x close

14 ปีที่ยังมั่นคง กรพินธุ์-เอก กฤษณาวารินทร์

ดีเจเอก - กรพันธุ์

14 ปีที่ยังมั่นคง กรพินธุ์-เอก กฤษณาวารินทร์ (i Do)

          น้อยคนนักที่จะทราบว่า ดีเจเอก กฤษณาวารินทร์ ดีเจคลื่นชิล เอฟเอ็ม 89 คบหากับอดีตนักร้องสาวค่ายอาร์เอส คุณพิน-กรพินธุ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นแอร์โฮสเตสประจำสายการบินแห่งหนึ่ง ด้วยระยะเวลาบ่มเพาะต้นรักที่ยาวนานถึง 14 ปี จนทำให้สงสัยว่า ทั้งคู่สามารถประคับประคองความรัก จนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างไร

สะดุดรัก

          ย้อนกลับไปวันแรกที่ทั้งสองพบกัน ตอนนั้นคุณเอกรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการประกวดร้องเพลงของค่ายแกรมมี่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คุณพินกำลังเดินตามความฝันในการเป็นนักร้องของตนเอง ด้วยการเข้าประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ ทำให้ทั้งสองมีโอกาสได้พบกัน

          คุณพินย้อนเล่า "ตอนนั้นไปประกวดร้องเพลงในโครงการประกวดร้องเพลงที่แกรมมี่จัดขึ้น พอได้รางวัลก็ได้ไปร้องเพลงโชว์ในรายการที่พี่เอกเป็นพิธีกร ครั้งนั้นไม่ได้ปิ๊ง เพราะยังไม่รู้จัก แต่ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่าพี่เอกยิ้มให้แล้วเรามองไม่เห็น เขาเลยนึกว่าเราหยิ่ง"

          คุณเอกเสริม "ผมเป็นพิธีกร เวลามีแขกรับเชิญมา ก่อนอัดรายการก็ต้องทำความรู้จักกันก่อน เห็นเขานั่งแต่งหน้าอยู่ ก็ยิ้มให้เขา แต่เขาเฉย ๆ เราก็คิดว่านี่ใคร ดารานักร้องพอเรายิ้มให้ เขาก็ยิ้มตอบ แต่นี่เชิดใส่"

          แม้ครั้งแรกที่พบกันจะไม่ได้สร้างความประทับใจให้กับทั้งคู่ แต่เมื่อทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง ทำให้มีโอกาสพูดคุย จนคุณเอกเริ่มต้องการรู้จักคุณพินเพิ่มมากขึ้น โดยคุณแอกขอเบอร์โทรศัพท์คุณพินจากทีมงาน

          ซึ่งคุณพินเล่าว่า "พี่ทีมงานบอกว่ามีคนมาขอเบอร์ แต่พี่คนนั้นให้เบอร์ไปแค่ครึ่งเดียว ตัวเลขที่เหลือให้ไปหาเอง ตอนนั้นพินยังไม่ทราบว่าใครขอ"

          ตัวเลขที่เหลือคุณเอกไม่ได้หาต่อ แต่แล้วก็มีเหตุที่ทำให้คุณพินต้องติดต่อมาหาคุณเอกเอง

เสียงเพลงสานสัมพันธ์

          คงเป็นเพราะโชคชะตากำหนดให้ทั้งสองต้องรู้จักกัน เหตุการณ์บังเอิญที่มักจะสร้างเรื่องราวสนุก ๆ ก็เกิดขึ้นกับทั้งคู่

          คุณพินเล่า "วันนั้นพินขับรถไปเรียน เปิดวิทยุฟัง เจอพี่เอกจัดรายการพอดี ก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นพี่ที่เคยเจอกันตอนอัดรายการ ก็เลยคิดว่าน่าจะโทรศัพท์ไปขอเพลง จึงโทรไปหาพี่ทีมงานคนเดิมเพื่อขอเบอร์โทรศัพท์พี่เอก แล้วก็โทรไปขอเพลงห่างไกลเหลือเกิน พี่เอกก็เปิดให้ จากนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยมา"

          คุณเอกเล่าบ้าง "ผมรีบเปิดเพลงที่เขาขอให้ทันที เพราะรู้ว่าเขาเป็นใคร ตอนนั้นแอบดีใจ ตื่นเต้นเล็กน้อย ประทับใจมาก"

          แม้เพลงที่ขอจะเป็นเพลงห่างไกลเหลือเกิน แต่กลับทำให้ทั้งสองคนมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะต่างก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของกันและกันแล้ว

          คุณเอกเริ่มก่อนบ้าง "พอได้เบอร์เขาแล้วก็โทรไปคุยกับเขาเรื่อย ๆ ชวนไปเที่ยวกินข้าว ดูหนัง"

          ด้านคุณพิน "ตอนที่ออกไปเที่ยวกับพี่เอก ก็รู้สึกสงสัยว่าเขามาจีบเราหรือเปล่า และยิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนที่เคยขอเบอร์โทรศัพท์ ก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น แต่ตอนนั้นประทับใจที่พี่เขาเป็นดีเจที่มีชื่อเสียง มนุษยสัมพันธ์ดี แต่เพราะเคยมีพี่คนนึงที่รู้จักกันเตือนว่า คนในวงการบันเทิงเจ้าชู้ ตอนนั้นพินเลยยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย"

          แม้คุณพินจะเริ่มสนใจในตัวคุณเอก แต่ก็ยังไม่ให้ใจเต็มร้อย เนื่องจากมีเสียงรอบข้างทำให้เธอรู้สึกไม่มั่นใจในตัวคุณเอกมาก ทั้ง ๆ ที่ในครั้งนั้นคุณเอกเอ่ยปากขอคบเป็นคนรัก

          คุณพินกล่าว "หลังจากรู้จักกันได้ 6-7 เดือน พี่เอกก็ขอเป็นแฟน แต่ไม่รู้จะตอบยังไง ก็เลยไม่ตกลง เพราะใจยังกลัวว่าพี่เอกเจ้าชู้ จึงปฏิเสธ ทำให้พี่เอกหายเงียบไปเลย 3 วัน"

          ด้านคุณเอก "พอเขาปฏิเสธ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนโดนต่อยคาง รู้จักกันมาขนาดนี้แล้วยังไม่รู้หรือว่าผมเป็นคนยังไง ทำไมไปฟังคนอื่น ไม่เชื่อใจผม ผมก็เลยเงียบไปสักพัก"

ดีเจเอก - กรพันธุ์

นักร้อง กับ ดีเจต่างค่าย

          คุณพินใช้เวลาไตร่ตรองความรู้สึกว่า ที่ผ่านมาคุณเอกมีความเป็นสุภาพบุรุษ จากนั้นทั้งคู่ก็คบหากันในฐานะคนรัก จนคุณพินเรียนจบได้เป็นนักร้องในค่ายอาร์เอส ในขณะที่คุณเอกทำงานอยู่บริษัทแกรมมี่ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ จึงส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสอง

          คุณพินเล่า "หลังอัลบั้มแรกออกมา ก็มีข่าวว่ารักข้ามค่าย ผู้ใหญ่ก็เรียกไปคุย เพราะในยุคนั้นไม่ค่อยอยากให้มีข่าว แต่พี่เอกก็เข้าใจ ทำให้เราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม ส่วนมากพี่เอกจะมาหาที่บ้าน ดูหนัง ทำกับข้าวทานกัน"

          ด้านคุณเอกก็มีความเข้าใจเหตุผลที่ทำให้พวกเขาไม่ได้ใกล้ชิดกัน รวมทั้งยังรู้สึกเสมอว่าเขามีความสุขและสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณพิน

          "แม้ช่วงแรก ๆ ที่เราคบกันจะต้องมีการปรับตัวหลายอย่าง เพราะไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน เขาจะออกแนวหวาน ๆ นิ่ม ๆ ส่วนผมจะออกแนวลุย ๆ จะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้วางแผนชีวิต ส่วนเขาจะวางแผนชีวิตเป็นขั้นเป็นตอน เมื่อคบกันก็เห็นข้อดีของเขาตั้งแต่แรก ผมก็พยายามลดความผาดโผนของชีวิตลงไป เวลาผมอยู่กับเขาแล้วรู้สึกสบายใจ เขาไม่เจ้ากี้เจ้าการเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเรามาก"

ขอแต่งงาน

          เมื่อคนสองคนที่แตกต่างกันมาคบกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องปรับตัวและยอมรับในตัวตนของคนอีกฝ่ายหนึ่งให้ได้ กระทั่งเวลาผ่านไป 4-5 ปี คุณเอกก็เอ่ยปากขอคุณพินแต่งงาน แต่กลับได้รับคำปฏิเสธ จนต้องใช้เวลาถึง 14 ปี กว่าจะถึงวันที่คุณพินตอบรับคำขอแต่งงานของคุณเอก

          คุณพิน "เป็นคนความฝันเยอะ อยากทำนู่นทำนี่ พอได้เป็นนักร้องในช่วงแรกก็ยังสนุก อยากทำสิ่งที่ตัวเองรักให้เต็มที่ที่สุด พี่เอกมาขอแต่งงานช่วงนั้นยังไม่พร้อม ตอนนั้นคบกันได้ 4-5 ปีแล้ว จากนั้นห่างกันอีกเป็นปี พินก็ได้เป็นแอร์โฮสเตส พี่เอกมาขออีกครั้ง ก็ยังไม่พร้อม"

          คุณเอกเล่าต่อ "ตอนนั้นผมเริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันยากเย็นไปหรือเปล่า แต่ก็รู้สึกเสียดายเวลาที่คบกันมา รวมถึงเสียดายน้องด้วย ก็เลยคิดว่าลองดูเพราะน้องก็มีเหตุผล เขาไม่ได้ปฏิเสธเพราะไม่ได้ชอบเรา หรือไปมีคนอื่น เขาแค่อยากทำในส่วนของเขาให้มันชัดเจน เป็นเหตุผลที่ยอมรับได้"

          การเอ่ยปากขอแต่งงานของคุณเอกผ่านไปถึง 2 ครั้ง โดยที่คุณพินปฏิเสธด้วยความไม่พร้อม กระทั่งคุณเอกเอ่ยปากขอแต่งงานอีกเป็นครั้งที่ 3 กลับยังคงได้รับคำตอบเช่นเดิม สร้างความรู้สึกเสียใจให้กับคุณเอกเป็นอย่างมาก

          "ตอนนั้นเสียใจ คิดว่าหรือว่ามันจะไม่ใช่ แต่ก็ไม่แสดงออกมากมาย คิดอยู่คนเดียว" คุณพินตอบทันที "ก็รู้สึกเหมือนกันว่าพี่เอกต้องเสียใจ ตอนนั้นยังไม่อยากแต่ง เพราะแม่พินอยู่คนเดียว ท่านแยกทางกับคุณพ่อไปแล้ว พี่เขาก็นิ่งไปเลย สงสารเขาเหมือนกัน"

ดีเจเอก - กรพันธุ์

14 ปีที่รอคอย

          จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากคบหากันมาถึง 14 ปี คุณเอกก็เอ่ยปากขอคุณพินแต่งงานอีกครั้ง ในครั้งนี้คุณพินยอมรับที่จะร่วมชีวิตคู่กับคุณเอกแต่โดยดี

          "เมื่อถึงเวลาที่เราพร้อม พินก็ส่งสัญญาณบอกเขาว่าแต่งงานกันก็ได้นะ พี่เอกก็บอกว่าที่ผ่านมาคือการขอครั้งสุดท้ายจะไม่ขออีกแล้ว ตอนนั้นเราอึ้งไปเลย คิดว่าพี่เขาพูดจริง ๆ หรือเปล่า แล้วเขาก็ไม่ขออีกเลย ตอนนั้นก็น้อยใจ"

          ด้านคุณเอก "จริง ๆ ผมล้อเล่น ในใจผมดีใจมาก เพียงแต่หาเวลาที่เหมาะสม อยากจะเซอร์ไพรส์เขา จนถึงวันเกิดเขาเมื่อปีที่แล้ว ก็ซื้อแหวนซื้อเค้กไปเซอร์ไพรส์เขาที่บ้าน ผมซ่อนแหวนไว้ในเค้ก ผมตัดเค้กส่วนที่มีแหวนให้เขาทาน แต่เขาตักไม่โดนแหวนสักที จนผมต้องตักป้อนจนเหลือจุดที่มีแหวนเป็นคำสุดท้าย เขาก็ตักทานแล้วถึงรู้"

          คุณพินเล่าความรู้สึก "กินเข้าไป ก็รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในนั้น หยิบออกมาเป็นแหวน น้ำตาร่วง ดีใจ แล้วพี่เอกก็บอกว่าแต่งงานกับพี่นะ ตอนนั้นตอบเลยว่าแต่งค่ะ"

          ทุกวันนี้ทั้งสองคนร่วมกันสร้างครอบครัวเล็ก ๆ ของตัวเองอย่างเรียบง่าย อบอุ่นและลงตัว มีบ้างที่ต้องห่างไกลกันเนื่องจากอาชีพของคุณพิน แต่ระยะทางไม่ได้สร้างปัญหาหรือเงื่อนไขในความสัมพันธ์

          คุณพิน "เวลาเราห่างกันสำหรับพินคิดว่ามีข้อดีที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง อยากจะทำอะไรก็ทำ ให้เวลาตัวเองมากขึ้น แต่เรายังคงคิดถึงกัน กลับมาเจอเขายิ่งรู้สึกคิดถึง ผูกพันมากขึ้น"

          ด้านคุณเอก "เวลาห่างกันจะคิดถึงกันมากขึ้น ปกติเวลาเจอกันก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เวลาเขาไปบินก็คิดถึงเขามาก แม้ตอนอยู่ด้วยกันจะรู้สึกธรรมดา พอกลับมาเจอกันยิ่งรู้สึกคิดถึงกันมากขึ้น"

          ในตอนท้ายทั้งสองยังฝากวิธีเติมความหวานตลอดระยะเวลา 14 ปีไม่ให้จืดจางจนถึงวันที่ตัดสินใจร่วมชีวิตคู่

          "ผมว่าเป็นที่บางคนว่าเขาตั้งจุดหมายอย่างไร ถ้าตั้งจุดหมายว่าความรักคือการเดินทางไปด้วยกัน สุดท้าย 14 ปีมันก็ไม่นาน แต่หากตั้งเป้าหมายเพียงแค่พิชิตใจคน ๆ นี้ให้ได้ มันก็จบเมื่อได้เป็นคนรักกัน ต่อจากนั้นมันก็คือความเบื่อความชินชา การพยายามหาสิ่งใหม่ แต่ผมไม่ได้มองแบบนั้น"

          ด้านคุณพิน "ก่อนแต่งงานควรเรียนรู้กันให้ดีก่อน แต่ถ้ามั่นใจว่าคนนี้ใช่ แต่งไปเถอะ อย่าไปกลัว พยายามประคับประคองให้อยู่ด้วยกันไปได้ตลอด"

          แม้ทั้งคู่จะมีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง แต่หากเราคิดจะร่วมทางแห่งรักไปด้วยกันแล้ว คงต้องใช้ทั้งความพยายาม และความอดทนในการทำความเข้าใจยอมรับในตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่ง เพราะเมื่อเข้าใจกันและกันแล้วก็จะเป็นคู่ที่รักกันมั่นคงและยาวนานอย่างที่หวังไว้


เรื่องราวผู้หญิง ความสวยความงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย 
 




ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ฉบับเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2554 ISSUE 48


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
14 ปีที่ยังมั่นคง กรพินธุ์-เอก กฤษณาวารินทร์ อัปเดตล่าสุด 4 ตุลาคม 2554 เวลา 20:35:04 7,784 อ่าน
TOP