5 Classic Trends Make a Comeback (Lisa)
การกลับมาของ 5 เทรนด์แต่งหน้าสุดคลาสสิกในฤดูใบไม้ร่วง 2010 สีสันแห่งความหรูหราและสง่างาม เปี่ยมด้วยรายละเอียดถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่แล้ว
ยุค 50s Strong Lips ริมฝีปากสวย อวบอิ่ม
ริมฝีปากสุดบรรเจิดซีซั่นนี้จะออกไปในแนวของ เกรซ เคลลี่ ที่เน้นลิปสติกสีเข้มเนื้อกำมะหยี่ มากกว่าสีแวววาวจัดจ้านแนวอิเล็กทริกแบบ เลดี้ กาก้า เพื่อให้ริมฝีปากอิ่มสวย เงางาม ให้ทาปากด้วยลิปสติกแบบดินสอที่เข้ากับสีลิปสติกของคุณก่อน แล้วจึงใช้พู่กันทาลิปสติกทับอีกที ขี้ผึ้งจากดินสอจะช่วยให้ลิปสติกไม่ไหลเลอะรอบ ๆ ขอบริมฝีปาก
จำไว้ว่าเมื่อแต่งแต้มริมฝีปากจนโดดเด่นแล้ว เมกอัพส่วนที่เหลือนั้นจะเป็นตัวประกอบ ปกปิดริ้วรอยด้วยคอนซีลเลอร์ และแต่งคิ้วด้วยดินสอเขียนคิ้วที่สีอ่อนกว่าสีคิ้วธรรมชาติ 2 ระดับ แต่งตาให้ดูเรียบง่ายด้วยสีเทาอ่อนหรือสีเบจ และปัดขนตาด้วยมาสคาร่าสีดำ
ยุค 60s Dramatic Eyes ดวงตาคมเข้ม
เมกอัพของสาว ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ความงามแห่งยุคนี้ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ดวงตาคมเข้มเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น ทวิกกี้ จีน ชริมป์ตัน โซเฟีย ลอเรน อีดี้ เช็ดจ์วิค หรือ บริจิตต์ บาร์โดต์ ไอเท็มจำเป็นสำหรับการสร้างสรรค์ลุคนี้ขึ้นมาอีกครั้งคือ อายไลเนอร์เนื้อครีมหรือแบบน้ำ กับมาสคาร่าแบบเพิ่มความหนาของขนตา หลังจากลงอายแชโดว์สีน้ำตาลหม่นทั่วเปลือกตาแล้ว เขียนอายไลเนอร์สีดำไปตามแนวขนตาบน จากขอบด้านในไปหาด้านนอก แล้วใช้พู่กันไลเนอร์แบบหัวแบนเขียนขอบตาล่าง ด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลเข้ม เพื่อให้บาลานซ์กับเส้นไลเนอร์หนาที่ขอบตาบน ขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นไม้ตายคือ สุดยอดขนตาเด่นเด้งโดยปัดมาสคาร่าทับ 3 ชั้นหรือติดขนตาปลอมแบบเต็มแผง ส่วนที่เหลือบนใบหน้าควรคุมโทนด้วยสีกลาง ๆ เช่น บลัชสีชมพูชีต และกลอสสีเบจอมพีช
ยุค 70s Allover Shimmer ประกายเจิดจ้าทั่วใบหน้า
การแต่งหน้าในยุคดิสโก้นั้น สามารถกลับมาเป็นแทรนด์แต่งหน้าในชีวิตประจำวันได้ ด้วยความแวววาวเจิดจรัสจากประกายชิมเมอร์อ่อน ๆ ของแป้ง ลิปกลอส และครีม ที่จะทำให้แก้มเรียวปาก และเปลือกตาของคุณดูเรืองรอง โดยไม่เห็นเป็นเกล็ดหรือกากเพชรชัดเกินไป
ชิมเมอร์สีเหลืองทอง ทำให้ผิวสีเข้มเปล่งประกายเป็นพิเศษ ประกายสีเงินหรือเทาเข้มจะทำให้ผิวสีอ่อนดูเจิดจ้า ลงอายแชโดว์ที่มีประกายบนเปลือกตาและใต้คิ้ว (เลี่ยงบริเวณขอบตา เพราะความแวววาวจะยิ่งเน้นเส้นริ้วรอยต่าง ๆ) ส่วนใบหน้า ให้ใช้ไฮไลต์บลัชเนื้อครีมหรือผงที่มีชิมเมอร์บนโหนกแก้ม ไม่ว่าจะเป็นการทาปากด้วยลิปสติก หรือเพียงแค่แต้มเพียงบาง ๆ ลิปกลอสที่มีประกายแวววาว ก็จะช่วยขับให้ใบหน้าสว่างและริมฝีปากดูเต็มอิ่มขึ้น
ยุค 80s Bold Blush พวงแก้มสุกปลั่ง
แผ่นเสริมไหล่ สีสันจัดจ้าน และทรงผมสุดล้ำ เห็นได้ชัดว่าความ "น้อย" อาจไม่ใช่หัวใจสำคัญของห้วงเวลานี้ แต่การปัดแก้มเป็นแถบในทศวรรษนี้ เป็นเทรนด์หนึ่ง ที่สามารถนำกลับมาปรับใช้ได้กับบลัชออนสีสดใสของยุคนี้ เพื่อให้ได้ลุคที่แข็งกร้าวน้อยลง และดูอ่อนหวานขึ้นได้
เน้นการแต่งแต้มสีสันบนส่วนที่นูนที่สุดของแก้ม (ลองยิ้มดูสิแล้วคุณจะเห็น) เกลี่ยไปตามแนวโหนกแก้มขึ้นไปหาขมับ เพื่อให้สีดูบางเบาอ่อนใส ให้ใช้แปรงปัดแก้ม โดยอย่าจุ่มสีซ้ำสอง คุณสามารถแต่งตาด้วยสีเข้มได้ เช่น สีม่วงเข้ม แต่ริมฝีปากควรเลือกสีเบจหรือชมพูอ่อน เพราะหากเน้นสี ทั้งปากและแก้มให้เด่นไปหมด จะดูเป็นตัวตลกได้
ยุค 90s Perfect Skin ผิวสวยใส
ความฟู่ฟ่าในยุค 80s หลีกทางให้ความเรียบง่ายแบบ Minimalism ในยุคนี้สไตล์การแต่งหน้าจะเน้นโชว์ผิวหน้าสวยใสเป็นหลัก ไม่ใช่การแต้มสีสัน เทคนิคที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนไร้ร่องรอย คือใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดรอยด่างหรือจ้ำแดงใต้ดวงตา บนเปลือกตา และรอบจมูก ทำให้ผิวเรียบสม่ำเสมอกัน ด้วยการลงรองพื้นบาง ๆ (รองพื้นรุ่นใหม่ ๆ ที่ดีที่สุดจะมีเนื้อบางเบาและให้ความชุ่มชื่น) จากนั้น เช็ดรองพื้น (รวมทั้งคอนซีลเลอร์บนเปลือกตา) ให้อยู่ตัวด้วยแป้งฝุ่นเนื้อโปร่งแสง เพื่อให้ดวงตาดูเด่นขึ้น ทาอายแชโดว์สีน้ำตาลอมเทาบนเปลือกตา แล้วใช้แปรงอายไลเนอร์เขียนขอบตาล่างด้วยสีเดียวกัน ปัดมาสคาร่าสีดำหนึ่งครั้งก็พอ
เพื่อให้คิ้วโดดเด่นโดยไม่ดูแข็งจนเกินไป ให้แต่งคิ้ว ด้วยสีที่อ่อนกว่าสีคิ้วธรรมชาติประมาณ 2 เฉด จะทำให้ดูนุ่มนวลขึ้น ส่วนแก้มให้ใช้สีพีชที่ดูเป็นสีกลาง ๆ แต่ต้องให้แน่ใจว่าเมื่อปัดแล้ว คุณไม่ดูซีดเซียวเกินไป จากนั้น ทาลิปสติกแบบดินสอสีชมพูเบจลงบนริมฝีปากที่ลงลิปบาล์มไว้ จะทำให้ริมฝีปากดูนุ่มนวลแต่ก็โดดเด่นชวนมอง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Vol.11 No.42 27 ตุลาคม 2553
