เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เอ มีสาว ๆ คนไหนเป็นนัก DIY ทำไฮไลท์ผมด้วยตัวเองกันบ้างไหมคะ ? ความจริงแล้วมันก็ฟังดูยากเนอะ และคงยุ่งยากกว่าการทำสีผมธรรมดา ๆ เยอะเลยล่ะ (เคยลองทำเองแล้วเปรอะเปื้อนเละเทะไปหมด ^^" ... แต่ก็แสนจะภูมิใจ) เพิ่งจะไปสืบทราบมาว่ามีสาวบางคนทำไฮไลท์ผมเองจริง ๆ แถมยังบอกว่าไม่ยากอย่างที่คิดด้วย แค่ไปหาชุดทำไฮไลท์สีที่ต้องการมา ก็จะมีอุปกรณ์มาให้พร้อม ... ขั้นตอนอาจจะเหนื่อยกว่าทำสีผมธรรมดาสักนิด แต่ใครที่อยากลองจะต้องสนุกไปกับมันด้วยอย่างแน่นอน เอ้า ถ้าใครอยากจะเก็บข้อมูลไว้เผื่อจะกลับไปทำเองดูบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
1. ทดสอบสี
เมื่อได้สีไฮไลท์ตามที่คุณต้องการมาแล้ว ก่อนที่จะจัดการทำไฮไลท์กับทั้งศีรษะ ก็ต้องมาเทสต์สีกันก่อนค่ะ ทำได้ด้วยการทดลองกับผมส่วนที่หลบจากสายตาคนอื่น ๆ มากที่สุด นั่นคือก็ผมบริเวณท้ายทอยด้านในนั่นเอง ผสมน้ำยาเล็กน้อย แล้วปาดลงไปให้ทั่วช่อผมเล็ก ๆ ที่แบ่งออกมา ทิ้งเอาไว้ 10 นาที ล้างออกและดูว่าได้สีสว่างตามที่ต้องการแล้วหรือยัง หากว่ายังให้ทาน้ำยาทับต่อแล้วทิ้งเอาไว้อีกคราวละ 5-10 นาที จนกว่าคุณจะได้ระดับสีผมตามที่คุณต้องการ เท่านี้คุณก็จะรู้แล้วว่า เมื่อถึงเวลาลงมือจริง ๆ จะต้องทิ้งน้ำยาไฮไลท์ไว้บนศีรษะนานเท่าไร
2. ห้ามสระผม
หากวางแผนว่าจะลงมือทำไฮไลท์ผมแล้ว ก็ให้เว้นห่างจากการสระผมอย่างน้อย 1 วัน ถึงปกติคุณจะเป็นคนรักสะอาดชอบสระผมบ่อย แต่ถ้าจะลองทำสีผมดูล่ะก็คงต้องทนเป็นคนซกมกไปก่อนสัก 1-2 วันนะจ๊ะ ^^
3. ดีไซน์สไตล์การไฮไลท์แบบที่ต้องการ
ในชุดอุปกรณ์สำหรับทำไฮไลท์ผมนั้น นอกจากจะมีน้ำยาและถุงมือมาให้พร้อมแล้ว ยังมีอุปกรณ์อีกชิ้นสำคัญอีกอย่างหนนึ่ง คือหมวกสำหรับสวมศีรษะ บนหมวกจะมีรูพรุน ๆ กระจายอยู่ทั่ว รูเหล่านั้นสำหรับไว้เกี่ยวดึงผมให้แยกออกมา (ใช้เข็มถักโครเชต์หัวใหญ่ ๆ เพื่อช่วยเกี่ยวออกมาได้) เพื่อสะดวกต่อการทำไฮไลท์ และไม่ให้ไปเปรอะเปื้อนผมส่วนอื่น ๆ นั่นเอง คราวนี้ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องดีไซน์สไตล์ของตัวเองว่า ต้องการให้กลุ่มผมที่จะไฮไลท์เป็นแบบไหน ผมกระจุกเล็กหรือกระจุกใหญ่ ชอบให้กระจายทั่วศีรษะหรืออยากทำเฉพาะบางบริเวณ จากนั้นก็ดึงปอยผมออกมาตามสไตล์ที่คุณต้องการเลยค่ะ
4. หวีผม
เมื่อแบ่งกระจุกผมออกมาเสร็จแล้ว รวบเก็บผมที่อยู่ด้านในให้มิดชิด และหวีผมส่วนที่แบ่งออกทำไฮไลท์เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผมพันกัน
5. ลงน้ำยาให้เคลือบทุกส่วนของเส้นผม
ผสมน้ำยาแล้วลงมือปาดสีลงไปให้เคลือบทั่วปอยผมตั้งแต่โคนจรดปลายให้สม่ำเสมอกัน (ความสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นผลที่ได้ออกมาอาจทำให้ปอยผมกระดำกระด่างเหมือนลายเสือดาวก็ได้นะจ๊ะ) ทำไล่ไปจนครบทุกปอยผมที่ได้แบ่งเอาไว้ ปริมาณน้ำยาจะเพียงพอกับผมของคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความยาว และปริมาณผมที่แบ่งมาทำไฮไลท์ หากคุณผมยาวมาก และต้องการไฮไลท์เยอะ อาจต้องใช้น้ำยาถึง 2 ชุด
6. เช็ดน้ำยาที่เปรอะเปื้อน
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะทำสีผมด้วยตัวเองแล้วจะไม่มีน้ำยาบางส่วนหยดลงมาเปื้อนใบหน้า หรือว่าต้นคอ น้ำยาเหล่านี้อาจสร้างความระคายเคืองแก่ผิวหนังได้ เพราะฉะนั้นทันทีที่ลงไฮไลท์เสร็จแล้วให้เช็ดส่วนที่หยดเปื้อนออกไปโดยไว ก่อนที่สีของมันจะติดแน่นไปกับผิวของคุณ ไม่อย่างนั้นก็ต้องหาทาง เช็ดออก กันอีกภายหลัง
7. รอจนครบตามเวลาที่กำหนด
ขั้นตอนนี้ไม่มีอะไรยุ่งยากไปกว่าทำใจให้สบาย นั่งดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ ฟังเพลงกัน หรือทำเล็บไปชิล ๆ เพื่อทิ้งช่วงให้น้ำยาได้เข้าทำงานกับเส้นผมตามระยะเวลาที่ได้ทดลองเอาแล้วในขั้นตอนแรก
8. เพิ่มสีอีก (หากต้องการ)
เมื่อครบตามเวลาแล้ว อย่าเพิ่งรีบถอดหมวก แต่ให้เช็ด-ล้าง น้ำยาไฮไลท์ที่ทำเอาไว้ออก ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้หากใครต้องการที่จะทำไฮไลท์สีอื่นทับเข้าไปเป็นชั้นที่สอง หรือทำไฮไลท์สีอื่น ๆ กับผมกระจุกที่เว้นเอาไว้ยังไม่ได้ทำในช่วงแรก ก็สามารถลงมือในขั้นตอนนี้ได้เลย เพราะฉะนั้นการวางแผนและเตรียมการมาเป็นอย่างดีจะทุ่นเวลาของคุณไปได้เยอะเลยค่ะ ไม่ต้องถอดหมวกล้างผม ใส่หมวกใหม่แล้วแบ่งผมอีก
9. สระด้วยแชมพูสำหรับผมทำสี
เมื่อทำไฮไลท์ได้ครบทุกสีที่ผมทุกส่วนตามที่ต้องการแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาลงมือสระล้างกันจริง ๆ จัง ๆ เสียที และเพื่อถนอมผมที่ผ่านการทำสี รวมทั้งเพื่อให้สีที่ทำติดทนนาน ให้ใช้แชมพูและคอนดิชั่นเนอร์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีมาให้พร้อมเมื่อซื้อชุดอุปกรณ์ทำสีผม แต่ไม่เพียงสระด้วยแชมพูชนิดนี้ในครั้งแรกหลังการทำสีผมเท่านั้น คุณควรจะเปลี่นนแชมพูและคอนดิชั่นเนอร์ที่ใช้อยู่ให้กลายเป็นสูตรสำหรับผมทำสีด้วย เพื่อคงความเงางามและสีที่สวยชัดเอาไว้นาน ๆ ค่ะ
ขั้นตอนทั้งหมดอาจจะดูยุ่งยากไปสักนิด แต่ทำเสร็จออกมาแล้วรับรองว่าคุณจะภูมิใจกับมันม๊ากมากแน่นอน แถมยังสบายกระเป๋ากว่าการเดินเข้าร้านทำผมเยอะเลยล่ะค่ะ ^^