x close

เคล็ดลับย้อนวัย ให้ผิวสวยสดใส ไร้ริ้วรอย



เคล็ดลับย้อนวัยให้ผิวสวยสดใสไร้ริ้วรอย (Lisa)

1.สารเติมเต็มผิว

          หนึ่งในวิทยาการไฮเทคที่เห็นผลทันตาในการกำจัดริ้วรอยและร่องลึกบนผิวก็คือ การฉีดสารเติมเต็มผิวอย่างเช่นกรด ไฮยาลูรอนิค ซึ่งข้อดีของมันก็คือ มันช่วยให้การทำงานของเซลล์ผิวหนังดีขึ้น รวมทั้งยังทำให้สิ่งที่ครีมทำไม่ได้ก็คือ แทรกลึกลงไปในผิวชั้นล่าง และเปลี่ยนความเสียหายของเซลล์ผิวให้กลับดีดังเดิม ผลการฉีดจะยืดยาวราว 4-5 เดือน ซึ่งนอกจะมีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังไม่มีอันตราย

2.คลื่นวิทยุ

          จนถึงขณะนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันว่า การใช้ คลื่นวิทยุ หรือ เทอร์มาจ เป็นวิธีการอย่างเดียวที่ช่วยยกคิ้ว แนวกราม และทำให้ผิวดึงขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักพื้น มันเป็นการใช้คลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นการเติบโตและปรับโครงสร้างของคอลลาเจนในผิวเสียใหม่ ซึ่งการใช้แสงชนิดเข้มข้นอย่าง IPL อาจจะกระตุ้นคอลลาเจนได้ แต่เทอร์มาจทำงานลึกลงไปในผิวหนังชั้นใน ทำให้คุณดูดีทันทีหลังทำ และยิ่งดูดีขึ้นเรื่องๆ ในช่วง 6 เดือนถัดไป เนื่องคอลลาเจนสร้างตัวขึ้นมา มันอาจไม่ใช่คู่แข่งของการผ่าตัดยกหน้า แต่สำหรับในการรักษาความหย่อนคล้อยของผิวโดยเจ็บตัวน้อยที่สุดล่ะก็ มันถือเป็นปรากฎการณ์สำคัญเลยทีเดียว

3.เป็ปไทด์

          ปัจจัยสำคัญของการเกิดริ้วรอยก็คือ คอลลาเจนในผิวลดน้อยลง ไม่ต้องสงสัยว่าวิทยาศาสตร์จะต้องมองหาวิธีแก้ไขโครงสร้างที่จะช่วยพยุงผิวหน้า และก็พบว่าเมื่อคอลลาเจนเรื่มเสื่อมสลายลง เป็ปไทด์จะถูกปล่อยเข้ามาแทนมากขึ้น ครีมที่มีเป็ปไทด์จะเป็นการส่สัญญาณเตือนผิวหลอกๆ ให้ชดเชยการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้ผิวกระชับและริ้วรอยลดน้อยลง

4.ความเครียดของผิว

          งานวิจัยชี้ว่า ผิวร่วงโรยได้เร็วขึ้นในช่วงที่มีความเครียดทางอารมณ์ แต่นอกเหนือการบำบัดทางจิตใจและการผ่อนคลาย อย่างเช่นการเล่นโยคะแล้ว หนทางช่วยเหลืออื่นอย่างสำหรับผิวก็คือการควบคุมไม่ให้ผิวมีการอักเสบ ด้วยการเพิ่มการป้องกันรังสียูวี การให้ความชุ่มชื่น การบริโภคแอนตี้ออกซิแดนซ์ และการหลีกเลี่ยงการให้ผิวเครียด อย่างเช่น การขัดผิวหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี หรือการลอกหน้าด้วยเคมี

5.อาหารผิว

          ไม่จำเป็นว่าการชะลอความร่วงโรยของผิวจะเป็นไฮเทคเสมอไป งานวิจัยล่าสุดพบว่า น้ำมันโรสฮิป เป็นสารที่ช่วยต่อต้านความร่วงโรยตามธรรมชาติที่ทรงประสิทธิภาพ และบำรุงผิวอย่างน่าประทับใจด้วย เช่นเดียวกับการรับประทานน้ำมันดอกอิฟนิ่งพริมโรสเป็นอาหารเสริม ซึ่งอาจไม่ใช่หน้าใหม่ของวงการต่อต้านริ้วรอย หากในการศึกษาวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ใน The international Journat of Cosmetic Science ได้แสดงให้เห็นว่า การรับประทานน้ำมันอิฟนิ่งพริมโรสเม็ดละ 500 มก. จำนวน 6 เม็ด ทุกวัน สามารถช่วยหยุดการร่วงโรยของผิวได้ใน 3 เดือน

6.ขัดลอกผิว

          การทรีตเมนต์อย่างการลอกผิวด้วยสารเคมี และการขัดผิวด้วยเกร็ดอัญมณี เป็นการดูแลความงามที่แพร่หลายกระจายไปอย่างรวดเร็วในร้านเสริมสวย แต่งานวิจัยชี้ว่า การขัดลอกผิวเช่นนี้ไม่ได้วิเศษอะไรมากมายนัก มันยิ่งอาจทำให้ผิวชั้นบนบางลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งเป็นการรบกวนปราการป้องกันผิว และต้องใช้เวลาหลายวันในการซ่อมแซมตัวเอง  มันอาจนำไปสู่อาการระคายเคืองผิวหนังและไวต่อแสงอีกด้วย ใช้การขัดลอกผิวอย่างอ่อนโยนเป็นประจำทุกวันด้วยตัวเองดีกว่า มันจะทำให้ผิวชั้นบนดีขึ้น ให้ความชุ่มชื่น และยังลดเลือนริ้วรอยได้

7.ไลฟ์สไตล์ของคุณ
 
          การเผชิญหน้ากับรังสียูวี มลภาวะ และการสูบบุหรี่ ยังเป็นปัจจัยสำคัญ 3 อันดับแรกของการทำให้ผิวร่วงโรย แต่การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ใกล้เกินไปก็ทำให้ใบหน้าเสี่ยงต่อการร่วงโรยได้เร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องมาจากรังสีไอโอนิกที่จะสะท้อนออกมจากหน้าจอนั่นเอง นอกจากนี้ คุณอาจเคยได้ยินว่า การนอนตะแคงข้างทำให้คุณมีริ้วรอย แพทย์ผิวหนังยังให้อรรถธิบายว่า คุณไม่มีวันมีริ้วรอยในแนวตั้งได้ เนื่องจากแรงโน้มถ่วงตามธรรมชาติจะทำให้เกิดริ้วรอยในแนวนอน พูดอีกอย่างหนึ่งคือ กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวตัวขึ้นและลง ไม่ใช่เคลื่อนที่ไปข้างๆ ริ้วรอยที่เกิดจากการนอนตะแคงข้างนั้นปกติจะจางหายไปเอง  เว้นแต่มันจะถูกทำให้ผิวย่นซ้ำแล้วซ้ำอีก ริ้วรอยพวกนั้นจะเกิดขึ้นอีกเป็นการถาวร ดังนั้น ถ้าการนอนหงายไม่ใช่ทางเลือกของคุณ ลองใช้หมอนผ้าไหม หรือซาติน มักจะลดริ้วรอยจากการนอนให้น้อยลงได้

8.ความลับของขิงและมะนาว

          เป็นที่รู้กันว่าขิงมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และยังเสริมสร้างสุขภาพ และจากการทดลองในห้องแล็ปพบว่า สารสกัดจากขิงนั้น สามารถลดการหดตัวของกล้ามเนื้อผิวหนังได้ด้วย จึงช่วยคลายริ้วรอยลึกให้ตื้นขึ้นได้ และยกกระชับผิวให้เนียนเรียบ ส่วนมะนาวก็มีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และลดการผลิตเมลานิน เมื่อนำมาร่วมกันแล้ว ขิงและมะนาวก็เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ทรงอำนาจอย่างยิ่ง ในการช่วยคุณต่อสู้ริ้วรอยอย่างได้ผล

9.ไวน์แดง โรสแมรี่ และข้าวโอ๊ต

          นอกจากนักวิทยาศาสตร์จะพบแหล่งใหม่ของอนุมูลอิสระที่ทำให้ร่วงโรย พวกเขาก็ค้นพบ แอนตี้ออกซิแดนซ์ ชนิดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย อย่างเช่น Reaveratral ในไวน์แดง กรดโรสมารินิกจากโรสแมรี่ และ กรดแฟรูลิกจากข้าวและข้าวโอ๊ต ซึ่งเป็นอนาคตสำคัญของแอนตี้ออกซิแดนซ์ นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำในการผสมผสานวิตามินเอ ซี  และอี ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของการต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้นด้วย

10.ความเสียหายจากน้ำตาล

          โดยทั่วไปคนเรารับประทานน้ำตาล เฉลี่ยแล้ว 2 ช้อนชา ต่อวัน ซึ่งเป็นบริมาณที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่ามากเกินไป การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปทำให้เกิดอนุมูลอิสระมากขึ้นในร่างกาย ซึ่งจะทำร้ายเซลล์ และนำไปสู่การแก่ก่อนวัย ฉะนั้น จงระวังเรื่องน้ำตาลที่ ซ่อนอยู่ในอาหารต่างๆ อย่างเช่น ประหลาดใจไหมว่าถ้าเราจะบอกว่าไอศครีมวานิลลาขนาดปกติ (112 กรัม) มีน้ำตาล (4.5 กรัม) น้ำส้มหนึ่งแก้วเสียอีก






ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เคล็ดลับย้อนวัย ให้ผิวสวยสดใส ไร้ริ้วรอย อัปเดตล่าสุด 17 สิงหาคม 2552 เวลา 10:28:21
TOP