x close

สัญญาณ โรคร้าย รู้ได้จากภายนอก

baby

สัญญาณ โรคร้าย รู้ได้จากภายนอก
(รักลูก)

            การดูแลสุขภาพของลูกต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก การหมั่นดูแลสุขภาพลูกโดยการสังเกตลักษณะทั่วไปจากภายนอก จะช่วยให้สามารถหาความผิดปกติหรือโรคต่าง ๆ ได้ค่ะ

            การตรวจร่างกายลูกโดยดูจากลักษณะทั่วไป สามารถบ่งชี้ความผิดปกติหรือโรคได้ดังนี้

            1. โรคทางพันธุกรรม เช่น สังเกตจากผิวหนัง หากลูกมีผิวซีด ลูกอาจจะเป็นโรคโลหิตจาง

            2. โรคภาวะทางโภชนาการ เช่น สังเกตจากช่องปาก หากมีเลือดออกตามไรฟัน อาจขาดวิตามินซี หากพบโรคปากนกกระจอก อาจขาดวิตามินบี

            3. โรคติดเชื้อ เช่น สังเกตมือและเท้าของลูกวัย 2-3 ขวบ หากมีตุ่ม อาจเป็นโรคมือเท้าปาก

ศีรษะและผม สังเกตจากรูปทรงของศีรษะ สีและลักษณะของเส้นผม

            รูปทรงของศีรษะ เด็กแรกเกิด หากกระหม่อมมีลักษณะโป่งนูนกว่าปกติ อาจเกิดความผิดปกติภายใน เช่น ความดันในสมองสูงขึ้น หรือมีเลือดออกในสมอง หากบุ๋มแฟบพร้อมท้องเสีย อาเจียนร่วมด้วย อาจแสดงว่ามีภาวะขาดน้ำ หากอายุ 2 ขวบกระหม่อม ยังไม่เต็ม อาจเป็นโรคทางพันธุกรรมหรือความผิดปกติของฮอร์โมน

            ผม เด็กแรกเกิดยังมีผมน้อยสังเกตได้ไม่ชัดเจน หลังอายุ 1 ขวบ จะเริ่มสังเกตได้ชัดขึ้น ผมควรมีการกระจายตัวสม่ำเสมอทั่วหนังศีรษะ นุ่ม ไม่หยาบ และหักง่าย หนังศีรษะ สะอาด ไม่มีรังแค ไม่มีกลิ่น สีสม่ำเสมอกันตลอดทั้งเส้น หากผมมีสีขีดจางหรือมีการไล่โทนสีในผมหนึ่งเส้น อาจบอกถึงภาวะขาดโภชนาการหรือลูกป่วย เช่น ลำไส้อักเสบ

ผิวหนัง สังเกตจากสีผิว ความชุ่มชื้นลักษณะผิว และฝ่ามือ ฝ่าเท้า

            สีผิว ผิวสุขภาพดี ควรมีสีชมพู มีเลือดฝาด หากใบหน้า ช่วงคอ และหน้าอกลูกมีสีแดง อาจบอกได้ว่ามีไข้ ผิวสีซีด หากใบหน้า ริมฝีปาก ฝ่ามือ และเล็บซีด อาจเป็นโรคโลหิตจาง หรือหากเป็นในเด็กทารกแสดงว่าอาจมีภาวะอุณหภูมิต่ำ

            ความชุ่มชื้น ผิวสุขภาพดีควรมีความชุ่มชื้น ไม่แห้ง สังเกตได้จากการกดบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ถ้าปกติจะคืนสีผิวไม่เกิน 2-3 วินาที ถ้าไม่ใช่และมีอาการท้องเสียร่วมด้วย อาจเป็นเพราะเกิดภาวะขาดน้ำ

            ลักษณะผิว ผิวสุขภาพดีควรเรียบเนียน หากมีผดผื่น เป็นๆ หายๆ อาจแสดงถึงภาวะภูมิแพ้ โดยเฉพาะในเด็ก อายุ 1 เดือนขึ้นไปที่กินนมผสมเสริม อาจเกิดจากการแพ้นมวัว หากมีวงสีเทา เป็นขุยขาวๆ อาจเกิดจากเป็นเชื้อราที่ผิวหนัง

            ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ควรมีสีไม่ซีดจนเกินไป อุณหภูมิค่อนข้างอุ่น หากมีเหงื่อออกมากและหัวใจเต้นแรง อาจบอกได้ว่าลูกเป็นโรคหัวใจ หรือต่อมทัยรอยด์เป็นพิษ

ตา แบ่งได้เป็น 2 ส่วน คือ ส่วนเปลือกตา และลูกนัยน์ตา

            เปลือกตา ควรมีสีแดงออกชมพู หากมีสีซีดอาจมีภาวะโลหิตจาง

            ลูกตา ควรมีสีขาว ไม่ปรากฏเส้นเลือดชัดเจน หากตาแห้ง อาจบอกได้ถึงภาวการณ์ขาดวิตามินเอ หากตาขาวมีสีผิดแผกไปจากเดิม เช่น มีสีเหลือง อาจเป็นโรคตับ มีสีแดง และหนังตาบวม และมีขี้ตาอาจเกิดการติดเชื้อไวรัส

เล็บ สังเกตจากสีและลักษณะพื้นผิด

            สีผิวใต้เล็บ ควรมีสีชมพู เมื่อกดแล้ว ควรมีการคืนของสีเล็บค่อนข้างเร็ว

             พื้นผิวเล็บ ควรเรียบเนียน หากมีผิวขรุขระ อาจมีภาวะขาดสารอาหาร หรืออาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรม หรือการได้รับสารพิษของแม่ขณะตั้งครรภ์

ปากและช่องปาก สังเกตจากริมฝีปาก สีและลักษณะของฟัน และลิ้น

            ริมฝีปาก ควรมีสีแดง ไม่ซีดหรือเขียวคล้ำ ไม่มีแผลหรือตุ่มบริเวณรอบ ๆ

             สีและลักษณะของฟัน ฟันของเด็กจะขึ้นหลังอายุครบ 6 เดือนโดยสีของฟันน้ำนมนั้น จะมีสีขาวขุ่น พื้นผิวยังไม่เรียบ หากมีสีหรือพื้นผิวผิดปกติ อาจบอกถึงโรคทางพันธุกรรม หรือโรคที่เกิดจากการรับสารพิษของแม่ขณะตั้งครรภ์ หากลูกอายุครบ 1 ขวบ แล้วฟันยังไม่ขึ้น แสดงว่าฮอร์โมนอาจผิดปกติหรือต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมทัยรอยด์ทำงานผิดปกติ

ลิ้น ควรมีสีชมพู ไม่มีตุ่ม ไม่มีฝ้าขาว หากพบฝ้าขาว อาจเป็นคราบนมหมักหมม และกลายเป็นเชื้อราได้

            เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงวิธีการตรวจร่างกายลูกเบื้องต้น ก็สามารถตรวจพบความผิดปกติ หรือลักษณะอาการเริ่มแรกของโรคได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการให้ข้อมูลกับคุณหมอในการวินิจฉัยโรค ซึ่งจะทำให้รักษาได้ครอบคลุมมากขึ้น

 คลิกอ่านความคิดเห็นของ เพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ปีที่ 28 ฉบับที่ 331 สิงหาคม 2553

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สัญญาณ โรคร้าย รู้ได้จากภายนอก อัปเดตล่าสุด 20 สิงหาคม 2553 เวลา 12:14:03
TOP