ข้อควรรู้ก่อนเสริมจมูก จะต้องเตรียมตัวก่อนทำจมูกอย่างไร มีเรื่องอะไรที่ต้องรู้บ้าง รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำจมูก เพื่อป้องกันความผิดพลาด งานนี้ใครที่กำลังคิดจะอัปดั้งใหม่ ต้องรู้ไว้เลย
การเสริมจมูก ถือว่าเป็นเทรนด์ศัลยกรรมเสริมความงามที่มีอะไรให้อัปเดตตลอด และต้องยกให้เป็นอันดับ 1 ของการทำศัลยกรรมที่สาว ๆ นิยมทำกันเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหน คนรอบข้างก็พากันไปพึ่งมีดหมออัปจมูกให้ดูดีขึ้นกันทั้งนั้น จนบางคนอดใจไม่ไหวอยากจะมีจมูกสวย ๆ เหมือนกับคนอื่น ๆ ด้วยการอยากเสริมจมูกกับเขาบ้าง แต่ทั้งนี้ก่อนที่คิดจะทำ กระปุกดอทคอมมี 15 ข้อควรรู้ก่อนเสริมจมูกมาให้สาว ๆ ได้ศึกษากันก่อนค่ะ รับรองรู้แล้วไม่มีพลาดแน่นอน ดูสิว่าจะมีอะไรบ้าง
1. ศึกษาข้อมูลของสถานที่ และผลงานของศัลยแพทย์ที่คุณจะทำจมูกให้ดี
ข้อนี้สำคัญมากเลยนะสาว ๆ เพราะจมูกของคุณจะออกมาสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับข้อนี้แหละ ดังนั้น คุณจะต้องศึกษาข้อมูลของโรงพยาบาลหรือคลินิกทำศัลยกรรมให้ดี และที่สำคัญจะต้องศึกษาประวัติผลงานของศัลยแพทย์ด้วย โดยให้ดูว่าผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีเคสไหนที่เคยผิดพลาดบ้างไหม ซึ่งอย่างหลังอาจจะสืบยากนิดหน่อย แต่ถ้าหาข้อมูลรีวิวได้จะดีมาก เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจที่จะทำกับใครและทำที่ไหนได้ง่ายขึ้น
2. ปรึกษาคุณหมอเพื่อความมั่นใจ
เมื่อได้ตัวเลือกว่าจะทำจมูกที่ไหนหรือทำกับศัลยแพทย์คนไหนบ้างแล้ว คราวนี้ก็ต้องเดินเข้าไปปรึกษาคุณหมอโดยตรง โดยให้เลือกศัลยแพทย์มากกว่า 1 คน เพื่อเป็นตัวเลือก ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปคุยกับคุณหมอแล้วหากคุณมีข้อสงสัยอะไรให้ถามคุณหมอ เพื่อขอความรู้และคลายข้อสงสัย ซึ่งการเลือกคุยกับหมอหลาย ๆ คน จะช่วยให้คุณตัดสินใจและมีตัวเลือกเปรียบเทียบ และจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
3. เลือกทรงจมูกให้เข้ากับหน้า ชีวิตจะดี
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สาว ๆ จะต้องนึกถึงเมื่อตัดสินใจจะทำจมูกก็คือ "จะต้องเลือกทำจมูกให้เข้ากับหน้า" ทั้งนี้ คนเรามีรูปทรง พื้นที่จมูก และรูปหน้าแตกต่างกัน หากเลือกทรงจมูกได้สวยเข้ากับหน้าแล้ว รับรองว่าจมูกใหม่ของคุณจะช่วยเสริมลุคให้ดูดีและเป๊ะมากขึ้น แต่ถ้าทำแล้วไม่เข้ากับหน้า หรือไม่สวย ไม่ถูกใจ คุณอาจจะต้องเจ็บตัวอีกครั้งและเสียเงินอีกรอบเพื่อแก้จมูกใหม่ก็เป็นได้ แต่ถ้าหากสาว ๆ ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเหมาะกับจมูกทรงไหนก็ตามมาดู "วิธีเลือกทำจมูกให้เข้ากับหน้า" จากกระปุกดอทคอมกันได้เลยค่ะ
4. เลือกใช้ซิลิโคนแบบไหนดี ?
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกมีหลายแบบ แล้วจะเลือกใช้แบบไหนดี ? คำตอบก็คือ สาว ๆ ที่มีจมูกเล็ก เนื้อบาง เหมาะกับซิลิโคนอ่อน ทำออกมาแล้วจะดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ ส่วนถ้าใครที่มีเนื้อจมูกหนา ควรเลือกซิลิโคนแบบที่นิ่มปานกลาง เมื่อทำออกมาแล้วจะได้จมูกที่ทรงสวย และทำไปนาน ๆ จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาจมูกยุบตัวง่ายด้วย แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่มีเนื้อจมูกน้อยมาก ๆ การเสริมเฉพาะซิลิโคนอย่างเดียวอาจได้ทรงไม่สวยพอ และเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุออกมาง่าย คุณหมอจะแนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังใบหู ในบางเคสอาจมีการเอาเนื้อเยื่อส่วนอื่นร่วมด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ปลายจมูก และได้ปลายจมูกที่สวยเข้ารูปขึ้น
5. ศึกษาผลกระทบหลังทำจมูกเอาไว้ก่อน
ผลกระทบหลังทำจมูก ถือเป็นปัญหาแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้น สาว ๆ ควรจะศึกษาและเรียนรู้เอาไว้ก่อนที่จะคิดผ่าตัดเสริมจมูก เพราะบางคนเมื่อทำจมูกแล้วอาจจะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ อย่างเช่น จมูกเบี้ยว ซิลิโคนทะลุ เลือดคั่ง แผลแยกและมีเลือดออกผิดปกติ หรือแม้แต่การติดเชื้อ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะรุนแรงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของแต่ละคน ถ้าใครที่มีปัญหาเหล่านี้ อย่ารอช้า ให้รีบปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำการรักษาหรือแก้จมูกโดยด่วน
6. ดูว่าตัวเองมีโรคประจำตัวหรือไม่ และแจ้งให้แพทย์ทราบ
หากเรารู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเอดส์ โรคเบาหวาน โรคไต หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรแจ้งศัลยแพทย์ให้ละเอียดว่าเป็นอะไร กินยาชนิดใด แพ้ยาตัวไหนบ้าง เพื่อแพทย์จะได้วางแผนการรักษาและป้องกันความเสี่ยงที่เป็นไปได้หลังการผ่าตัด เช่น แผลหายช้า เลือดออกมาก และเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไปที่ไม่มีโรคประจำตัว
7. เตรียมตัวก่อนทำจมูก ต้องทำอย่างไรบ้าง
ถ้าหากคิดว่าการเสริมจมูกเป็นเรื่องชิล ๆ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่ดูแลหลังการทำจมูกก็พอ ขอบอกว่าไม่ได้เลยนะคะ เพราะขั้นตอนก่อนการผ่าตัดก็สำคัญไม่แพ้กัน หากพลาดไปละก็ อาจเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นมารู้ถึงการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกกัน
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะเป็นตัวการทำให้แผลหายช้า และระดับยาในเลือดเปลี่ยนแปลง
- งดกินยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
- งดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด อย่างน้อย 7-10 วัน เพื่อป้องกันอาการเลือดหยุดไหลช้า แถมหลังผ่าตัดหน้าอาจบวมเหมือนโดนรุมต่อยมา
- งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะมีปัญหาเรื่องความสดใหม่และการปนเปื้อน เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
8. การเตรียมตัวในวันผ่าตัดเสริมจมูก เพื่อความสวยพร้อม
สำหรับการเตรียมตัวในวันผ่าตัดทำจมูก มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง หากต้องดมยาสลบ
- รับประทานอาหารเบา ๆ ก่อนเวลาผ่าตัดช่วง 4-6 ชั่วโมง หากไม่ดมยาสลบ
- งดแต่งหน้า ล้างหน้า และแคะจมูกให้สะอาด
- สระผมก่อนให้เรียบร้อย เพราะแผลห้ามโดนน้ำหลังการผ่าตัดในช่วงแรก ๆ การสระผมอาจไม่สะดวก
9. อุปกรณ์สำหรับคนเสริมจมูก ที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อม
ผ่าตัดเสร็จแล้ว การใช้ชีวิตย่อมลำบากขึ้นชัวร์ ๆ ถ้าให้ดีมาจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ใช้สำหรับช่วงหลังผ่าตัดเสริมจมูกกันดีกว่า ไอเทมที่ควรมี ได้แก่
- หมอนรองคอ
กันนอนดิ้นแล้วทับจมูก ทำให้ไม่พลิกตะแคงง่าย ๆ ไม่เมื่อยบริเวณคอ และนอนหลับได้สนิทมากขึ้น อีกทั้งการหนุนให้นอนหัวสูงหลังผ่าตัดจะช่วยลดบวมและหายไวขึ้น
- เจลประคบเย็น ผ้าเย็น ผ้าขนหนู
ไว้ประคบเย็นบริเวณข้างแก้มทั้ง 2 ข้าง และบริเวณหน้าผาก อาจเตรียมไว้หลายผืนจะได้มีประคบต่อเนื่องในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด เพื่อช่วยให้จมูกเข้าที่และหายบวมไว
- ชุดทำแผล
ควรมีสำลี คอตตอนบัต น้ำเกลือล้างแผล เพื่อเช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลให้สะอาด
- เสื้อที่ใส่แบบติดกระดุม
หลังผ่าตัดกลับมาบ้าน เวลาจะถอดเสื้ออาบน้ำจะได้สะดวกกว่า ไม่ใช่เสื้อรัดติ้ว เวลาจะถอดทีหนึ่งหลบจมูกไปครึ่งชั่วโมง จมูกจะได้ไม่บอบช้ำจากอะไรที่ไม่จำเป็น
- กระดาษซับหน้ามัน
หลังจากที่ศัลยกรรมเสริมจมูกแล้ว ห้ามแผลผ่าตัดโดนน้ำ 7 วัน ดังนั้นการทำความสะอาดใบหน้า 3-4 วันแรกให้ใช้กระดาษซับมัน ตามด้วยสำลีชุบน้ำเช็ดทั่วใบหน้า และหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งบริเวณจมูก
10. การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
ถ้าอยากให้แผลผ่าตัดหายเร็ว คุณจะต้องทำตามคำสั่งของคุณหมอ ดูแลตัวเอง และรับประทานยาตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการโดนแผล เพื่อให้อาการหลังผ่าตัดกลับสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด
- ประคบเย็นติดต่อกันหลังจากผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง 3 วัน หากไม่ประคบเย็นจะทำให้เกิดเลือดออกและมีพังผืดเกิดขึ้น ส่งผลให้จมูกเบี้ยวได้ แล้วจึงประคบอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- กินยาตามที่แพทย์แนะนำจนกว่าจะหมด
- ล้างหน้าด้วยผ้าหรือสำลีชุบน้ำ แทนการล้างหน้าด้วยวิธีปกติ เพื่อลดการกระแทกที่เกิดขึ้นจากมือ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการแพ้อากาศ รวมถึงการไอ จาม มีน้ำมูก
- แต่หากจำเป็นจริง ๆ ควรใส่แมสก์ป้องกันไว้ โดยใช้แบบวันต่อวันนะคะ ไม่ต้องเสียดาย เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการหมักหมม
- สามารถนอนตะแคงได้ ไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ เพราะโดยปกติแล้วแพทย์จะทำการติดเทปเอาไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่อยู่แล้ว แต่ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
11. ข้อห้ามหลังเสริมจมูก
- ห้ามให้จมูกโดนน้ำ อย่างน้อย 7-10 วัน เพราะถ้าหากจมูกโดนน้ำอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และทำให้แผลหายยากมากขึ้น
- งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
- งดการแต่งหน้า และเสริมความงามใบหน้า เช่น การกดสิว และยิงเลเซอร์ เพราะอาจทำให้ยิ่งเกิดการอักเสบและแผลหายช้ามากขึ้น
- หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น บอล บาสเกตบอล และหลังจาก 1 เดือนจมูกจะเข้าที่ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
12. หลังทำจมูกกินอะไรได้บ้าง
ช่วงหลังทำจมูกอย่างน้อย 10 วัน ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนี้ อาหารบางประเภทมีความสำคัญต่อการหายของแผลทั้งภายในและภายนอก โดยทำให้เนื้อเยื่อสมานติดกันได้เร็วขึ้น จะมีเมนูอะไรบ้าง เรามีมาแนะนำกันค่ะ
- อาหารที่มีโปรตีนสูง มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน เช่น เนื้อปลา
- ธัญพืช และถั่วต่าง ๆ ทั้งถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง
- ฟักทอง และใบบัวบก ช่วยลดอาการบวมช้ำภายหลังการเสริมจมูกได้ดียิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำใบบัวบก น้ำมะพร้าว เพื่อลดอาการฟกช้ำได้เร็วขึ้น
- ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนและสารอาหารส่งไปรักษาแผลได้เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้โดยเร็ว
13. ทำจมูกกินไข่ได้ไหม
เป็นข้อถกเถียงกันมากว่าทำจมูกกินไข่ได้หรือไม่ ? เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้แผลหายช้า จริง ๆ แล้วไข่เป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดีที่หาง่าย ช่วยให้แผลหายไวขึ้น แต่ว่าจากการหายของแผลที่เร็ว อาจทำให้แผลนูนง่ายหรือเป็นรอยแผลเป็นได้ค่ะ ดังนั้นควรให้คุณหมอแนะนำเป็นกรณีไป ถ้าการเสริมจมูกปกติดีก็เลี่ยงก่อน แต่ถ้าแผลไม่ดีขึ้น อยากให้แผลหายไว ๆ คุณหมออาจจะเน้นให้กินไข่ขาวช่วย
14. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำจมูก
ควรงดอาหารรสจัด เค็ม โซเดียมเยอะ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กคัพ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการบวม รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน อาหารทะเล เครื่องดื่มมึนเมา และอาหารหมักดอง ของแสลงต่าง ๆ อย่างส้มตำ ปลาร้า กะปิ ถือว่าตัวดีเลยค่ะ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อ หากทำตามนี้จะช่วยทำให้จมูกของคุณเข้าที่ได้เร็วขึ้น
15. เมื่อเลือดแห้งกรังในจมูก ทำยังไงดี ?
สำหรับปัญหาเลือดแห้งกรังในจมูก ให้สาว ๆ ทำใจไว้เลย เพราะปัญหานี้ทุกคนที่ทำจมูกจะต้องเจออย่างแน่นอน ซึ่งวิธีดูแลจัดการกับปัญหาก็คือ ให้ใช้คัตตอนบัด ชุบน้ำเกลือ หรือน้ำอุ่น แล้วค่อย ๆ เอามาเช็ดบริเวณก้อนเลือด จากนั้นให้ใช้วาสลีนทาซ้ำอีกที โดยให้ทำแบบนี้เป็นประจำ ก้อนเลือดที่แห้งกรังจะค่อย ๆ อ่อนและหลุดออกมาเอง อย่าแคะ แกะ หรือเกาเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้แผลฉีกได้
เมื่อรู้ครบทั้ง 15 ข้อกันแล้ว คราวนี้สาว ๆ คนไหนที่อยากจะทำสวยด้วยการเสริมจมูก ก็เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปอัปดั้งใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมกันเลย รับรองไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : yanhee.net, rama.mahidol.ac.th, estique-clinic.com, sowongroup.com
1. ศึกษาข้อมูลของสถานที่ และผลงานของศัลยแพทย์ที่คุณจะทำจมูกให้ดี
ข้อนี้สำคัญมากเลยนะสาว ๆ เพราะจมูกของคุณจะออกมาสวยหรือไม่สวยก็ขึ้นอยู่กับข้อนี้แหละ ดังนั้น คุณจะต้องศึกษาข้อมูลของโรงพยาบาลหรือคลินิกทำศัลยกรรมให้ดี และที่สำคัญจะต้องศึกษาประวัติผลงานของศัลยแพทย์ด้วย โดยให้ดูว่าผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร มีเคสไหนที่เคยผิดพลาดบ้างไหม ซึ่งอย่างหลังอาจจะสืบยากนิดหน่อย แต่ถ้าหาข้อมูลรีวิวได้จะดีมาก เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณตัดสินใจที่จะทำกับใครและทำที่ไหนได้ง่ายขึ้น
2. ปรึกษาคุณหมอเพื่อความมั่นใจ
เมื่อได้ตัวเลือกว่าจะทำจมูกที่ไหนหรือทำกับศัลยแพทย์คนไหนบ้างแล้ว คราวนี้ก็ต้องเดินเข้าไปปรึกษาคุณหมอโดยตรง โดยให้เลือกศัลยแพทย์มากกว่า 1 คน เพื่อเป็นตัวเลือก ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปคุยกับคุณหมอแล้วหากคุณมีข้อสงสัยอะไรให้ถามคุณหมอ เพื่อขอความรู้และคลายข้อสงสัย ซึ่งการเลือกคุยกับหมอหลาย ๆ คน จะช่วยให้คุณตัดสินใจและมีตัวเลือกเปรียบเทียบ และจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
3. เลือกทรงจมูกให้เข้ากับหน้า ชีวิตจะดี
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่สาว ๆ จะต้องนึกถึงเมื่อตัดสินใจจะทำจมูกก็คือ "จะต้องเลือกทำจมูกให้เข้ากับหน้า" ทั้งนี้ คนเรามีรูปทรง พื้นที่จมูก และรูปหน้าแตกต่างกัน หากเลือกทรงจมูกได้สวยเข้ากับหน้าแล้ว รับรองว่าจมูกใหม่ของคุณจะช่วยเสริมลุคให้ดูดีและเป๊ะมากขึ้น แต่ถ้าทำแล้วไม่เข้ากับหน้า หรือไม่สวย ไม่ถูกใจ คุณอาจจะต้องเจ็บตัวอีกครั้งและเสียเงินอีกรอบเพื่อแก้จมูกใหม่ก็เป็นได้ แต่ถ้าหากสาว ๆ ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเหมาะกับจมูกทรงไหนก็ตามมาดู "วิธีเลือกทำจมูกให้เข้ากับหน้า" จากกระปุกดอทคอมกันได้เลยค่ะ
อย่างที่รู้ ๆ กันว่าซิลิโคนสำหรับเสริมจมูกมีหลายแบบ แล้วจะเลือกใช้แบบไหนดี ? คำตอบก็คือ สาว ๆ ที่มีจมูกเล็ก เนื้อบาง เหมาะกับซิลิโคนอ่อน ทำออกมาแล้วจะดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ ส่วนถ้าใครที่มีเนื้อจมูกหนา ควรเลือกซิลิโคนแบบที่นิ่มปานกลาง เมื่อทำออกมาแล้วจะได้จมูกที่ทรงสวย และทำไปนาน ๆ จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาจมูกยุบตัวง่ายด้วย แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่มีเนื้อจมูกน้อยมาก ๆ การเสริมเฉพาะซิลิโคนอย่างเดียวอาจได้ทรงไม่สวยพอ และเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุออกมาง่าย คุณหมอจะแนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังใบหู ในบางเคสอาจมีการเอาเนื้อเยื่อส่วนอื่นร่วมด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ปลายจมูก และได้ปลายจมูกที่สวยเข้ารูปขึ้น
5. ศึกษาผลกระทบหลังทำจมูกเอาไว้ก่อน
ผลกระทบหลังทำจมูก ถือเป็นปัญหาแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้น สาว ๆ ควรจะศึกษาและเรียนรู้เอาไว้ก่อนที่จะคิดผ่าตัดเสริมจมูก เพราะบางคนเมื่อทำจมูกแล้วอาจจะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ อย่างเช่น จมูกเบี้ยว ซิลิโคนทะลุ เลือดคั่ง แผลแยกและมีเลือดออกผิดปกติ หรือแม้แต่การติดเชื้อ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะรุนแรงมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของแต่ละคน ถ้าใครที่มีปัญหาเหล่านี้ อย่ารอช้า ให้รีบปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อทำการรักษาหรือแก้จมูกโดยด่วน
6. ดูว่าตัวเองมีโรคประจำตัวหรือไม่ และแจ้งให้แพทย์ทราบ
หากเรารู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเอดส์ โรคเบาหวาน โรคไต หรือ โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ควรแจ้งศัลยแพทย์ให้ละเอียดว่าเป็นอะไร กินยาชนิดใด แพ้ยาตัวไหนบ้าง เพื่อแพทย์จะได้วางแผนการรักษาและป้องกันความเสี่ยงที่เป็นไปได้หลังการผ่าตัด เช่น แผลหายช้า เลือดออกมาก และเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไปที่ไม่มีโรคประจำตัว
ถ้าหากคิดว่าการเสริมจมูกเป็นเรื่องชิล ๆ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่ดูแลหลังการทำจมูกก็พอ ขอบอกว่าไม่ได้เลยนะคะ เพราะขั้นตอนก่อนการผ่าตัดก็สำคัญไม่แพ้กัน หากพลาดไปละก็ อาจเกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นมารู้ถึงการเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกกัน
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะเป็นตัวการทำให้แผลหายช้า และระดับยาในเลือดเปลี่ยนแปลง
- งดกินยาแก้ปวด ลดกล้ามเนื้ออักเสบ ก่อนผ่าตัด เช่น ยากลุ่มแอสไพริน (Aspirin) หรือ ไอบิวโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ แนะนำให้ใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการปวดเท่านั้น
- งดวิตามิน น้ำมันตับปลา อาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด อย่างน้อย 7-10 วัน เพื่อป้องกันอาการเลือดหยุดไหลช้า แถมหลังผ่าตัดหน้าอาจบวมเหมือนโดนรุมต่อยมา
- งดของแสลงจำพวกของดอง น้ำอัดลม รวมถึงอาหารทะเล อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะมีปัญหาเรื่องความสดใหม่และการปนเปื้อน เสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
8. การเตรียมตัวในวันผ่าตัดเสริมจมูก เพื่อความสวยพร้อม
สำหรับการเตรียมตัวในวันผ่าตัดทำจมูก มีวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดอาหารและน้ำ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง หากต้องดมยาสลบ
- รับประทานอาหารเบา ๆ ก่อนเวลาผ่าตัดช่วง 4-6 ชั่วโมง หากไม่ดมยาสลบ
- งดแต่งหน้า ล้างหน้า และแคะจมูกให้สะอาด
- สระผมก่อนให้เรียบร้อย เพราะแผลห้ามโดนน้ำหลังการผ่าตัดในช่วงแรก ๆ การสระผมอาจไม่สะดวก
ผ่าตัดเสร็จแล้ว การใช้ชีวิตย่อมลำบากขึ้นชัวร์ ๆ ถ้าให้ดีมาจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ใช้สำหรับช่วงหลังผ่าตัดเสริมจมูกกันดีกว่า ไอเทมที่ควรมี ได้แก่
- หมอนรองคอ
กันนอนดิ้นแล้วทับจมูก ทำให้ไม่พลิกตะแคงง่าย ๆ ไม่เมื่อยบริเวณคอ และนอนหลับได้สนิทมากขึ้น อีกทั้งการหนุนให้นอนหัวสูงหลังผ่าตัดจะช่วยลดบวมและหายไวขึ้น
- เจลประคบเย็น ผ้าเย็น ผ้าขนหนู
ไว้ประคบเย็นบริเวณข้างแก้มทั้ง 2 ข้าง และบริเวณหน้าผาก อาจเตรียมไว้หลายผืนจะได้มีประคบต่อเนื่องในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด เพื่อช่วยให้จมูกเข้าที่และหายบวมไว
- ชุดทำแผล
ควรมีสำลี คอตตอนบัต น้ำเกลือล้างแผล เพื่อเช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลให้สะอาด
- เสื้อที่ใส่แบบติดกระดุม
หลังผ่าตัดกลับมาบ้าน เวลาจะถอดเสื้ออาบน้ำจะได้สะดวกกว่า ไม่ใช่เสื้อรัดติ้ว เวลาจะถอดทีหนึ่งหลบจมูกไปครึ่งชั่วโมง จมูกจะได้ไม่บอบช้ำจากอะไรที่ไม่จำเป็น
- กระดาษซับหน้ามัน
หลังจากที่ศัลยกรรมเสริมจมูกแล้ว ห้ามแผลผ่าตัดโดนน้ำ 7 วัน ดังนั้นการทำความสะอาดใบหน้า 3-4 วันแรกให้ใช้กระดาษซับมัน ตามด้วยสำลีชุบน้ำเช็ดทั่วใบหน้า และหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งบริเวณจมูก
10. การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
ถ้าอยากให้แผลผ่าตัดหายเร็ว คุณจะต้องทำตามคำสั่งของคุณหมอ ดูแลตัวเอง และรับประทานยาตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการโดนแผล เพื่อให้อาการหลังผ่าตัดกลับสู่สภาพปกติให้เร็วที่สุด
- ประคบเย็นติดต่อกันหลังจากผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง 3 วัน หากไม่ประคบเย็นจะทำให้เกิดเลือดออกและมีพังผืดเกิดขึ้น ส่งผลให้จมูกเบี้ยวได้ แล้วจึงประคบอุ่น เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- กินยาตามที่แพทย์แนะนำจนกว่าจะหมด
- ล้างหน้าด้วยผ้าหรือสำลีชุบน้ำ แทนการล้างหน้าด้วยวิธีปกติ เพื่อลดการกระแทกที่เกิดขึ้นจากมือ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีฝุ่นมาก ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการแพ้อากาศ รวมถึงการไอ จาม มีน้ำมูก
- แต่หากจำเป็นจริง ๆ ควรใส่แมสก์ป้องกันไว้ โดยใช้แบบวันต่อวันนะคะ ไม่ต้องเสียดาย เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการหมักหมม
- สามารถนอนตะแคงได้ ไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ เพราะโดยปกติแล้วแพทย์จะทำการติดเทปเอาไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่อยู่แล้ว แต่ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
11. ข้อห้ามหลังเสริมจมูก
- ห้ามให้จมูกโดนน้ำ อย่างน้อย 7-10 วัน เพราะถ้าหากจมูกโดนน้ำอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และทำให้แผลหายยากมากขึ้น
- งดสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ทุกชนิด
- งดการแต่งหน้า และเสริมความงามใบหน้า เช่น การกดสิว และยิงเลเซอร์ เพราะอาจทำให้ยิ่งเกิดการอักเสบและแผลหายช้ามากขึ้น
- หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น บอล บาสเกตบอล และหลังจาก 1 เดือนจมูกจะเข้าที่ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ช่วงหลังทำจมูกอย่างน้อย 10 วัน ควรเน้นรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนี้ อาหารบางประเภทมีความสำคัญต่อการหายของแผลทั้งภายในและภายนอก โดยทำให้เนื้อเยื่อสมานติดกันได้เร็วขึ้น จะมีเมนูอะไรบ้าง เรามีมาแนะนำกันค่ะ
- อาหารที่มีโปรตีนสูง มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน เช่น เนื้อปลา
- ธัญพืช และถั่วต่าง ๆ ทั้งถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง
- ฟักทอง และใบบัวบก ช่วยลดอาการบวมช้ำภายหลังการเสริมจมูกได้ดียิ่งขึ้น
- ดื่มน้ำใบบัวบก น้ำมะพร้าว เพื่อลดอาการฟกช้ำได้เร็วขึ้น
- ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำเป็นส่วนประกอบหลักในร่างกาย ทำให้ออกซิเจนและสารอาหารส่งไปรักษาแผลได้เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้โดยเร็ว
13. ทำจมูกกินไข่ได้ไหม
เป็นข้อถกเถียงกันมากว่าทำจมูกกินไข่ได้หรือไม่ ? เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้แผลหายช้า จริง ๆ แล้วไข่เป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดีที่หาง่าย ช่วยให้แผลหายไวขึ้น แต่ว่าจากการหายของแผลที่เร็ว อาจทำให้แผลนูนง่ายหรือเป็นรอยแผลเป็นได้ค่ะ ดังนั้นควรให้คุณหมอแนะนำเป็นกรณีไป ถ้าการเสริมจมูกปกติดีก็เลี่ยงก่อน แต่ถ้าแผลไม่ดีขึ้น อยากให้แผลหายไว ๆ คุณหมออาจจะเน้นให้กินไข่ขาวช่วย
14. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังทำจมูก
ควรงดอาหารรสจัด เค็ม โซเดียมเยอะ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กคัพ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอาการบวม รวมถึงอาหารเผ็ดร้อน อาหารทะเล เครื่องดื่มมึนเมา และอาหารหมักดอง ของแสลงต่าง ๆ อย่างส้มตำ ปลาร้า กะปิ ถือว่าตัวดีเลยค่ะ เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อ หากทำตามนี้จะช่วยทำให้จมูกของคุณเข้าที่ได้เร็วขึ้น
15. เมื่อเลือดแห้งกรังในจมูก ทำยังไงดี ?
สำหรับปัญหาเลือดแห้งกรังในจมูก ให้สาว ๆ ทำใจไว้เลย เพราะปัญหานี้ทุกคนที่ทำจมูกจะต้องเจออย่างแน่นอน ซึ่งวิธีดูแลจัดการกับปัญหาก็คือ ให้ใช้คัตตอนบัด ชุบน้ำเกลือ หรือน้ำอุ่น แล้วค่อย ๆ เอามาเช็ดบริเวณก้อนเลือด จากนั้นให้ใช้วาสลีนทาซ้ำอีกที โดยให้ทำแบบนี้เป็นประจำ ก้อนเลือดที่แห้งกรังจะค่อย ๆ อ่อนและหลุดออกมาเอง อย่าแคะ แกะ หรือเกาเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้แผลฉีกได้
เมื่อรู้ครบทั้ง 15 ข้อกันแล้ว คราวนี้สาว ๆ คนไหนที่อยากจะทำสวยด้วยการเสริมจมูก ก็เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม แล้วไปอัปดั้งใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมกันเลย รับรองไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : yanhee.net, rama.mahidol.ac.th, estique-clinic.com, sowongroup.com