x close

เรื่องหอม ๆ ที่สาว ๆ ควรรู้...

น้ำหอม



เรื่องหอม ๆ ที่สาว ๆ ควรรู้... 
(modernmom)
erfume...perfect
โดย: จิงเกอร์เบลล์

             ผ่านเคาน์เตอร์น้ำหอมทีไรเป็นต้องขอแวะเข้าไปชื่นชมดมกลิ่นดูสักนิด แหม ...ผู้หญิงเราส่วนใหญ่ก็ชอบของหอม ๆ กันทั้งนั้น จริงไหมคะ

1. รู้จัก& ใช้ถูก

             สำหรับน้ำหอมที่มีขายอยู่จะแบ่งความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเป็น 3 ระดับ คือ

             Eau de Parfum (โอเดอเพอร์ฟูม) เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 15-18 % กลิ่นติดทนนานถึง 10-12 ชั่วโมง

             Eau de Toilette (โอเดอทอยเล็ตต์) เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 4-8 % กลิ่นติดอยู่ได้นาน 6-8 ชั่วโมง

             Eau de Colonge (โอเดอโคโลญจน์) เป็นน้ำหอมที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมในปริมาณ 3-5 % กลิ่นติดอยู่ได้นาน 4-5 ชั่วโมง

2. เลือกกลิ่นแท้ที่ถูกใจ

             เวลาจะเลือกซื้อน้ำหอมให้ได้กลิ่นจริง ๆ เวลามาอยู่บนตัวเรา จิงเกอร์เบลล์จะใช้วิธีฉีดน้ำหอมลงบนผิวแล้วทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีถึงจะมาดมกลิ่นที่ผิวอีกครั้ง คราวนี้เราก็จะได้กลิ่นน้ำหอมจริง ๆ และแม้น้ำหอมขวดเดียวกันแต่ก็ให้กลิ่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคนที่น้ำหอมไปทำปฏิกิริยาด้วยค่ะ

3. 8 จุด...หอมกรุ่น

             วิธีการฉีดน้ำหอมที่จิงเกอร์เบลล์ได้ไปรู้มา และพอลองนำไปใช้ก็ได้ผลจริง ๆ ก็คือหลัก 8 จุดชีพจรค่ะ อย่าเพิ่งขำคิดว่า จิงเกอร์เบลล์อ่านนิยายกำลังภายในมากเกินไปเสียก่อนล่ะ 8 จุดที่ว่าก็คือ ซอกคอ 2 ข้อมือ 2 ข้อพับแขน 2 และข้อพับขา 2 รวมเป็น 8 จุดพอดิบพอดี ที่แนะนำอย่างนี้ก็เนื่องจากว่าทั้ง 8 เป็นจุดชีพจรที่จะมีความร้อนเกิดขึ้นบนผิว จึงช่วยให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมได้ดี นั่นเอง

             หลายคนอาจจะบอกว่า ฉีด 8 จุดอย่างนี้ก็เปลืองน้ำหอมแย่เลยสิ จิงเกอร์เบลล์ก็เสียดายกลัวน้ำหอมหมดเร็วเหมือนกันค่ะ ก็เลยใช้วิธีฉีดน้ำหอมบนสำลีสัก 2-3 ปี๊ด แล้วค่อยมาทาตามจุดชีพจรเอา หอมใช้ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนสำลีที่เหลือ ก็เอามาเหน็บไว้ที่เสื้อชั้นในกลิ่นน้ำหอมก็จะส่งกลิ่นหอมอบอวล ให้ตัวเองชื่นใจดีด้วยล่ะ

             อีกวิธีที่จะช่วยให้กลิ่นหอมอยู่ติดทนนานก็คือ การใช้ชุด body care ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สบู่ แป้ง โลชั่น ที่เป็นกลิ่นเดียวกับน้ำหอมค่ะ ความจริงวิธีนี้ก็เข้าท่าดีนะคะ เสียแต่จิงเกอร์เบลล์มีงบพอซื้อเฉพาะน้ำหอมอย่างเดียว ก็เลยไม่ค่อยได้เอาวิธีนี้มาใช้เท่าไรนัก

4. อากาศร้อน...อ่อน ๆ เข้าไว้

             เพราะอุณหภูมิมีผลโดยตรงกับกลิ่นน้ำหอม ดังนั้นจึงมีคำแนะนำว่า ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งอากาศเอื้อให้กลิ่นน้ำหอมกระจายตัวได้ดีอยู่แล้วนั้น ควรเลือกใช้น้ำหอมประเภทโอเดอทอยเล็ตต์หรือโคโลญจน์ ที่กลิ่นไม่รุนแรงจะลงตัวกว่า ส่วนช่วงหน้าหนาว ก็เหมาะที่จะใช้น้ำหอมประเภทเพอร์ฟูม ซึ่งกลิ่นหอมแรงและติดทนมากกว่านั่นเอง

             สิ่งที่จะเตือนสาว ๆ เมืองร้อนอย่างพวกเราไว้สักหน่อยก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการที่ให้จุดที่เราทาน้ำหอมไปถูกแดด เพราะแสงแดดอาจทำปฏิกิริยากับน้ำหอม ทำให้ผิวบริเวณนั้นไหม้เกรียมเป็นแผลได้ค่ะ

5. ใช้คุ้ม เก็บถูกวิธี

             คงน่าเจ็บใจถ้าต้องโยนน้ำหอมราคาแพง ๆ ทิ้งไปเพราะกลิ่นเปลี่ยนและ สีของน้ำหอมเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการบ่งบอกถึงการเสื่มอมสภาพ เนื่องจากการเก็บรักษาน้ำหอมที่ไม่ถูกวิธีค่ะ

             วิธีการเก็บที่ถูกต้องก็คือ เก็บไว้ไม่ให้ถูกแสงแดดในห้องที่อากาศไม่ร้อน ง่าย ๆ เท่านี้เองค่ะ

             ส่วนเรื่องอายุการใช้งานนั้น น้ำหอมแต่ละประเภทมีอายุการใช้แตกต่างกันดังนี้ค่ะ

             Eau de Parfum (โอเดอเพอร์ฟูม) เปิดใช้แล้ว 1 ปี ยังไม่เปิด 3-4 ปี

             Eau de Toilette (โอเดอทอยเล็ตต์) และ Eau de Colonge (โอเดอโคโลญจน์) ) เปิดใช้แล้ว 1-2 ปี ยังไม่เปิด 2-3 ปี

น้ำหอมกับคุณแม่

             ความจริงไม่มีข้อห้ามสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ในช่วงท้องอ่อน (ไตรมาสแรก) คุณแม่อาจจะมีอาการแพ้ท้อง เกิดฉุนกับกลิ่นโปรดได้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ก็อาจจะทำให้ผิวของของคุณแม่เองอาจเกิดการ แพ้ง่ายกว่าปกติ จึงควรงดใช้น้ำหอมไปสักระยะหากเกิดอาการผิดปกติขึ้นค่ะ

             ส่วนคุณแม่ลูกอ่อนคงต้องงดฉีดน้ำหอมให้ตัวหอมฟุ้งไปก่อน เพราะกลิ่นน้ำหอม จะไปกลบกลิ่นตัวคุณแม่ทำให้เจ้าตัวเล็กสับสนกับกลิ่นนมแม่ ที่คุ้นเคยได้ รวมถึงละอองน้ำหอม อาจไประคายเคืองผิวและระบบทางเดินหายใจที่บอบบางของลูกได้ค่ะ

เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องหอม ๆ ที่สาว ๆ ควรรู้... อัปเดตล่าสุด 8 มีนาคม 2554 เวลา 15:45:19 59,881 อ่าน
TOP