เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับการเสริมความงามให้ร่างกายด้วยวิธีการ "คาร์บ็อกซี่" (carboxy) หรือการฉีด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เข้าสู่ผิวหนังนั้น ที่ผ่านมาเราคุ้นหูแต่ว่ามันเป็นวิธีการสำหรับลดไขมันเฉพาะจุด แต่ในปัจจุบัน มันกำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งทรีตเม้นต์ความงาม เพื่อความอ่อนเยาว์แล้ว หลังจากพบว่าการทำคาร์บ็อกซี่ ยังสามารถช่วยลดปัญหาริ้วรอย และความหมองคล้ำใต้ดวงตาได้อีกต่างหาก
กลไกการทำงานของการทำคาร์บ็อกซี่เพื่อความอ่อนเยาว์ ก็คือ เมื่อฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปยังบริเวณที่ต้องการแล้ว จะทำให้จุดนั้นมีค่าก๊าซดังกล่าวสูงขึ้น ด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย ก็จะนำก๊าซออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดในบริเวณนั้นดีขึ้นด้วย (ก๊าซออกซิเจนถูกลำเลียงมาสู่เซลล์ทางกระแสเลือด) รวมทั้งยังส่งผลกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ยังมาซึ่งผิวพรรณที่ดูยืดหยุ่นกระชับ มีน้ำมีนวลมากขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงกว่าเดิมนั่นเอง อีกทั้งแผลที่เกิดจาการฉีดคาร์บ็อกซี่ยังมีขนาดเล็กมาก (เข็มเล็กกว่า 0.3 มิลลิเมตร) จึงไม่ทิ้งรอย และหายได้ไว
ทั้งนี้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นก๊าซที่เกิดขึ้นในร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลพวงจากการเผาผลาญพลังงานภายใน และถูกระบายออกจากร่างกายทางการหายใจออก จึงนับว่าเป็นทรีตเม้นต์ชนิดให้ความไว้วางใจได้ ตราบเท่าที่นำเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม ก๊าซไม่ละลายเข้าสู่ระบบไหลเวียนเลือด และทำด้วยฝีมือแพทย์ผู้มีความชำนาญเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ดี วิธีการใช้คาร์บ็อกซี่เพื่อผลด้านความอ่อนเยาว์นั้น เพิ่งถูกริเริ่มขึ้นในคลีนิกความงามแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ภายใต้นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับอนุญาตจากคนไข้เพื่อทำรับการทดสอบรักษา รอยแผล ผิวลาย ใต้ตาคล้ำ และ กระชับพวงแก้ม ด้วยวิธีนี้แล้ว แม้ว่าคนไข้ทุกรายจะระบุว่าชอบและพึงพอใจกับผลที่ได้ และยินดีที่จะเข้าทรีตเม้นต์เช่นนี้อีกแม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่เขาก็ยังยืนยันว่า การทำคาร์บ็อกซี่เพื่อจุดประสงค์เช่นนี้ ยังคงต้องผ่านการทดสอบทางคลินิกต่อไป เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมทั้งทำความเข้าใจกับกลไกการทำงานของมันให้มากขึ้น