x close

อากาศเปลี่ยน...แม่ท้องระวังภูมิแพ้!



อากาศเปลี่ยน...แม่ท้องระวังภูมิแพ้!
(M&C แม่และเด็ก)

           สภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล อาจกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้อากาศได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่อากาศชื้น คุณแม่ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น เพื่อไม่ให้แพ้อากาศและเป็นหวัดได้ง่าย

แม่ท้อง...แพ้อากาศ

           ภูมิแพ้อากาศเป็นภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ทางการหายใจ หรือจากการสัมผัสกับอากาศในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง จึงพบได้ค่อนข้างมากในช่วงที่ยังไม่ตั้งครรภ์ เพราะไม่สามารถหลีกเลี่ยงอากาศได้ แต่ในช่วงตั้งครรภ์อาจมีอาการมากขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงและภูมิต้านทานของร่างกายลดลง ภูมิแพ้อากาศจะทำให้มีอาการแน่นคัดจมูก คันจมูก คันตา มีน้ำมูกใส ๆ เจ็บคอ ตอนช่วงเช้าหลังตื่นนอน มีอาการคล้ายเป็นหวัด และถ้ามีอาการมากอาจทำให้เป็นไซนัสอักเสบหรือหอบหืดได้

           ในช่วงตั้งครรภ์จะทำให้โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) มีอาการแย่ลง 35 เปอร์เซ็นต์ อาการดีขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ และอาการคงเดิม 45 เปอร์เซ็นต์ และพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ 5 เปอร์เซ็นต์ มีอาการไซนัสอักเสบ

แพ้อากาศ...ป้องกันได้

           วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการภูมิแพ้อากาศในช่วงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะคุณแม่ที่แพ้อากาศบ่อย ๆ คือ การทำจิตใจให้สบาย ไม่มีความเครียด และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งการป้องกันอาการไว้ก่อน เป็นวิธีที่ดีกว่าการใช้ยาที่ทำให้อาการดีขึ้นเพียงช่วงระยะสั้น ๆ

           สภาพแวดล้อม : ถึงแม้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงอากาศเปลี่ยนแปลงได้ แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยง จากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จะกระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้

           หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอากาศไม่ดี อับ ชื้นหรือเย็นจัดพยายามอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี หมั่นรักษาความสะอาดภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ ให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้มีฝุ่น และมุมอับชื้นภายในบ้านเพราะจะกระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ง่าย

           พยายามหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ (ถึงแม้ไม่เคยมีประวัติว่าแพ้ แต่มีความเป็นไปได้ที่อาจก่อให้เกิดอาการไม่สบาย) เช่น ควันบุหรี่ ขนสัตว์ ไม่ควรปูพรมภายในบ้าน จัดบ้านให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีแสงแดดส่องถึง

           หาเวลาไปรับอากาศบริสุทธิ์ ภายนอกบ้านหรือไปสวนสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

           หากอยู่ในห้องที่เย็นจัดควรสวมเสื้อกันหนาวเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และปรับตัวกับอากาศได้

           ออกกำลังกาย : จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและทำให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยในการฝึกการหายใจให้คล่องได้อีกด้วย

           ออกกำลังกายด้วยท่าทางที่สามารถทำได้ เช่น การเดิน ว่ายน้ำ การบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ หรือโยคะคนท้อง (ต้องมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ) ควรหาเวลาออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 15-30 นาที

           ระหว่างการออกกำลังกาย ควรฝึกการหายใจเข้าและออกลึก ๆ ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปในปอดอย่างเต็มที่

           อาหาร : นอกจากกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ จะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้กับทารกแล้ว ยังช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้อากาศและหวัดได้อีกด้วย

           เลือกกินผักและผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ อาจเลือกกินผลไม้ 1 อย่างหลังอาหารทุกมื้อ โดยเฉพาะผลไม้ที่รสเปรี้ยวและน้ำมาก อย่างส้ม แตงโม สตรอเบอร์รี่ จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีและป้องกันอาการหวัดได้

           ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ เพื่อรักษาสมดุลและอุณหภูมิให้ร่างกาย

           กินวิตามินเสริมตามที่คุณหมอสั่งทุกวัน

รักษาอาการแพ้อากาศ...ช่วงตั้งท้อง

           คุณแม่มักจะมีอาการโรคภูมิแพ้อากาศมากขึ้นในช่วงฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่มีเชื้อหวัดระบาดอยู่แล้ว และหากเป็นหวัดร่วมกับอาการภูมิแพ้ด้วย จะเสี่ยงต่อการเกิดไซนัสอักเสบ หูอักเสบแทรกช้อนมากขึ้นด้วย

           หากในช่วงที่อากาศขึ้นทำให้มีอาการคัดแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก อาจใช้วิธีการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือก็จะช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง แต่การใช้ยารักษา และบรรเทาอาการภูมิแพ้อากาศในช่วงตั้งครรภ์นั้น ควรปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อน ห้ามซื้อยามากินเอง และใช้ยาแก้แพ้เท่าที่จำเป็น ถึงแม้ว่าจะเป็นยาที่ใช้เป็นประจำก่อนการตั้งครรภ์ก็ตาม

           หากมีอาการภูมิแพ้ที่จมูกมาก ยาแก้แพ้ที่ปลอดภัย ได้แก่ CPM (คลอเฟนิรามีน) แอนติฮิสตามีน หรือยาแก้คัดจมูกชนิดพ่นจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายากิน และดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดต่ำมาก แต่ควรหลีกเลี่ยงไม่ใช้ติดต่อกันเกิน 10 วัน เพราะจะได้ผลทางการรักษาน้อยลง เกิดอาการดื้อยาและโพรงจมูกอักเสบที่เกิดจากยาได้

           นอกจากนี้ ยังมีการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ Immunotherapy หากฉีดมาแล้วตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์และไม่มีอาการข้างเคียง ก็สามารถฉีดต่อเนื่องได้ ระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งคุณหมออาจปรับปริมาณวัคซีนลดลงจากก่อนตั้งครรภ์ เพื่อลดโอกาสการแพ้วัคซีน แต่หากคุณแม่ไม่เคยฉีดวัคซีนนี้มาก่อน ก็ไม่ควรเริ่มต้นฉีดขณะตั้งครรภ์

           การรักษาและควบคุมอาการภูมิแพ้อย่างเหมาะสมและไปพบคุณหมอ เพื่อประเมินความรุนแรงของโรคและปรับยาให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณแม่เอาชนะอาการภูมิแพ้อากาศได้ค่ะ

แม่เป็นภูมิแพ้...ลูกจะเป็นด้วยไหม?

           อาการภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือการเลี้ยงดูและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ และลูกอาจไม่เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดเดียวกับที่แม่หรือพ่อเป็นก็ได้

           แม่เป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็น 30-50%

           พ่อเป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็น 30%

           แม่และพ่อเป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็น 50-70%

           แม่และพ่อไม่ได้เป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็น 14%

           ถึงแม้คุณแม่จะมีอาการภูมิแพ้ แต่ก็สามารถตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยได้ ถ้าอยู่ในความดูแลของคุณหมออย่างใกล้ชิดค่ะ

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.6 No.65 พฤษภาคม 2553

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อากาศเปลี่ยน...แม่ท้องระวังภูมิแพ้! อัปเดตล่าสุด 10 มิถุนายน 2553 เวลา 15:25:11 2,900 อ่าน
TOP