เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
คุณเป็นอีกคนหนึ่งหรือเปล่าที่มีผมเส้นใหญ่ หนา และประสบปัญหาผมพันเป็นสังกะตัง ไม่เคยสางผมได้สุดปลายเสียที ต้องสะดุดปมผมตรงนั้นตรงนี้ทุกทีไป ขนาดเพิ่งจะแปรงผมมาใหม่ ๆ ไม่ถึง 5 นาที ผมก็กลับไปยุ่งกระเซอะกระเซิงเหมือนเดิม ยิ่งมีผมยาวยิ่งอ่อนอกอ่อนใจ เพราะแทบจัดทรงอะไรไม่ได้เลย วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีแก้ปัญหาน่าปวดหัวนี้ให้คุณแล้วค่ะ
1. คอนดิชั่นเนอร์ ขั้นตอนที่ขาดไม่ได้
หากต้องการแก้ปัญหาผมพันกัน สิ่งสำคัญที่จะขาดไปเสียไม่ได้คือการบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นคอนดิชั่นเนอร์แบบล้างออกขณะสระผม ลีฟอินคอนดิชั่นเนอร์ที่ควรใส่ผมทุกครั้งก่อนการจัดแต่งทรง รวมไปถึงหมักผมด้วยการทำทรีทเม้นท์เข้มข้นอย่างน้อยทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ผมของคุณก็จะนุ่มลื่นขึ้น พันกันน้อยลง และจัดทรงได้ง่ายขึ้นด้วย ส่วนใครที่ผมมันง่ายและกลัวว่าการบำรุงด้วยคอนดิชั่นเนอร์บ่อย ๆ จะยิ่งทำให้ผมของคุณมันกว่าเดิม ก็มีทริคง่าย ๆ อยู่ที่การใช้คอนดิชั่นเนอร์เฉพาะส่วนปลายผมเท่านั้นเองค่ะ
2. ล้างผมด้วยน้ำเย็น
ใครที่ชอบอาบน้ำอุ่นต้องตั้งใจฟังให้ดี เพราะน้ำอุ่น ๆ ที่อาบสบายตัวเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมคุณยุ่งพันกัน เนื่องจากมันกระตุ้นเปิดเกล็ดผม ผมจึงหยาบ สาก และเสียความชุ่มชื้น แถมพันกันได้ง่ายมาก ๆ ควรเปลี่ยนจากน้ำอุ่นมาอาบน้ำเย็น นอกจากจะสดชื่นหนังศีรษะแล้ว น้ำเย็นจะยังช่วยปิดเกล็ดผม เก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในเส้นผมได้ดี ผมจึงเรียบ ลื่น ไม่พันกัน แถมยังเงางามมากขึ้นด้วย
3. ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมพันกัน
ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมพันกันน่าจะเป็นมิตรแท้สำหรับสาว ๆ ที่ผมเส้นใหญ่ หยาบ และพันกันง่าย มันมาในหลายรูปแบบทั้งเป็นเซรั่ม ครีม และสเปรย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีคุณสมบัติเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมด้วย ผลิตภัณฑ์รูปแบบนี้จะช่วยให้คุณรักษาผมที่ลื่น และไม่พันกันไปได้ตลอดทั้งวัน แต่ถ้าใครอยากลองทำสเปรย์ป้องกันผมพันกันด้วยตัวเอง ก็แค่บีบคอนดิชั่นเนอร์ที่คุณใช้ 1 ช้อนโต๊ะลงไปในขวดสเปรย์ จากนั้นเติมน้ำจนเต็มแล้วเขย่าให้เข้ากัน คุณก็ได้สเปรย์กันผมยุ่งแบบง่าย ๆ แล้วค่ะ
4. เซย์โนกับหวีแปรง
หวีที่สาว ๆ ใช้กันบ่อย ๆ คงจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ หวี (comb) และหวีแปรง (brush) และถ้าใครมักหยิบแต่หวีแปรงมาใช้อยู่เป็นประจำ เห็นทีจะต้องมาปรับความเคยชินกันใหม่แล้วล่ะค่ะ เลือกหวีประจำตัวมาสองแบบ คือหวีซี่ห่างและหวีซี่ถี่ ใช้หวีซี่ห่างหวีขณะผมเปียก จะช่วยคลายปมผมได้โดยไม่ดึงหรือรั้งเส้นผมให้เจ็บหนังศีรษะ จากนั้นใช้หวีซี่ถี่หวีตาม ผมก็จะเรียบ ลื่น และไม่พันกัน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่หวีแปรงไม่สามารถทำได้นั่นเอง
5. ไม่มวย/ขมวด/บิด ขณะผมเปียก
การแก้ปัญหาผมพันกันต้องอาศัยเทคนิคที่เหมาะสมในการสระและเช็ดผมสักเล็กน้อย ขณะสระหากเป็นไปได้ไม่ควรสระและขยี้ที่ปลายผม (เราสระผมเพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรก ซึ่งมักอยู่ที่หนังศีรษะเป็นส่วนใหญ่ หาใช่ที่ส่วนปลายผมนะจ๊ะ) นอกจากนี้หลังสระผมเสร็จแล้วให้บีบน้ำออกจากผม และซับให้แห้งมากที่สุด ห้ามขมวดแล้วบิดผมเหมือนกับบิดผ้า เพราะผมนั้นอ่อนแอมากในยามที่เปียก นอกจากนี้ก็ไม่ควรขยี้ผมขณะที่กำลังเป่าแห้งด้วย เพราะจะทำให้ผมยิ่งพันกันมากขึ้นค่ะ
6. เลี่ยงผลิตภัณฑ์สำหรับผมที่ผสมแอลกอฮอล์
ผลิกหาฉลากเพื่ออ่านส่วนผสมสักนิดว่าผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่คุณใช้ โดยเฉพาะที่มาในรูปกระป๋องสเปรย์และแบบหัวฉีดทั้งหลายนั้น มี "แอลกอฮอล์" เป็นส่วนผสมหรือไม่ แม้ว่ามันจะช่วยให้ผมของคุณเซตตัวได้ไว แต่ก็ทำร้ายผมไปในขณะเดียวกัน ทั้งทำให้แห้งและกระด้าง เมื่อสภาพผมเป็นเช่นนี้ปัญหาผมยุ่งยิ่งไม่ต้องถามถึง หนักหนาสาหัสกว่าเดิมแน่ ๆ เลยล่ะ
7. นอนสวย ๆ ตื่นมาผมไม่พันกัน
ถ้าคุณโอเคกับผมที่มวยหรือถักเปียไว้ยามนอนหลับ ก็ขอให้ทำเช่นนี้ก่อนนอนทุกคืนเลยค่ะ เพราะว่ามันจะขจัดปัญหาตื่นมาแล้วหัวยุ่งเป็นรังนกได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าทำแบบนี้แล้วนอนไม่ค่อยสบายศีรษะเท่าไหร่ ให้ลองใช้ผ้าพันคอหรือผ้าโพกศีรษะที่ทำมาจากผ้าซาตินคลุมผมเอาไว้ยามนอน หรือจะเป็นปลอกหมอนผ้าซาตินก็ได้ มันจะลดการเสียดสีระหว่างเส้นผมกับหมอน ช่วยให้ผมไม่ฟูยามตื่นนอน คราวนี้จะได้ตื่นมาแล้วสดใส มีผมที่ไม่ยุ่งเหยิง จัดทรงได้ง่ายทุก ๆ วันเลย ^^