x close

ดูแลผิวพรรณรอบดวงตา


ดูแลผิวพรรณรอบดวงตา (สวยด้วยแพทย์)


          สภาพโดยทั่วไปของผิวพรรณรอบดวงตา เป็นผิวที่มีความบอบบางมาก มีกล้ามเนื้อใต้ผิวหนังน้อย ลักษณะเช่นนี้มักทำให้ผิวในบริเวณดังกล่าวมีปัญหาเรื่องริ้วรอย เกิดการช้ำบวมใต้ตา มีรอยหมองคล้ำ และริ้วรอยแห่งวัยเกิดขึ้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ วัยที่เพิ่มขึ้น การใช้เครื่องสำอาง การขยี้ตาแรง ๆ แสงแดด แม้แต่การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็ถือเป็นสาเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวรอบตวงตาเกิดปัญหาริ้วรอย
ดังนั้น วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา เจ้าของดวงตาจึงจำเป็นต้องระมัดระวังไม่ให้ผิวพรรณบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากภายนอก หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรงๆ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณน้อย และเหมาะสมกับสภาพผิว

          ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ในบริเวณดังกล่าว ควรลดปริมาณการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ เนื่องจากสารเคมีที่ได้จากควันบุหรี่ และแอลกอฮอล์ในสุรา เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะเส้นใยที่เรียกว่า อิลาสติน เกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดรอยย่นบนผิวพรรณได้ง่าย สำหรับสาเหตุที่มาจากกรรมพันธุ์และวัยที่เพิ่มมากขึ้น เจ้าของดวงตาก็ควรจะดูแลผิวรอบดวงตาให้ได้รับความชุ่มชื้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ 

          แต่หากป้องกันแล้วยังมีปัญหา การแก้ไขก็มีหลายวิธีแล้วแต่สภาพของปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ปัญหารอยหมองคล้ำและริ้วรอยรอบตวงตา ถ้าไม่มากจนเกินไป ก็สามารถใช้ยาหรือครีม เพื่อลดริ้วรอยและความหมองคล้ำนั้นได้

          ปัจจุบันครีมหรือยาประเภทเครื่องสำอางมีจำหน่ายตามท้องตลาดเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของสารพิเศษชนิดต่างๆ ที่เป็นปัจจัยในการชะลอการเสื่อมสภาพของผิวพรรณ และริ้วรอยแห่งวัยได้ เช่น สาร AHA ที่ได้จากผัก ผลไม้ ซึ่งสารเหล่านี้มนุษย์รู้จักนำเอามาใช้กันตั้งแต่โบราณแล้ว เช่น การใช้แตงกวาเพราะเชื่อว่าจะช่วยลดรอยหมองคล้ำได้

          นอกจากนี้ ยังมีเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวอีกมากมายที่นำสารต่า ๆ มาใช้ในการลดริ้วรอยแห่งวัย เช่น BHA หรือกรดเบต้าไฮดร็อกซี, วิตามินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เอ ซี อี รวมทั้งสารสกัดจากพืชต่างๆ อีกมากมาย ที่มักถูกนำมาเป็นส่วนผสมในครีมและเครื่องสำอาง 
การใช้เครื่องโฟโนโฟรีซีส (Phonophoresis) หรือการทำโฟโน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถลดรอยคล้ำใต้ดวงตา ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า โดยเครื่องมือดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการนวดด้วยคลื่นเสียง บวกกับความสั่นสะเทือนเพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหน้า ก่อนทำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสภาพผิว และทายาบำรุงผิวลงบนใบหน้า จากนั้นใช้เครื่องโฟโนคลึงบนใบหน้าเบาๆ ตัวยาจะถูกดูดซึมเข้าผิวหนัง และเข้าไปบำรุงเซลล์ทำให้เกิดการสร้างตัวมากขึ้นของเซลล์ และทำให้รอยย่นบนใบหน้าลดลงเรื่อย ๆ 

          นอกจากวิธีการแก้ไขดังที่กล่าวมาแล้วยังมีวิธีการใช้สารพิเศษในการแก้ไข คือ การฉีดสารโบท็อกซ์ (BOTOX) ซึ่งเป็นโปรตีนสกัด โดยสารนี้จะทำหน้าที่หยุดยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่เป็นสาเหตุของริ้วรอย ส่งผลให้ริ้วรอยอย่างรอยตีนกาถูกขจัดออกไป 

          การรักษาริ้วรอยรอบดวงตา ยังมีวิทยาการใหม่ล่าสุดคือ การใช้เลเซอร์ ที่ไม่ทำให้เกิดแผล แต่มีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ทำให้ริ้วรอยกลับมาดีขึ้น 
อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีที่สุดก็คือ การดูแลผิวพรรณให้เกิดความชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผิวพรรณทั้งทางตรงและทางอ้อม หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแสงแดดเป็นเวลานานๆ เลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีผลกระทบและระคายเคือง พักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่และเพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดหรือลดการสูบบุหรี่ และดื่มสุรา ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยทำให้ผิวสวย ดูอ่อนกว่าวัย และมีสุขภาพดีตลอดไป




เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสารสวยด้วยแพทย์
ฉบับบ 54 กุมภาพันธ์ 2547

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดูแลผิวพรรณรอบดวงตา อัปเดตล่าสุด 25 กันยายน 2552 เวลา 11:20:46
TOP