x close

ปลูกฝังคุณธรรม (ที่ไม่ใช่แค่ในอุดมคติ)

baby

ปลูกฝังคุณธรรม (ที่ไม่ใช่แค่ในอุดมคติ)
(modernmom)

           นอกเหนือจากความฉลาด และความสุขที่ลูกจะได้รับจากสมองที่ปิ๊งปั๊งแล้ว Blink Brain ยังก่อให้เกิดคุณธรรม ที่ไม่ใช่คุณธรรมขั้นเทพแบบดีเลิศ จนกลายเป็นจริยธรรมเพียงแค่ในอุดมคติ แต่ลูกของเราจะมีคุณธรรม ขณะเดียวกันยังเอาตัวรอดได้ในสังคมยุคนี้แน่นอน

Blink Brain สร้างคุณธรรม

           คุณแม่คงสงสัยใช่ไหมล่ะคะ ว่า Blink Brain เข้าไปเกี่ยวกับการปลูกฝังจริยธรรมได้อย่างไร

           Sigmund Freud และ Erik Erikson นักจิตวิทยากลุ่มจิตวิเคราะห์ ได้อธิบายไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเด็กกับคนที่เลี้ยงดู คือหัวใจสำคัญในการพัฒนาตัวตนและคุณธรรมของเด็ก แม้ว่าในช่วงแรกเด็กจะเลียนแบบโดยไม่เข้าใจความหมาย แต่เมื่อโตขึ้น ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้จะพัฒนาเป็นความเห็นอกเห็นใจคนอื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา (Empathy) ซึ่งความรู้สึกนี้นอกจากจะมีต่อพ่อแม่แล้ว ยังเผื่อแผ่ไปสู่คนอื่นด้วย ซึ่งความรู้สึกเห็นอกเห็นใจนี้เอง เป็นรากฐานสำคัญของการสร้างคุณธรรมให้เกิดขึ้นให้จิตใจของเด็ก ตรงนี้แหละค่ะที่ Blink Brain เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับคุณธรรม

           อย่างที่ Modern Mom เคยนำเสนอในฉบับก่อน ๆ นี้แล้วว่า Blink Brain เกิดจากสุนทรียศาสตร์ คือการมองเห็นความงามของสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวมักเป็นคนที่มีจิตใจดี มีคุณธรรม เพราะจิตใจละเอียดอ่อน ไวต่อความรู้สึกของคนอื่น เหมือนที่นักปราชญ์สมัยโบราณกล่าวไว้ว่า "ความงามเป็นบ่อเกิดของความดี"

           ส่วนคุณธรรมแบบ Blink Brain ที่เกริ่นไว้แต่ต้นว่า ไม่ใช่คุณธรรมแบบขั้นเทพ แต่เป็นคุณธรรมแบบมนุษย์ปุถุชน ที่อยู่รอดได้ในสังคมของการแข่งขันนั้น นพ.อุดม เพชรสังหาร อธิบายว่า "ถ้าพูดถึงคำว่าคุณธรรม คนมักจะนึกถึงคนดี ที่เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นทุกอย่าง โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากของตัวเองหรือครอบครัว ขอเพียงแค่ได้ทำตามอุดมการณ์ของตน แบบนี้ในทางของ Blink Brian ถือว่าไม่ใช่ เพราะคุณกำลังเบียดเบียนตัวเอง เบียดเบียนลูกหรือภรรยา แต่เอาใจใส เข้าอกเข้าใจคนอื่นที่ไกลตัว แต่คุณธรรมแบบตามแบบฉบับของ Blink Brain นั้น เพียงแค่เข้าใจ เห็นใจ และไม่ไปเบียดเบียนตัวเองและคนอื่น ซึ่งคุณธรรมแบบที่ไม่เบียดเบียนทั้งตัวเอง และคนอื่นที่จะช่วยให้ลูกอยู่รอดได้ในสังคมได้"

เทคนิคปลูกฝังคุณธรรมแบบ Blink Brian

           หนทางที่จะทำให้ลูกมีคุณธรรมแบบ Blink Brain ได้นั้น ก็คือวิธีการทำให้ลูกสัมผัสสุนทรียศาสตร์ให้มากที่สุดนั่นเองค่ะ

           1. พ่อแม่เป็นแบบอย่าง การที่ลูกจะเข้าถึงดนตรีและศิลปะเหล่านั้น ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ จะรู้จักเองได้ แต่พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก เพื่อที่เขาจะได้ซึมซับเอาสิ่งเหล่านั้นเข้าไป

           2. อาศัยเครื่องมือช่วย อันได้แก่

           ศิลปะ ในที่นี้หมายรวมถึงทั้งงานศิลปะ และศิลปะการแสดงเข้าไปด้วยค่ะ เพราะทั้งสองงาน ที่กล่าวข้างต้น ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน เพราะศิลปะมีมิติ มีความขัดแย้ง และก็มีความลงตัวอยู่ในตัวของมันเอง

          นิทาน เป็นเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้พ่อแม่ปลูกฝังเรื่องต่างๆ ให้ลูกได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพัฒนาการ ฝึกนิสัย เสริมสร้างจินตนาการ และก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับการสร้างสุนทรียศาสตร์ให้ลูก เช่นกัน แต่จะอ่านอย่างไรนั้น คุณแม่สามารถย้อนอ่านได้ในคอลัมน์ Blink Brian อ่านนิทานเอารส (ชาติ) ฉบับเดือนมีนาคมค่ะ

          ดนตรี โดยเฉพาะดนตรีบรรเลงที่มีเพียงเสียงของเครื่องดนตรีหลายๆ ชิ้นมารวมกัน บวกกับเทคนิคการฟังอีกนิดหน่อย (ที่จะกล่าวถึงในบทต่อๆ ไป) จะทำให้ลูกเป็นคนหูไวต่อเสียง ตาไวต่อสีหน้าท่าทาง กายไวต่อสัมผัสที่แตกต่างออกไป ซึ่งเขาจะไวต่อความรู้สึกอีกด้วย

          3. สม่ำเสมอ อันนี้สำคัญค่ะ เพราะถ้าจะถามว่าพ่อแม่ควรเป็นต้นแบบลูกเมื่อไหร่ ต้องให้ลูกฟังดนตรี อ่านนิทาน ทำงานศิลปะเมื่ออายุเท่าไหร่ และมากแค่ไหนจึงจะสัมผัสสุนทรียศาสตร์ได้ บอกได้คำเดียวว่าเริ่มได้ทุกเมื่อ แต่ต้องต่อเนื่องค่ะ เพราะการทำซ้ำจนเป็นกิจวัตร ย่อมดีกว่าการฝึกเพียงประเดี๋ยวประด๋าวแน่นอน

          คุณแม่พอจะเห็นแนวทาง และความต่างของคุณธรรมทั้งสองแบบบ้างแล้วใช่ไหมคะ Blink Brain ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ ยังมีสิ่งเล็ก ๆ สิ่งน้อย ๆ อีกมากมาย ที่จะเป็นหนทางให้ลูกของคุณแม่อยู่รอดในยุค 2010 ต้องติดตามค่ะ

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.15 No.174 เมษายน 2553

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปลูกฝังคุณธรรม (ที่ไม่ใช่แค่ในอุดมคติ) อัปเดตล่าสุด 20 พฤษภาคม 2553 เวลา 16:07:16
TOP