เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การแต่งหน้าเป็นหนทางในการสร้างความโดดเด่นให้กับองค์ประกอบที่ดีที่สุดของใบหน้า อีกทั้งช่วยกลบและเบี่ยงเบนสายตาไปจากจุดบกพร่อง เรียกว่าถ้าแต่งอย่างเหมาะสม ไม่ว่ายังไงก็จะช่วยให้คุณดูสวยขึ้นได้แน่นอนค่ะ แต่ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องความสวยงามของใบหน้าเท่านั้นที่เมคอัพมอบให้กับคุณได้ เรื่องอายุก็สามารถกำหนดได้ด้วยการแต่งหน้าเช่นกัน เพราะตัวเมคอัพที่คุณเลือกใช้ และวิธีที่คุณแต่งหน้า สามารถกำหนดได้ว่าผิวของคุณจะเปล่งปลั่งขนาดไหน เรียบเนียนดีไหม สว่างใสหรือเปล่า ถ้าแต่งถูกวิธีรับรองลดอายุไปได้เป็น 10 ปีเลยล่ะค่ะ อยากรู้กันใช่ไหมว่าต้องแต่งยังไงกันบ้าง ตามมาดู 9 ทริคการแต่งหน้ากระชากวัยที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันเลยค่ะ
1. รองพื้นเนื้อบางเบา ให้ความปกปิดอย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกรองพื้นผิดจะทำให้ผิวของคุณดูแก่ขึ้นได้มาก จากหน้าที่ดูวอก ๆ ลอย ๆ และริ้วรอยที่ถูกเน้นให้เห็นเด่นชัดกว่าเดิม แม้รองพื้นเนื้อหนักจะให้การปกปิดดี แต่ก็ทำให้หน้าดูหนาเหมือนแต่งหน้าเค้ก ยิ่งถ้าตบแป้งตามลงไปก็จะดูแห้ง ๆ แตก ๆ แถมผิวดูไม่มีน้ำมีนวลเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก แบบนี้ต้องเปลี่ยนมาใช้รองพื้นเนื้อบางเบาแทน ซึ่งปกปิดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ได้เปรียบกว่ามากที่ยังทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ เบาสบายผิวหน้า หน้าไม่วอก ตบแป้งตามก็ไม่แตกเหมือนแต่งหน้าเค้กด้วย
2. ไม่ต้องเขียนขอบตาล่าง คุณผู้หญิงหลายคนคุ้นเคยกับการเขียนทั้งขอบตาบนและล่างมาตลอดตั้งแต่เริ่มแต่งหน้าใหม่ ๆ แต่เมื่ออายุของคุณถึงวัยที่เริ่มสังเกตเห็นถุงใต้ตา และรอบดวงตาเริ่มดูคล้ำชัดเจนขึ้น ก็ถึงเวลาที่ต้องเลิกเขียนขอบตาล่างแล้วล่ะค่ะ เพราะยิ่งเขียนก็จะยิ่งทำให้ตาล่างดูช้ำและหมอง จึงยิ่งดูแก่และโทรม แค่เขียนขอบตาบนอย่างเดียวก็ทำให้ดวงตาของคุณดูคม กลมโตขึ้นได้แล้ว
3. มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อนซี้ตัวนี้ที่ขาดไม่ได้ มอยส์เจอไรเซอร์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการบำรุงผิว และยิ่งสำคัญมากขึ้นสำหรับการเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า ผิวที่ได้รับการบำรุงจากมอยส์เจอไรเซอร์มาแล้วเป็นอย่างดีจะแน่นฟู ดูสดใส เนียนเรียบ ส่งผลให้แต่งหน้าได้ติดผิว แถมเมคอัพก็เนียนไปกับผิวหน้าดีด้วย เปรียบเทียบกับการแต่งหน้าบนผิวที่ขาดมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงให้ชุ่มชื้น ก็จะดูกร้าน แห้งหยาบ แต่งหน้าสวยแป๊บเดียวก็เลอะเลือน รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมหันมาให้ความสำคัญกับการใช้มอยส์เจอไรเซอร์กันให้มากขึ้น ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนเลยนะคะ
4. บลัชเนื้อครีม แก้มสวยฉ่ำไม่ตกร่อง ปัญหาของการใช้บลัชออนทั่ว ๆ ไปก็เหมือนกับการใช้แป้งแต่งหน้า ที่สามารถเข้าไปตกอยู่ตามร่องริ้วรอย ทำให้ยิ้ม หัวเราะ หรือแสดงอารมณ์ทางสีหน้าแต่ละทีก็จะเห็นริ้วรอยเหล่านี้เป็นเส้น ๆ ได้อย่างชัดเจน ลองเปลี่ยนมาใช้บลัชเนื้อครีมดูสิคะ ปาดแก้มตอนลงรองพื้นเสร็จใหม่ ๆ แล้วเบลนด์ให้เนียนไปกับผิว เท่านี้ก็จะได้แก้มที่ฉ่ำวาวเปล่งปลั่ง แถมยังไร้ปัญหาตกร่องด้วย
5. อายแชโดว์สีโทนร้อนผสมชิมเมอร์ ช่วยสร้างเอฟเฟกต์หนังตาตึง อายแชโดว์ที่ผสมชิมเมอร์เนื้อละเอียดสามารถพรางรอยพับหรือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่เปลือกตาได้ จึงช่วยให้หนังดูตึงและเรียบขึ้น แต่คววรเลือกใช้เฉพาะอายแชโดว์ที่โทนร้อนอย่างสีทอง สีบรอนซ์ สีพีช หรือสีกุหลาบ มากกว่าจะเลือกเฉดสีโทนเย็นอย่างสีเทา หรือสีเงิน เพราะอาจทำให้ดวงตาดูบวมและคล้ำกว่าเดิม
6. เบลนด์อายไลน์เนอร์นิดหน่อย ช่วยให้ดูเด็กลง แทนที่จะกรีดตาคม ๆ ซึ่งให้ลุคที่ดูดุ ลองหันมาใช้แปรง คอตตอนบัด หรือที่ทาตาหัวฟองน้ำ เบลนด์เส้นอายไลน์เนอร์ที่ขอบตาบนซึ่งคุณเพิ่งเขียนลงไปให้ดูเบลอขึ้นเล็กน้อย ความคมของเส้นที่ลดลงจะทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ และอ่อนเยาว์ลงค่ะ
7. เบลนด์ขอบปากด้วยอีกนิด ช่วยลดอายุได้อีกนะ การลดอายุให้ใบหน้าด้วยการเบลนด์ นอกจากจะใช้ได้ดีกับเส้นอายไลน์เนอร์แล้ว ยังใช้กับเส้นลิปไลน์เนอร์หรือเส้นขอบปากได้อีกด้วย หลังจากเขียนขอบปากและลงลิปสติกเรียบร้อยแล้ว ใช้ให้ปลายนิ้วของคุณแตะซับไปตามรอบ ๆ ขอบปาก เพื่อให้รอยของดินสอเขียนขอบปากดูจางลง ก็จะได้เรียวปากที่ดูนุ่มนวลเหมือนเด็กขึ้น
8. เขียนขอบตาด้านในด้วยอายไลน์เนอร์สีเบจ ดวงตาที่ดูกลมโต สดใส ทำให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น ลองใช้อายไลน์เนอร์แบบดินสอสีเบจเขียนขอบตาด้านในดู จะช่วยสร้างเอฟเฟกต์ให้พื้นที่สีขาวของดวงตามีเพิ่มขึ้น เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำให้ดวงตาดูสดใสกลมโตขึ้น
9. เลือกใช้ลิปสติกสีสดใส ลิปสติกสีเข้มทำให้ใบหน้าของคุณดูสูงวัย ลองเลือกใช้ลิปสติกเฉดสดใสของสีพีช สีชมพู หรือสีนู้ด และเลือกใช้ลิปสติกเนื้อซาตินที่ให้ความนุ่ม ทำให้ริมฝีปากดูฉ่ำแต่ไม่มันเยื้ม แทนการใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์หรือเนื้อกลอสที่แวววาวจัด ก็จะทำให้ดูสวยเฟรชกระชากวัยไปได้หลายปีเลยค่ะ
