แผลเป็นตัวร้ายที่ทำลายความสวย (Appeal)
โดย : นพ.คชินท์ วัฒนะวงษ์ แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล, วว.ศัลยศาสตร์ทั่วไป, วว.ศัลยศาสตร์ตกแต่ง คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี
"แผลเป็น" แค่ได้ยินชื่อก็ไม่อยากจะมีซะแล้วจริงไหมล่ะ เพราะเวลาที่เรามีแผลเป็นเกิดขึ้นบนร่างกายตามที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ แขน ขา หน้า หรือหลังก็ต่างเป็นจุดที่ต้องใช้เวลาในการรักษากันทั้งนั้น แต่จะรักษาได้อย่างไร ทำยังไงเจ้าแผลเป็นถึงจะดูดีขึ้น (ไม่มีทางหายไป) จะยากง่ายแค่ไหนไปดูกัน
แผลเป็นจะไม่ใช่เนื้อปกติ ซึ่งอาจไม่ได้แบ่งเป็นชนิดที่ชัดเจนนัก บางแผลเป็นมันก็อาจจะนูนขึ้นมา แต่บางแผลเป็นก็อาจจะไม่นูนแต่จะขยายออกแทน ซึ่งเกิดขึ้นได้ทั้งแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ หรือแผลจากสิวก็เป็นได้ แผลเป็นบางแบบอย่าง คีลอยด์ (Keloid) คือแผลเป็นที่มีลักษณะนูน แดง และคัน ลักษณะคล้ายเป็นเนื้องอกมากกว่าแผลเป็น เพราะมันจะมีกระบวนการที่ทำให้เซลล์แบ่งตัว โดยไม่หยุดยั้งแล้วก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ บางทีแค่เจาะหูรูเดียวก็โตขึ้นมากกว่าปกติได้ ที่สำคัญ คือแผลเป็นแบบนี้ไม่ได้เป็นแผลเป็นธรรมชาติ แต่เป็นความผิดปกติของการแบ่งคอลลาเจนมากกว่า
แผลเป็นคีลอยด์ (Keloid)
คีลอยด์ ส่วนใหญ่จะพบในบริเวณหน้าอก หัวไหล่ หัวหน่าว วิธีรักษาที่ง่ายที่สุด คือฉีดยาให้ลดการสร้างคอลลาเจน เพื่อก้อนมันจะยุบลง ถ้าอยู่ตามติ่งหู ก็ผ่าตัดให้มันก้อนเล็กลง แล้วอาจตามด้วยการฉายแสง ในรายที่เป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ถ้าอยู่ตรงลำตัวเราจะไม่ใช้วิธีฉายแสง เพราะรังสีอาจจะไปโดนอวัยวะส่วนอื่นได้ ซึ่งอาจมีผลทำให้ไม่ปลอดภัยนัก ดังนั้นจึงเน้นวิธีการฉีดยา โดยฉีดไปตามขั้นตอน คือเริ่มจากสเตียรอยด์ แล้วถ้าไม่ได้ผล ก็ค่อยฉีดกลุ่มเคมีบำบัด ผลข้างเคียง จากการฉีดสเตียรอยด์อาจทำให้สีผิวด่างเพราะมันจะทำให้ร่างกายสร้างเม็ดสีน้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้วิธีฉีดเพียงอย่างเดียวอาจไม่ยุบก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นบางกรณีก็จำเป็นต้องฉีดเรื่อย ๆ ควบคู่ไปกับการติดแผ่นซิลิโคน หรือหาทางรักษาหลาย ๆ ทางควบคู่กันไป อย่างเช่น เลเซอร์ก็จะช่วยทำให้สีมันดูจางลง หรืออาจใช้วิธีผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งวิธีนี้ก็จะยังมีรอยแผลเดิมอยู่ แต่จะไม่นูนเหมือนเดิมเท่านั้น
แผลเป็นหลุมสิว
สำหรับแผลเป็นที่เกิดจากหลุมสิว ผิวไม่เรียบก็จะใช้วิธีขัดผิว (dermabrasion) เพื่อให้หลุมดูตื้นขึ้น แต่ต้องระวังไม่ขัดลึกจนเกินไป เพราะอาจจะกลายเป็นแผลเป็นที่ไม่สวยได้ ควรจะค่อย ๆ ขัดบริเวณขอบ ๆ หลุมสิวให้เนียนขึ้นจนเห็นไม่ชัดว่าไม่เป็นหลุม ทั้งนี้อาจจะใช้วิธียิงเลเซอร์ ก็อาจช่วยได้ (ควรปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ)
แผลเป็นที่เกิดจากอุบัติเหตุ
หากเป็นแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุและมีการเย็บแผลแต่เย็บไม่ค่อยดีนัก กรณีนี้สามารถตกแต่งให้มันดูดีขึ้นได้ เช่น เย็บแผลมาแล้วมันซ้อนกันทำให้ดูนูนไม่สวยก็สามารถตัดตรงแนวนั้นออกแล้วก็ตกแต่งนิดหน่อยให้รอยแผลมันชนกันได้รูปสวยงาม แต่ถ้าแผลอยู่ในตำแหน่งใบหน้าเราสามารถทำให้รอยแผลสังเกตได้ยากขึ้น โดยการผ่าให้มันเป็นแนวซิกแซก (W plasty) ซึ่งแผลที่เป็นเส้นตรงมันจะเห็นชัด แต่ถ้าแผลที่เป็นซิกแซกมันจะเห็นไม่ค่อยชัด วิธีนี้เรียกว่า ดับเบิ้ลยู พลาสตี้ แต่หากเป็นแผลที่ซ่อนอยู่ตามรอยใบหน้า ร่องแก้ม รอยย่นของหน้าผาก ขอบคิ้ว มันจะกลืนกันไป ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหามากนัก ถ้าแผลเป็นอยู่ตรงบริเวณหนังศีรษะแล้วทำให้ผมร่วง หรือผมไม่ขึ้นในบริเวณนั้นก็จะต้องใช้วิธีปลูกผมตรงแผลเป็นเข้าช่วย เพื่อให้ผมขึ้นมาคลุมแผลไว้
แผลเป็นจากอีสุกอีใส งูสวัด
สำหรับแผลเป็นอีสุกอีใสต้องรอให้แผลหายสนิทก่อน ไม่จำเป็นต้องรีบทายารักษาแผลเป็นเลยทันที เพราะยังไงแผลเป็นจะจางลงไปตามธรรมชาติ แค่ระวังอย่าให้แผลติดเชื้อในช่วงที่เป็น เพื่อไม่ไห้รอยแผลกลายเป็นแผลลึกมาก พอหลังจากแผลหายดีแล้วพยายามอย่าโดนแดดในช่วงที่ผิวหนังยังอ่อนบาง เพราะมันจะกระตุ้นให้กลายเป็นรอยดำ ถ้าจำเป็นต้องโดนแดดให้ทาครีมกันแดด แต่พอหลังจาก 6 เดือนสีมันจะเริ่มกลืนกันไปเอง
แผลเป็นจากงูสวัดที่มีลักษณะเป็นรอยต่าง ๆ ต้องมารักษาเรื่องสี ถ้าสีเข้มอาจจะต้องใช้เลเซอร์เพื่อให้สีมันจางลง ถ้าสีมันอ่อนกว่าผิวหนังปกติจะใช้วิธีทายาให้สีของรอยแผลเป็นดูเข้มขึ้น แต่ทั้งนี้เรื่องสีเป็นเรื่องที่จะทำให้มันกลับมาเป็นปกติเท่าสีผิวเดิมเลยค่อนข้างยาก สุดท้ายแล้วอาจจะใช้วิธีแต่งด้วยเครื่องสำอางช่วยปิดแทน ถ้าสมมติมันอยู่ในส่วนที่สามารถแต่งได้
ไม่ว่าจะเป็นแผลเป็นที่เกิดจากอะไรก็ตาม วิธีทางการแพทย์เป็นเพียงวิธีที่ช่วยให้แผลเป็นดีขึ้นเท่านั้น แต่ไม่อาจทำให้แผลเป็นกลับมาเป็นลักษณะผิวหนังเหมือนก่อนเกิดรอยแผลได้ ดังนั้นสาว ๆ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายควรใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ดูแลสุขภาพกายภายในและภายนอกให้ดี เพื่อไม่ให้รอยแผลเป็นถามหาได้ และก่อนเลือกยาที่ใช้ควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะใช้เพราะการชักจูงหรือโฆษณา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
มิถุนายน 2555 ISSUE 14