น่ารักได้อีก! น้องมามิ ดาราตัวจิ๋ว จากแจ๋วใจร้ายฯ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณแม่น้องมามิ

          ยังจำกันได้ไหม...ในวันที่ยังสุดแสนจะไร้เดียงสา วัยเพียง 5 เดือน น้องมามิ เด็กหญิงผู้น่ารักได้มาร่วมแจมในละคร "แจ๋วใจร้าย กับคุณชายเทวดา" เมื่อราวกลางปี 2552 โดย น้องมามิ รับบทเป็นหนึ่งในลูกฝาแฝดของพระเอก-นางเอก อั้ม พัชราภา และเป้ อารักษ์ ซึ่งแม้ว่า น้องมามิ จะปรากฎตัวเพียงแค่ฉากสุดท้ายในตอนอวสานของละคร แต่ก็ทำให้ผู้ชมต่างหลงใหลในความน่ารักของ น้องมามิ กันยกใหญ่

          ...วันเวลาผ่านไปปีเศษ มาวันนี้ น้องมามิ เติบโตเป็นหญิงสาวตัวจ้อยในวัย 2 ขวบเศษ ขณะเดียวกัน ความน่ารักในตัวน้องมามิก็เพิ่มพูนขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้ น้องมามิ หรือชื่อจริงว่า ด.ญ. จิตณิตา เต็มอุดมภาค มีงานในวงการบันเทิงตามมากมาย โดยเฉพาะงานถ่ายแบบหนังสือเด็กหลายต่อหลายเล่ม อาทิ ปกหนังสือ Real Parenting, ปกหนังสือบันทึกคุณแม่, ถ่ายแฟชั่นลงหนังสือ Mother&Care บันทึกคุณแม่ และสกู๊ป-คอลัมน์ในหนังลือ อีกหลาย ๆ เล่ม นอกจากนี้ น้องมามิ ยังได้รางวัลจากการประกวด Magic Moments by Pigeon หนูน้อยจอห์นสัน และหนูน้อยผิวสวยของโรงพยาบาลผิวหนังอโศก

          "นอกจากถ่ายแบบลงหนังสือ ก็มีถ่ายแบบเสื้อผ้าเด็ก สินค้าเด็กอีกหลากหลายยี่ห้อเลยค่ะ เช่น Baby Shelter&Yolk, Coolkids, Chiky-Chika, Nunu,Sati ถ่ายแบบให้เทสโก้โลตัส และบิ๊กซี ถ้าใครได้ไปโลตัสช่วงปีใหม่น่าจะเคยเห็นรูปของ น้องมามิ (รูปใหญ่ ใส่มงกุฏเจ้าหญิง และถือคฑา) ติดอยู่ที่โลตัสทุกสาขาเลยค่ะ" คุณแม่แหม่ม-มลิวัลย์ เต็มอุดมภาค แม่ของน้องมามิ กล่าว

          ส่วนพัฒนาการของลูกสาวคนเก่งนั้น คุณแม่แหม่ม เผยว่า จากการสังเกตของคุณแม่เอง และจากหลาย ๆ ความเห็นจากเพื่อนแม่ที่มีลูกในวัยเดียวกัน พบว่า น้องมามิ เป็นเด็กที่มีพัฒนาการหลาย ๆ ด้านที่เร็วกว่าเด็กส่วนใหญ่ในวัยเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น น้องมามิ สามารถท่อง A-Z, ก - ฮ ได้ตอน 1 ขวบ 3 เดือน ถึงแม้จะปนกันไปภาษาอังกฤษบ้างไทยบ้าง ยิ่งพอถึง 2 ขวบ ร้องเพลงได้มากกว่า 10 เพลงแล้ว แถมยังร้องเพลงละครได้อีกด้วย


          "น้องมามิ เป็นเด็กที่พูดจาชัดเจน ฉะฉาน คุยกับพ่อ แม่ และคนอื่น ๆ ได้เป็นเรื่องเป็นราว เริ่มเล่าเรื่องราวได้บ้างแล้ว ส่วนเรื่องความซน หรือความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดาของเด็กวัยนี้ค่ะ อยากรู้อยากเห็นไปหมด เจออะไรก็ถามว่านั่นอะไร นี่อะไร ได้ยินเสียงอะไรแปลก ๆ ก็จะถามว่าเสียงอะไร เจอคนที่ไม่คุ้นเคยก็จะถามว่านี่ใคร" คุณแม่แหม่ม เล่า

          ที่สำคัญ เวลานี้น้องมามิคนงาม ก็เริ่มออกแววรักสวยรักงามให้เห็นบ้างแล้ว โดยคุณแม่แหม่ม บอกว่า ลูกสาวจะเริ่มเลือกเองแล้วใส่เสื้อสีอะไร รองเท้าสีอะไร และเวลาที่เห็นคุณแม่แต่งตัวเธอก็จะขอทาลิปติกและปัดแก้มบ้าง ส่วนในอนาคตนั้น น้องมามิ จะยังคงวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงหรือไม่นั้น ก็ยังเป็นเรื่องที่ตอบไม่ได้ เพราะเธอยังคงไม่เข้าใจกับบทบาทนั้น รวมถึงอาชีพอื่นใดก็ตาม

          "ก็เคยถาม น้องมามิ นะคะว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร น้องไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้ม ๆ คุณแม่เคยเอาหนังสือเรื่องโตขึ้นหนูอยากเป็นอะไรอ่านให้ฟัง เด็กในวัยนี้เค้ายังอาจจะไม่รู้จักเกี่ยวกับอาชีพไหน ทำอะไร คงต้องรอให้โตกว่านี้อีกนิดนึงค่ะ น่าจะตอบคำถามนี้ของคุณแม่ได้"

          สำหรับเคล็ดลับ หรือแนวทางในการเลี้ยง น้องมามิ ให้เป็นเด็กสดใสร่าเริง มีพัฒนาการที่ดีและเร็วนั้น เป็นผลมาจากการเลี้ยงด้วยนมแม่ ซึ่งช่วยพัฒนาด้านไอคิวและอีคิวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งระหว่างที่คุณแม่ให้นมลูก ก็จะเกิดความใกล้ชิด มีสัมพันธภาพที่อบอุ่นแน่นแฟ้น รวมทั้งการหมั่นกอด หอมแก้ม การพูดคุย การบอกรักลูกทุก ๆ วัน และการทำกิจกรรมร่วมกัน อันเป็นการปฏิบัติที่ น้องมามิ ได้รับจากคุณแม่มาโดยตลอด

          "จะบอกว่ารักเค้าทุกวันค่ะ วันละหลาย ๆ ครั้ง แล้วก็จะอ่านหนังสือ หรือนิทานให้ลูกฟังทุกวัน ฝึกให้ลูกพูดตาม ด้วยการละพยางค์สุดท้ายในแต่ละประโยคให้ลูกได้พูดตาม พาลูกออกไปนอกบ้านบ้าง เช่น สวนสาธรณะ หรือสวนสัตว์ ให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และสัตว์ต่าง ๆ นอกเหนือจากการได้เห็นและได้อ่านในหน้งสือ พาไปเจอญาติพี่น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว พาลูกออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเด็กในวัยเดียวกันบ้างตามโอกาส"

          ส่วนใครที่วางแผนจะมีลูก หรือกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ที่อยากให้ลูกเป็นเด็กสดใสร่าเริงนั้น คุณแม่แหม่มของ น้องมามิ แนะนำว่า ก่อนอื่น คุณพ่อ-คุณแม่ ต้องเป็นคนอารมณ์ดีด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ คิดแต่ในสิ่งดี ๆ มองโลกในแง่ดี และควรจะยิ้มให้ลูกทุกวัน ยิ้มทุกครั้งที่ลูกลืมตาตื่น นอกจากนี้ การเล่านิทาน หรืออ่านหนังสือสนุก ๆ ให้เขาฟังบ่อย ๆ รวมถึงการพูดคุย เล่นหยอกล้อกันเป็นประจำ ก็เป็นตัวหล่อหลอมนิสัยและช่วยเรื่องพัฒนาการของลูกน้อยได้ดีเยี่ยม ที่สำคัญหากลูกทำอะไรได้ดี ก็ต้องหมั่นชมเชยและปรบมือเขาด้วย

          และทั้งหมดนี้ คือเรื่องราวของ น้องมามิ และเคล็ดลับวิธีการเลี้ยงลูกของคุณแม่แหม่ม คุณแม่ของ น้องมามิ เด็กหญิงผู้น่ารัก จนใคร ๆ ก็หลงรัก^^