เมื่อคุณแม่แพ้...เกสรดอกไม้

ตั้งครรภ์

เมื่อคุณแม่แพ้...เกสรดอกไม้
(Lisa)

            คงไม่มีใครไม่ชื่นชมความสวยงามของดอกไม้ ไม่มีใครไม่อยากดื่มด่ำกับธรรมชาติ แต่จะทำอย่างไรได้หากความสวยงามนั้นไม่ได้นำพาความรื่นรมย์มาให้เสมอไป

            เพราะสำหรับคุณแม่ หรือลูกน้อยที่แพ้เกสรดอกไม้ ละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายอยู่นอกบ้าน หรือที่ปลิวมาจากต้นไม้ ใบหญ้า เมล็ดพืชพันธุ์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นตัวการทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ซ้ำยังเกิดได้บ่อยกว่าสารก่อภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ อีกต่างหาก

            ว่ากันว่า ปฏิกิริยาภูมิแพ้เกิดจากการใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสั่งการให้เซลล์บางชนิดออกไปติดตามและทำลายผู้รุกราน หรือสารก่อโรคภูมิแพ้ที่เรียกสั้น ๆ ว่า สารภูมิแพ้

            เมื่อสารภูมิแพ้เหล่านี้เข้าสู่ร่างกายก็จะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลังสารฮิสตามีน ส่งผลให้กล้ามเนื้อทางหายใจบีบตัว มีของเหลวซึมออกมาจากหลอดเลือด และเกิดการหลั่งสารโพรสตาแกลนติน ซึ่งเป็นที่มาของอาหารโรคภูมิแพ้ เช่น การอักเสบ ปวด และคันมักเกิดบ่อยที่สุดในบริเวณจมูก ช่องคอ หลอดลม ผิวหนัง และนัยน์ตา ปฏิกิริยาภูมิแพ้ในแต่ละคนจะแสดงอาการแตกต่างกันไป ที่พบเจอบ่อยๆ ก็คือจมูกอักเสบ มีน้ำมูกใสๆ เป็นผื่นคัน โรคหืด โรคลมพิษ เลยไปถึงผิวหนังอักเสบ

            ที่สำคัญในบรรดาผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะแพ้อะไรก็ตาม มีการยืนยันแล้วว่าสามารถ่ายทอดทางพันธุกรรมแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากถึงร้อยละ 60 แต่ถ้าหากทั้งพ่อและแม่ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้เลย ความเสี่ยงจะลดลงเหลือเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น

            นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า เด็กที่เป็นลูกคนแรกของคุณแม่คุณพ่อในครอบครัวเล็กๆ มักเป็นโรคภูมิแพ้และมีปฏิกิริยาเมื่อรับสารก่อภูมิแพ้ได้บ่อยกว่าเด็กที่เป็นลูกคนหลังๆ ของครอบครัวใหญ่นัยว่าเพราะเด็กกลุ่มหลังมีโอกาสสัมผัสเชื้อมากกว่าตั้งแต่อายุยังน้อย ร่างกายจึงมีภูมิคุ้มกันมากพอ ไม่อ่อนซ้อมเหมือนเด็กกลุ่มแรก

            สารภูมิแพ้นอกบ้านเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากและด้วยความจำเป็นของวิถีชีวิต ทำให้ไม่สามารถเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านได้ แล้วเจ้าละอองเกสรดอกไม้ เหล่านี้ก็มักจะลอยลมมาทางประตู หน้าต่าง ติดเสื้อผ้า ผมเผ้า รองเท้า โดยที่เราไม่รู้ตัว

            อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถทำใจให้สบาย ๆ ไม่ต้องวิตกกังวลมากเกินไปนัก เพราะลองถ้ารู้ตัวเสียแล้วว่าแพ้เกสรดอกไม้ วิธีรักษาทีได้ผลดีที่สุดก็คือระมัดระวัง ป้องกันตนเองให้พ้นจากอิทธิฤทธิ์ของบรรดาละอองเกสรขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตา ด้วยวิธีการง่ายๆ ต่อไปนี้

            พยายามปิดหน้าต่างห้องนอนให้สนิททุกครั้ง ในเวลากลางคืน หรือปิดหน้าต่างขณะขับรถ

            ติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่สามารถเก็บกักละอองเกสรดอกไม้ พวกไรฝุ่นได้ และหมั่นล้างทำความสะอาดทุกๆ เดือน

            หลังจากออกไปข้างนอก เมื่อกลับเข้าบ้านแล้วควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้ง แล้วใส่ลงตะกร้าซักได้เลย ไม่ควรเก็บชุดนั้นไว้ใส่ซ้ำอีก ถึงแม้จะใส่ออกไปข้างนอกไม่นาน และเสื้อผ้าไม่ค่อยสกปรกนักก็ตาม

            หมั่นทำความสะอาด และเก็บเสื้อผ้าใส่แล้ว ออกจากห้องนอนของคุณแม่และลูกที่เป็นภูมิแพ้ทุกวัน รวมถึงต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นประจำ

            ดูดฝุ่นและถูบ้านทุกวันจะช่วยกำจัดสารภูมิแพ้ต่างๆ ภายในบ้านได้

            สำหรับคุณแม่ที่เป็นภูมิแพ้ ควรดูแลเส้นผมให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ละอองเกสรที่อาจจะติดมากับเส้นผมแทรกตัวลงไปบนหมอนหนุน ศีรษะยามนอน

            และถ้าหากในบ้านมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือแมว ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดเข้าไปคลุกคลีอยู่กับลูกน้อยถึงในห้องนอน

            รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่คนเป็นแม่ต้องหมั่นดูแลและเอาใจใส่เป็นพิเศษ ถ้าหากตนเอง หรือคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเผชิญกับอาการแพ้ทั้งหลายที่ทั้งทรมานกาย และน่ารำคาญใจ

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมื่อคุณแม่แพ้...เกสรดอกไม้ อัปเดตล่าสุด 19 เมษายน 2553 เวลา 14:39:36
TOP
x close