x close

ธรรมชาติการเรียนรู้ของลูก

baby - mom

ธรรมชาติการเรียนรู้ของคน (รักลุก)
โดย: นพ.อุดม เพชรสังหาร

            นายแพทย์อีริค อาร์ แคนเดล จิตแพทย์ชาวอเมริกันกล่าวประโยคนี้ไว้ หลังจากที่เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาการแพทย์จากผลงานศึกษาวิจัยเรื่อง "ชีววิทยาการเรียนรู้และความจำของมนุษย์" เป็นประโยคที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเรียน รู้ที่มีต่อชีวิตของคนเรา

            เรามีชีวิตที่เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ได้ ก็เพราะการเรียนรู้ที่ผ่าน ๆ มาของเรา เราเป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ก็เพราะเราได้เรียนรู้ความโอบอ้อมอารี เราเป็นคนหนักเอาเบาสู้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ก็เพราะบทเรียนชีวิตสอนเรามาแบบนั้น

            หลายคนโชคดีเพราะบทเรียนชีวิต หรือการเรียนรู้ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยบทเรียนดี ๆ บทเรียนที่มีคุณค่า แต่ก็มีบางคนที่โชคร้ายบทเรียนที่ได้รับกลับมีแต่ความขมขื่น แถมยังบั่นทอนความผาสุกของชีวิตในปัจจุบัน

            การเรียนรู้ที่ผ่านมา จึงเป็นตัวกำหนดความเป็นไปของชีวิตเราในปัจจุบัน คุณพ่อคุณแม่แฟน ๆ ของ รักลูก คงคิดเหมือนผมว่า แล้วทำอย่างไรลูก ๆ ของเราจึงจะได้เจอแต่บทเรียนที่ดีๆ และมีคุณค่าต่อชีวิตของเขา แล้วเราจะปกป้องพวกเขาจากบทเรียนที่ไม่ดีได้อย่างไร เราจะมีวิธีการส่งเสริมการเรียนรู้ของพวกเขาให้มีคุณภาพได้อย่างไร

            เพราะลูกก็คืออนาคตของเรา ถ้าพวกเขาเติบโตอย่างงดงามและมีคุณภาพ นั่นก็หมายความว่า อนาคตของคนที่เป็นพ่อแม่ก็ย่อมจะมีคุณภาพตามไปด้วย

            เรื่องนี้มีองค์ประกอบสำคัญอยู่สองประเด็นคือ วิธีการเรียนรู้ของเด็กเองกับบทเรียนที่เขาได้เรียนรู้ ถ้าสององค์ประกอบนี้ อันใดอันหนึ่งบกพร่องไป เขาก็จะไม่สามารถเติบโตอย่างมีคุณภาพตามที่เราต้องการได้ เพราะถึงเขาจะเรียนรู้ได้ดี แต่บทเรียนที่เรามีให้มันแย่เอามากๆ มันก็ไม่สามารถหล่อหลอมเขาให้ดีได้ ในทำนองกลับกันบทเรียนที่เราเสนอล้วนแต่มีคุณค่า แต่เขากลับไม่สามารถเรียนรู้ได้มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา

            ดังนั้นเราในฐานะพ่อแม่จึงต้องทำความเข้าใจเรื่องทั้งสองนี้ให้ดี เพราะหากเราเข้าใจ เราก็จะสามารถช่วยลูกของเราได้

            อันดับแรกมาทำความเข้าใจกับธรรมชาติการเรียนรู้ หรือวิธีการเรียนรู้ของเด็กกันก่อนครับ

            ปัจจุบันเราสามารถสรุปวิธีการเรียนรู้ของคนเราได้ 3 แบบด้วยกันคือ

1. การเรียนรู้โดยการเลียนแบบ (Imitative Learning)

            เป็นวิธีการเรียนรู้พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของคนเรา เราเรียนรู้ภาษา การสื่อสาร นิสัยใจคอ ท่าทาง กริยามารยาท ขนบธรรมเนียมประเพณี วิธีการทำมาหากิน การอ่านใจผู้อื่น ด้วยวิธีการเลียนแบบ หรือ Imitative Learning ทั้งสิ้น และการค้นพบเซลล์กระจกเงาในสมองของคนเรา ก็ยิ่งตอกย้ำว่าการเรียนรู้ด้วยวิธี การแบบนี้สำคัญอย่างไร

            การเรียนรู้แบบนี้บางครั้งก็เป็นไปโดยอัตโนมัติ และคุณภาพของมันอยู่ที่ คุณภาพของต้นแบบ การที่เด็กได้สัมผัส ได้ใกล้ชิดกับต้นแบบ

            อยากให้ลูกพูดเก่ง พูดเพราะ เราก็ต้องพูดภาษาที่เพราะ ๆ กับลูกบ่อย ๆ อยากให้ลูกเป็นคนเอื้อเฟื้อคนอื่น พ่อแม่ก็ต้องเป็นต้นแบบแห่งความเอื้อเฟื้อให้ลูกเห็น อยากให้ลูกไหว้ผู้ใหญ่พ่อแม่ก็จะต้องไหว้ให้ดู

2. การเรียนรู้โดยการสร้างความรู้ขึ้นมาเอง (Constructivism)

            บางคนก็เรียกการเรียนรู้แบบนี้ว่าเป็นการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก หรือการเรียนรู้แบบลงมือทำเอง (Learning by doing)

            ไม่มีใครสามารถอธิบายความเปรี้ยวของมะนาว ให้เรารับรู้ได้ว่ามันเป็นอย่างไร เราจะรู้ได้ก็ด้วยการชิมเองเท่านั้น หรือไฟที่ว่าร้อนหากฟังแต่คำอธิบายเราก็ไม่มีทางรู้ ความรู้บางอย่างจึงเป็น สิ่งที่เราจะต้องได้สัมผัสและสรุปออกมาเป็นของเราเองเท่านั้น

            ฌอง เปียเจต์ นักจิตวิทยาชาวสวิส เป็นคนแรกที่สังเกตพบว่าเด็กจะใช้วิธีการสัมผัส สำรวจ ทดสอบสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น และเด็กก็ได้รู้ว่า สิ่งที่ตนเองสนใจอยากรู้นั้นมันมีคุณสมบัติอย่างไร เช่น ได้รู้ว่าน้ำเย็นเพราะเอามือจุ่มน้ำ ก้อนหินแข้งเพราะได้เอามือไปสัมผัส แก้วน้ำที่ตกมาจากที่สูงจะแตกเพราะได้ทดลองทำ เป็นต้น

            ความรู้จำนวนมหาศาลที่ไม่สามารถสอนกันได้ ต้อง "ลงมือหา" หรือ "ลงมือสร้าง" ด้วยตนเอง พ่อ แม่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้ "สร้าง" ความรู้ด้วยตัวเขาเอง โดยเฉพาะความรู้เชิงทักษะ เช่น การเขียนหนังสือ วาดรูป ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน เป็นต้น

3. การเรียนรู้จากการมีผู้อื่นสอนสั่ง (Instructive Learning)

            เป็นวิธีการเรียนรู้ที่เราคุ้นเคยกันดี มีคนพูดคุย เล่า อธิบายให้ฟัง เด็กก็จะเก็บเอาข้อมูลเหล่านี้ไว้ในระบบความจำ ถึงเวลาก็สามารถดึงความรู้นั้นๆ ออกมาใช้ได้

            การเรียนรู้ทั้งสามแบบมีความสำคัญพอ ๆ กัน คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้เด็กได้ฝึกฝนการเรียนรู้ให้ครบถ้วนทุก ๆ แบบ เขาจะได้มีเครื่องมือที่มีคุณภาพ เพื่อการเรียนรู้ที่จะพัฒนาชีวิตของตนเอง

            เมื่อลูกมีเครื่องมือในการเรียนรู้ที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งที่เราต้องทำต่อไปก็คือ การหาบทเรียนที่มีคุณภาพให้แก่เขา เพื่อให้เขาได้ใช้ในการสร้าง "ความรู้" เพื่อ "สร้างชีวิต" ให้กับตัวเขาเอง

            นายแพทย์อีริค อาร์ แคนเดล ยืนยันว่าการเรียนรู้คือสิ่งที่สร้างชีวิตให้คนเรา แต่สำหรับเด็ก ๆ แล้วการเรียนรู้ที่มีคุณภาพจะไม่เกิดขึ้นเลย หากพ่อแม่ไม่เปิดโอกาสให้ ไม่มีการพัฒนาทักษะในการเรียนรู้ ไม่มีการป้อนบทเรียนที่มีคุณค่าให้กับลูก ดังนั้นคุณภาพในการเรียนรู้ของเด็กๆ จึงขึ้นกับความเข้าใจและการปฏิบัติของพ่อแม่เท่านั้น

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ธรรมชาติการเรียนรู้ของลูก อัปเดตล่าสุด 6 กรกฎาคม 2553 เวลา 15:06:20
TOP