เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
จากผลสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เผยแพร่โดยองค์กร Women\'s Watch China ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรมีศูนย์กลางอยู่ที่ปักกิ่ง พบว่า 1 ใน 5 ของผู้หญิงได้ตอบรับว่า เคยมีประสบการณ์การถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน โดยผลสำรวจพบว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ของผู้เข้าร่วมการสำรวจจาก 10 บริษัทในมณทลกวางตุ้ง เจียงซู เหอเป่ยและปักกิ่งเคยตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศ
ทั้งนี้ คำจำกัดความของการคุกคามทางเพศหมายรวมถึง การถ้ำมอง การเข้าประชิดอย่างไม่เหมาะสม ส่งข้อความหรืออีเมล์ที่มีเนื้อหาลวนลามทางเพศ หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่น การแสดงท่าทางลามกอนาจารหรือการจูบ การกอดหรือกระทั่งการข่มขืน
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ หรือบ้างก็ออกจากงานไปแทนที่จะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้กับผู้ที่คุกคามเธอ เหตุผลที่พวกเธอทำเช่นนั้นก็เพราะขาดการสนับสนุนและยากที่จะรวบรวมหลักฐาน ผู้สำรวจกล่าว
มีเพียงแค่ 45.6% ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อที่นำเรื่องฟ้องผู้คุกคามตนและมีเพียงแค่ 34.3% ที่รายงานต่อผู้จัดการ และน้อยกว่า 20% ที่นำเรื่องแจ้งตำรวจนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ในทางตรงกันข้าม มีผู้เข้าร่วมสำรวจ 87.5% ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการคุกคามทางเพศกล่าวว่าพวกเธอจะเพียงแค่เตือนผู้คุกคาม "หากการคุกคามเกิดขึ้น" และ 70% กล่าวว่าพวกเธอจะรายงานหรือฟ้องผู้คุกคามเหล่านั้น
สำหรับเหตุผลที่ผู้หญิงหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อการคุมคามทางเพศเหล่านี้ไม่รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เพราะพวกเธอกังวลเกี่ยวกับผลเสียที่จะตามมา เช่น ตกเป็นเป้าการถูกนินทา ถูกบังคับให้ออกจากงาน หรืออาจได้เงินเดือนน้อยลงถ้าผู้ที่คุกคามเธอเป็นผู้มีอำนาจในบริษัทนั้น มีเพียงแค่ 5 %ของเหยื่อที่กล่าวว่าพวกเธอรู้ว่าจะแจ้งใครหลังจากถูกคุกคามและ 45% กล่าวว่าจะไม่มีรายงานเกี่ยวกับที่ทำงานที่พวกเธอทำอยู่
"ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อหลายคนเลือกที่จะอยู่เงียบ ๆ เพราะพวกเธอกลัวว่าจะเสียงาน โดยเฉพาะหากผู้คุกคามนั้นเป็นเจ้านายหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง" เฉิน เว่ย ทนายความเฉพาะทางในเรื่องผู้หญิง ที่สำนักงานกฎหมาย YINGKE กล่าว และว่า "แม้ว่าเหยื่อบางรายจะมีความกล้าพอที่จะแจ้งความ แต่พวกเธอก็ตระหนักว่าเป็นการยากที่จะรวบรวมหลักฐานเพราะการคุกคามส่วนใหญ่เกิดขึ้นในที่ลับตาคนหรือเกิดขึ้นอย่างรวกเร็วจนเหยื่อไม่มีเวลาที่จะโต้ตอบ"
ในกวางโจว นางสาวหลินหลิน (นามสมมติ) อายุ 25 ปี ตัดสินใจออกจากงานหลังจากที่เธอถูกคุกคามทางเพศโดยผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งในบริษัทของเธอ
"ฉันคิดว่านี่คือการคุกคามทางเพศ เพราะเขามายืนข้าง ๆ ฉัน และโอบรอบตัวฉันอย่างแนบชิดในห้องคาราโอเกะระหว่างงานปาร์ตี้" เธอให้สัมภาษณ์
หลิน ยังกล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้นเธอได้บอกแม่และเพื่อนสนิทบางคนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ตัดสินใจว่าจะไม่รายงานเรื่องดังกล่าวให้บริษัทหรือตำรวจทราบ
"ฉันคิดว่ามันไม่ได้ผลหรอกหากรายงานเรื่องของฉันไป เพราะถ้าหากได้ผลจริงก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ของฉัน" เธอ กล่าว
นอกจากนี้ 81% ของผู้สำรวจกล่าวว่า พวกเขาอยากจะเห็นนายจ้างมีการควบคุมดูแลที่ดีขึ้น และนำบทลงโทษที่เหมาะสมมาใช้สำหรับการคุกคามทางเพศ และ 66% กล่าวว่า นายจ้างควรจัดให้มีโครงการบอกกล่าวลูกจ้างว่าจะหลีกเลี่ยงการคุกคามทางเพศในที่ทำงานได้อย่างไร