวมัน แต่ถ้าไม่มีน้ำมันติดออกมาเลย แต่กลับมีขุยแห้ง ๆ บนใบหน้า ก็แสดงว่าผิวคุณแห้ง ถ้ามีน้ำมันติดออกมาเฉพาะบริเวณทีโซน คุณมีผิวผสม ถ้าไม่มีน้ำมันหรือผิวไม่มีขุยแห้ง ๆ แสดงว่าผิวคุณเป็นผิวธรรมดา
          ขนาดของรูขุมขนก็เป็นอีกอย่าง ที่บ่งชี้ถึงลักษณะผิวได้ ผิวแห้งมักมีรูขุมขนเล็ก ขณะที่ผิวมันมักมีรูขุมขนกว้าง
          ผิวแพ้ง่ายสามารถเป็นผิวประเภท ใดประเภทหนึ่งก็ได้ แต่สิงที่เพิ่มขึ้นก็คือ มักมีอาการระคายเคืองได้ง่าย และเกิดปฏิกิริยากับสิ่งต่าง ๆ ที่ทาลงไปบนผิวได้ง่าย และรวดเร็ว แต่จำไว้ว่าอาการระคายเคืองอาจเกิดได้ถึงแม้ผิวคุณจะไม่ได้แพ้ ง่ายก็ตาม ถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไป เพราะฉะนั้นควรพิจาณาดูว่าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงเกินไปหรือเปล่า หรือคุณแพ้ผลิตภัณฑ์ได้แทบจะทุกอย่าง

2. ปรนนิบัติใบหน้าที่บ้าน

          ไม่จำเป็นต้อง เข้าสปาเพื่อได้รับการปรนนิบัติผิวหน้าเสมอไป เพราะคุณสามารถทำได้เองที่บ้านด้วยของจากครัวที่บ้าน เช่น ขัดหน้าด้วย เบกกิ้งโซดากับน้ำส้ม เพื่อขัดลอกเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป หรือบดมะละกอสุกให้ละเอียด แล้วพอกหน้า และอีกทางเลือกหนึ่งก็คือผลิตภัณฑ์ดี ๆ ที่สามารถซื้อใช้ได้จากเดาน์เตอร์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิว

          ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับพอกผิวหรือมาส์กทั้งหลายแหล่ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็ม ความต้องการของผิวในแบบเร่งด่วน พร้อมกับช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย

3. รู้จักความต้องการของผิว

          เป็นเรื่องปกติ ที่ผิวของเรามักจะมีปัญหาผิวอย่างใดอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาที่คุณเป็นกังวลพิเศษ เพราะฉะนั้นอย่าลืมใส่ใจ และเรียนรู้ความต้องการของผิว รวมถึงใส่ใจ และเรียนรู้เรื่องของส่วนผสมต่าง ๆ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผิวให้ดีด้วยล่ะ

          ถ้าคุณเป็นสิว (ในทุกวัย) ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือ BHA 0.5-2% ที่จะทำให้รูขุมขนสะอาดโดยไม่ทำให้ผิวแห้งเกินไป ถ้ากรดซาลิไซลิกไม่แรงพอ ลองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์หรือน้ำมัน ทีรี

          รูขุมขนใหญ่ ปกติแล้วขนาดของรูขุมขนเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ และเราไม่สามารถทำให้รูขุมขนเล็กลงได้จริงๆ แต่สามารถทำให้มัน “ดู” เหมือนเล็กลงได้ ด้วยการทำให้รูขุมขนสะอาดปราศจากสิ่งอุดตัน และช่วยลดการผลิตน้ำมันที่ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอย่างซิลิก้าที่ช่วยดูดซับน้ำมันส่วน เกิน หรือส่วนผสมที่ลดการอุดตันของรูขุมขน หรือลดการสร้างน้ำมัน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรใช้หลังจากทำความสะอาด และทามอยสเจอไรเซอร์แล้ว หรือทาอย่างเดียว

          ผิวหมองคล้ำ มักเป็นผลมาจากการที่ผิวขาดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ และมีการสะสมตัวของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยขัดลอกเซลล์ผิวอย่างกรด AHA ทั้งหลาย เช่น Glycolic, Malic, Tartaric หรือ Lactic นอกจากนี้ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพื่อช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น

          ริ้วรอย หนึ่งในส่วนผสมที่ยอดนิยมที่พบในซีรั่มทั้งหลายก็คือ Hyaluronic Acid ส่วนผสมที่สามารถอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวเองถึง 1,000 เท่า เหมาะสำหรับป้องกันการสูญเสียน้ำ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอย่างเรตินเอ หรือวิตามินซีที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอลเลาจนใหม่ที่สามารถ ช่วยในเรื่องริ้วรอยได้

          จุดดำหรือรอยดำ ไม่ว่าจะจากแดดหรือจากวัยควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะ เนื่องจากระดับความไวต่อผิวของคนเราต่างกัน ตัวเลือกที่ดีที่สุดโดยเฉพาะสำหรับผิวแห้งหรือแพ้ง่ายก็คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ที่ช่วยในการทำให้สีผิวจางลง เช่น สตอรวเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ มัลเบอรี่หรือลิโคไรซ์ ส่วนผสมหลักอื่น ๆ ที่ช่วยในเรื่องจุดด่างดำ ก็คือวิตามินซี หรือกรดไกลโคลิก

          และจำไว้ ด้วยว่า...

          ใช้ครีมกันแดดทุกวัน เพื่อปกป้องการดูแลผิวของคุณ และป้องกันความเสียหายในอนาคต
          ขัดผิวเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้เป็นไปตามปกติ และทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
          ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรขอตัวอย่างจากเคาน์เตอร์ไปทดลองใช้ก่อน เพื่อดูว่าแพ้หรือเปล่าก่อนจะซื้อ และที่ซึ่งเหมาะแก่การทดสอบก็คือการทาตามแนวกรามในปริมาณเล็กน้อย
          ควรให้เวลาอย่างน้อย 28 วัน กว่าที่ทรีตเมนต์ต่าง ๆ จะเห็นผลชัดเจน

4. ทำอะไรสักอย่างกับผมของคุณ

          จะตัด ดัด หรือย้อมก็ง่าย ๆ  แค่นี้เองสำหรับการสร้างความสดใสให้แก่ผู้หญิงเรา  เพราะบ่อยครั้งที่คนเรามักจะติดอยู่กับผมทรงเดิม ๆ  ทรงเดียวผู้หญิงบางคนอาจไว้ผมยาวตรงมาตลอดชีวิต หรือไม่เคยดัดผมเลย คุณควรลองผมใหม่ ๆ ดูบ้างนะ คุณไม่มีวันรู้หรอก คุณอาจจะชอบผมสั้นชี้ ๆ หรือผมบ็อบแบบเลเยอร์ก็ได้ การตัดผมยังเป็นการตัดปลายผมส่วนที่มักจะแห้งเสียได้ง่ายออกไป ทำให้เหลือแต่เส้นผมส่วนที่แข็งแรงและดูดีกว่า

          และเลิกกลัวว่า การดัดหรือย้อมสีผมจะทำให้ผมเสียได้แล้ว ผลิตภัณฑ์เดี๋ยวนี้ล้วนแต่ถูกพัฒนาขึ้นให้อ่อนโยนต่อเส้นผมมากขึ้น  พร้อมทั้งยังเพิ่มเติมส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผมเข้าไปอีก นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับการบำรุงผมดี ๆ อีกมากมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยดูแลผมที่ผ่านกระบวนการเคมี ทั้งหลายให้คุณเลือกใช้ในท้องตลาดมากมาย ก็เลือกชนิดของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับความต้องการของเส้นผม

          คุณก็จะสามารถสนุกกับการเปลี่ยนแปลงของทรงผมได้อยู่ตลอดเวลา พร้อมกับรู้สึกเป็นคุณคนใหม่ได้ทุกสามเดือน (ซึ่งเป็นเวลาที่คุณควรตัด หรือเล็มผม ไม่ว่าจะเปลี่ยนทรงหรือไม่ก็ตาม) เลยล่ะ

5. เคลื่อนไหวร่างกาย

          อย่าเพิ่งคิด ว่าไม่เกี่ยวกัน การเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้โลหิตสูบฉีดมายังผิว และนำพาสารอาหารมาหล่อเลี้ยงผิวได้ดีขึ้น ผิวจึงดูสดใส เปล่งปลั่ง และอ่อนเยาว์ จงทำให้การออกกำลังเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่แค่สิ่งที่นาน ๆ ทำครั้งหนึ่ง โดยตั้งเป้าบริหารความแข็งด้วยการยกน้ำหนัก (มันเร่งการเผาผลาญของคุณ) 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และออกกำลังแบบคาร์ดิโอ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้ง

6. อย่ามองข้ามคิ้ว

          เราพูดเสมอว่า คิ้วที่ตกแต่งอย่างดี และสุดนี้ยบ  เป็นกรอบที่ขับเน้นให้ใบหน้าดูคมชัด และทำให้หน้าของคุณดูสวยขึ้นทันที แม้จะยังไม่ได้แต่งเติมสีสันอะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นคอยสำรวจรูปคิ้วของคุณเสมอ และใช้แหนบถอนขนคิ้วที่รุงรังออกนอกเส้นทางออก แต่อย่าถอนขนคิ้วมากเกินไปล่ะ คิ้วที่เขียนใหม่ทั้งหมด ยังไงก็สวยสู้คิ้วเดิม ๆ ของคุณที่แต่งเติมสีสันเพิ่มเติมเข้าไปไมได้ หรอก

7. จัดระเบียบโต๊ะเครื่องแป้งซะ มั่งนะ

          คุณจัดระเบียบเครื่องสำอางของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ถ้าต้องคิดอยู่นานก่อนจะตอบเนี่ย  ก็เริ่มลงมือจัดโต๊ะเครื่องสำอางของคุณใหม่ได้แล้ว!

          คุณควรเคลียร์เมกอัพของคุณทุกหก หรือสิบสองเดือน เนื่องจากแบคทีเรียสามารถเติบโตได้ในเมกอัพของคุณ โดยเฉพาะของอย่างมาสคาร่าที่อาจมีแบคทีเรียก่อตัวขึ้นได้ ในเวลาแค่สามเดือน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาได้ ฉะนั้น ถ้าเริ่มสงสัยว่าอะไรไม่ดีก็โยนทิ้งได้แล้ว
          ถามตัวเองว่าใช้ของชิ้นนี้หรือเปล่า มันจำเป็นจริงๆ หรือเปล่า หรือฉันชอบมันหรือเปล่า ถ้าคุณตอบว่าไม่ คุณก็รู้แล้วว่าต้องทำยังไง
          เวลาที่คุณสำรวจเครื่องสำอาง ของตัวเอง คุณโยนมันทิ้งได้ง่ายๆ หรือมักจะคิดว่าเก็บไว้ก่อนดีกว่า เราอาจต้องใช้มันสักวันหนึ่งแน่ จำไว้ว่าคนเรามักใช้ของที่มีอยู่แค่ 20% ของของที่มีอยู่เท่านั้นเอง

8. โยนทิ้งสีสันอันน่าเบื่อ

          แน่นอนว่าสีกลาง ๆ  มักใช้ได้ง่ายสำหรับผู้หญิงแทบทุกคน และเราก็มักจะพอใจกับความปลอดภัยเช่นนั้นเสียจนติดหล่มอยู่กับสีสัน อันน่าเบื่อชั่วตาปีตาชาติ  แฟชั่นมีมาใหม่ทั้งปี แล้วคุณก็ซื้อเสือผ้าใหม่ ๆ  ทุกซีซั่นไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไม่ซื้อเมกอัพสีสันใหม่ ๆ ดูบ้างล่ะ? ตอนนี้ลิปสติกสีคอรัลกำลังมาแรง เช่นเดียวกับอายแชโดว์สีสดใส ถ้าใจไม่กล้าพอ ลองใช้สีพาสเทลดูมันทำให้สีสันสดใสดูอ่อนหวานขึ้น และใช้ได้ง่ายสำหรับผู้หญิงทุกคนเลยทีเดียว

9. เขียนขอบตาเสมอ

          นี่เป็นเครื่อง มือชิ้นสำคัญอีกอย่างสำหรับ  “ตอนนี้” ที่จะทำให้คุณดูดี และทันสมัยโดยไม่ต้องแต่งหน้ามากเลย หรือถ้าคุณทาอายแชโดว์การเขียนขอบตาก็จะยิ่งทำให้สีสันที่คุณแต่ง เอาไว้ดูดียิ่งขึ้น แต่ข้อสำคัญก็คือ เลิกยืดติดกับการเขียนขอบตาด้วยอายไลเนอร์สีดำแต่ เพียงอย่างเดียวเสียที! สีเข้มขรึมอย่างอื่นที่ไม่ใช่สีดำ เช่น สีม่วงเข้ม สีน้ำเงินขรึม สามารถขับเน้นดวงตาให้ดูคมขัดขึ้นได้เช่นเดียวกับสีดำ หรืออาจจะสวยกว่าสีดำเสียด้วยซ้ำ

          และคุณก็ไม่จำ เป็นต้องไปหาซื้ออายไลเนอร์สีสันมาใช้เสมอไป ลองใช้อายแชโดว์สีเข้ม หรือสีสดใสที่คุณมีอยู่สำหรับเขียนขอบตา หากอยากให้สีสดชัด และเนื้อลื่นเขียนง่ายขึ้น จุ่มแปรงลงในน้ำเล็กน้อย ก่อนแตะลงบนอายแชโดว์ น้ำจะช่วยให้สีสดขึ้น และเขียนได้ง่ายขึ้น

          ไม่ว่าจะใช้ สีอะไร...อย่าแต่งหน้ามากไปล่ะ

            คุณรู้ได้ว่า คุณแต่งหน้ามากไปถ้า...

          สีของคอกับหน้าไม่สม่ำเสมอกัน รองพื้นอาจชาวเกินไปหรือดำเกินไป หรืออาจทาหนาเกินไปก็ได้
          นิ้วของคุณสะอาดเอี่ยม แสดงว่าคุณไม่ได้เกลี่ยสีให้กลมกลืน ซึ่งปลายนิ้วนี่แหละคืดผู้ช่วยที่ดี และการไม่เกลี่ยสีให้ดีพอ อาจทำให้สีสันบนใบหน้าของคุณจัดจ้านเกินไป
          เวลาถือกระจกแล้วเดินมาส่องดูหน้า ตัวเองที่ริมหน้าต่างแล้วแทบจะเป็นลมตาย จำไว้เหอะว่าแสงธรรมชาติไม่เคยโกหกคุณ
          มีลิปสติกติดที่ฟัน มันหมายความว่าคุณทาลิปสติกหนาเกินไป ถ้าคุณใช้สีสด ให้ทาเป็นชั้นบางๆ ก็พอ
          คุณใช้ทุกเฉดสีที่มี คุณอาจซื้ออายแชโดว์พาเล็ตต์ที่มีตั้งสี่สี แต่ขอร้องล่ะ อย่าใช้หมดทุกสีพร้อม ๆ กันเลยนะ

10. สวยจากภายใน

          ความงามที่แท้ จริงมาจากภายใน เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้คุณสบายใจมีความสุข และรู้สึกสงบเยือกเย็น ก็สามารถช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะบ่อย ๆ

          การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า การหัวเราะสามารถช่วยลดความดันโลหิต ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ทำให้อารมณ์ดี๊-ดี แล้วก็ดูดีขึ้นด้วย เช่นเดียวกับการมองโลกในแง่ดี การชื่นชมยินดีในสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณและรับเอาทุกอย่างโดย ปราศจากความคาดหวัง สนุกกับชีวิต ไปพร้อมกับการทำดีต่อคนอื่น การทำงานอาสาสมัคร การไปร่วมเดินรณรงค์ต่อต้านมะเร็ง หรือแม้แต่ไปช้อปปิ้งเพื่อบริจาคเงินให้การกุศล ทุกอย่างล้วนทำให้คุณรู้สึกดี และนั่นก็ทำให้คุณดูดีตามไปด้วย

11. เปลี่ยนแปรงแต่งหน้า

          แปรงและอุปกรณ์ แต่งหน้าทั้งหลายเป็นเครื่องมือจำเป็น ที่จำช่วยให้คุณแต่งหน้าได้สวยงามอย่างต้องการแปรงดี ๆ จะช่วยให้การเกลี่ยสีง่ายขึ้นและนวลเนียนดูเป็นธรรมชาติ แปรงดี ๆ อาจมีราคาแพง แต่มันสามารถใช้งานได้ดีและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า จึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

          แต่ข้อสำคัญก็คืออย่าลืมล้างแปรงแต่งหน้าของคุณเป็นประจำด้วยล่ะ คราบสกปรกที่ติดอยู่อาจเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย และทำให้เกิดอาการระคายเคืองบนผิวหน้าได้ เพราะฉะนั้นกดปุ่ม “Refresh” ให้กับแปรงแต่งหน้าของคุณเป็นประจำสม่ำ เสมอด้วยล่ะ

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
11 เรื่อง ปรุงแต่งความงามที่คุณควรใส่ใจ อัปเดตล่าสุด 8 เมษายน 2553 เวลา 14:34:39
TOP