ทะเลาะเบาะแว้งอย่างไร ไม่ให้รักจืดจาง (แนวหน้า)
แม้แต่คู่รักที่หวานชื่น ก็ยังเลี่ยงการมีปากเสียงกันไม่ได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ถึงขั้นที่คุณและเขาต้องเลิกรากันไป ถ้าคุณสามารถจัดการกับการทะเลาะเบาะแว้งได้อย่างลงตัว
หลีกเลี่ยงคำพูดที่ถากถาง
ถ้าทุกครั้งที่มีเรื่องขัดใจกันแล้ว คุณจะต้องสรรหาคำพูด เพื่อให้เขาเจ็บปวดล่ะก้อ ลางร้ายในชีวิตคู่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะการพูดจาดูถูกดูแคลน ทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อกันลดน้อยลงไป แต่หากคุณมองว่าคนน่ารักก็ยังน่ารักเสมอ แม้ในยามที่คุณโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง คุณยอมรับได้ว่าเขาไม่ใช่คุณดีพร้อมซะที่ไหน และหากคุณมองว่าการที่เขาจะทำผิดพลาดไปบ้าง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนไม่ดี หรือคนเลวเสมอไป จะทำให้คุณควบคุมคำพูดได้แม้ในยามที่คุณโกรธจัดๆ ก็ตาม ควบคุมความโกรธ
การระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างกราดเกรี้ยว ไม่ได้มีผลดีแต่อย่างใดแต่ขณะเดียวกัน การเก็บความโกรธเอาไว้ ก็มีโทษอยู่เหมือนกัน เพราะยิ่งคุณเก็บกลั้นความโกรธเอาไว้มากๆ จะนำไปสู่การระเบิดอารมณ์ที่รุนแรงมากขึ้น
เพราะฉะนั้น จงอย่ากลั้นความโกรธ แต่ก็อย่าทำตามอารมณ์โกรธ จงหัดควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองให้ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกโกรธ ก็บอกตัวเองไปว่า "ฉันโกรธ" แต่อย่าลืมถามตัวเองว่า ที่คุณโกรธนั้น คุณมีเหตุผลหรือไม่ อย่าใช้เขาเป็นที่รองรับอารมณ์โกรธของคุณ จะเป็นการดีหากคุณไม่ต้องเก็บความรู้สึกที่ไม่ดีเอาไว้อีกต่อไป แต่ก็ไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวดใจ พออารมณ์สงบแล้ว ค่อยมาพูดจากัน ถ้าความโกรธของคุณมีเหตุผลเขาก็จะได้รู้ถึงข้อบกพร่องของตัวเอง แต่หากความโกรธของคุณไม่มีเหตุผลพอ คุณก็จะได้รู้ที่มาของความเจ้าอารมณ์ของคุณ โทษที่การกระทำ อย่าโทษที่ผู้กระทำ
แม้ว่าคุณจะรู้สึกไม่พอใจเขา แต่การกล่าวหา หรือการใช้คำพูดตำหนิติเตียนกัน มักนำไปสู่การมีปากเสียงกันได้ง่าย เพราะไม่มีใครพอใจที่จะถูกกล่าวหาอย่างนั้นหรอก ทุกคนก็จะพยายามปกป้องตัวเอง
จอห์น เกรย์ ผู้แต่งหนังสือขายดี " Men Are From Mars Women Are From Venus " บอกว่า ผู้ชายทนกับความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันกับผู้หญิงได้ แต่เขาทนความรู้สึกว่า เธอไม่ยอมรับเขาไม่ได้ และผู้หญิงก็มักใช้วิธีซักไซ้ไล่เลียงพฤติกรรมของเขา ด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่ยอมรับ... ดังนั้น ถ้าคุณไม่พอใจเขา ควรมุ่งประเด็นไปที่ตัวปัญหาอย่ากล่าวโทษที่ตัวผู้กระทำ และเรียนรู้ที่จะบอกความรู้สึกของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องเปิดใจรับฟังความรู้สึกของเขาด้วยเช่นกัน กฎข้อสำคัญที่จะหยุดการมีปากเสียงก็คือ
การตระหนักถึงความรักและความเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง และเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าการโต้เถียงเริ่มจะบานปลาย ควรจะหยุดพูด และเลี่ยงออกมาจากเหตุการณ์ตรงหน้ารอให้เวลาผ่านไปสักครู่ พออารมณ์สงบลง มีเวลาที่จะทบทวนตัวเอง ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วค่อยกลับมาพูดจากันใหม่
การยอมรับซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน มีเวลาสำรวจตัวเองและรับฟังอีกฝ่ายให้มาก แม้จะงัดข้อกันบ้าง ความรักก็ไม่จืดจางเป็นแน่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
